รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 23 มกราคม 2556

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 23, 2013 13:42 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 23 มกราคม 2556

Summary:

1. นายกรัฐมนตรีเผย 8 ยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจปี 57

2. ค่าเงินบาทแข็งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธุรกิจไทยเข้าซื้อกิจการต่างแดน

3. การท่องเที่ยวของพม่าเติบโตโดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเกิน 1 ล้านคน และมีคนไทยมากที่สุด

Highlight:

1. นายกรัฐมนตรีเผย 8 ยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจปี 57
  • นายกรัฐมนตรี บรรยายพิเศษในการประชุมสัมมนานโยบายสำหรับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศ โดยกล่าวว่า ยุทธศาสตร์สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจปี 57ประกอบด้วย 8 ยุทธศาสตร์ อันได้แก่ 1) ยุทธศาสตร์เร่งรัดการพัฒนาประเทศและเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน 2) ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งรัฐ 3) ยุทธศาสตร์การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ 4) ยุทธศาสตร์การศึกษา คุณธรรม จริยธรรม คุณภาพชีวิตและความเท่าเทียมกันในสังคม 5) ยุทธศาสตร์การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 6) ยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรม 7) ยุทธศาสตร์การต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดการยอมรับจากนานาประเทศ และ 8) ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ยุทธศาสตร์สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจปี 57 มีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อใช้ในการตอบสนองต่อทิศทางอนาคตของประเทศ สำหรับประเทศไทยนั้น การที่จะทำให้ประเทศหลุดพ้นจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้น จำเป็นจะต้องลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจระหว่างผู้ที่มีรายได้มากกับผู้ที่มีรายได้น้อย เน้นการปรับโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการทำให้ชีวิตคุณภาพของประชาชนดีขึ้น ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้พยายามแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจโดยได้ออกนโยบาย เช่น การเพิ่มค่าแรง 300 บาทต่อวัน การเพิ่มสวัสดิการผู้สูงอายุ การพักหนี้เกษตรกร อย่างไรก็ดี การเตรียมความพร้อมยุทธศาสตร์สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจปี 57 ยังมีความกังวลต่อปัจจัยที่ควบคุมได้ยากคือ ภาวะเศรษฐกิจและสังคมโลกที่ผันผวนในปัจจุบัน รัฐบาลจึงมีความพยายามเพิ่มผลิตภาพระยะยาว (Productivity) ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของประเทศภายใต้ยุทธศาสตร์ฟื้นฟูและสร้างอนาคต (พ.ศ. 2555 - 2562)
2. ค่าเงินบาทแข็งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธุรกิจไทยเข้าซื้อกิจการต่างแดน
  • บจ. เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี คาดว่าแนวโน้มค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งถือว่าส่งผลดีกับการออกไปซื้อกิจการในต่างประเทศ เพราะได้รับประโยชน์ในเรื่องของต้นทุนที่ต่ำลง ขณะเดียวกันยังช่วยลดผลกระทบจากค่าเงินบาทด้วย เช่น กรณีศึกษาของ บจ. ไทยเบฟที่เข้าซื้อกิจการของกลุ่มเอฟแอนด์เอ็น
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารเท่ากับ 29.7 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นร้อยละ 3.0 จากช่วงเดียวกันของเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นไปในแนวทางเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าเงินยูโร หยวน ริงกิตมาเลเซีย และวอนเกาหลี ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าในอัตราที่มากกว่าค่าเงินสกุลอื่นๆ ทำให้ดัชนีค่าเงินบาท (NEER) ในสัปดาห์นี้แข็งค่าขึ้นร้อยละ 1.94 จากสัปดาห์ก่อนหน้า สอดคล้องภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้มีนโยบายสนับสนุนให้ภาครัฐและเอกชนไปลงทุนในต่างประเทศเพื่อช่วยลดผลกระทบจากเงินทุนไหลเข้าได้บางส่วน สะท้อนได้จากการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศหักทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยในปี 54 เท่ากับ 108.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ประกอบด้วย (1) เงินลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ จำนวน 40.7 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 72.5 จากปีก่อน และ (2) เงินลงทุนในหลักทรัพย์ จำนวน 22.5 พันล้านดอลลาร์ ลดลงเพียงร้อยละ 0.9 จากปีก่อน เป็นต้น ทั้งนี้ สศค. คาดว่า อัตราแลกเปลี่ยนในปี 56 อยู่ที่ระดับร้อยละ 30.7 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 29.7 - 31.7) (คาดการณ์ ณ เดือน ธ.ค. 55)
3. การท่องเที่ยวของพม่าเติบโตโดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเกิน 1 ล้านคน และมีคนไทยมากที่สุด
  • สถิติด้านการท่องเที่ยวของพม่า ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในพม่าและรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 55 เติบโตอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 54 โดยในปี 55 นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในพม่ามีจำนวนกว่า 1 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 54 ที่มี 816,000 คน และสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวได้กว่า 534 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (16.2 พันล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปี 54 ที่มีรายได้ 319 ล้านดอลลาร์ (9.6 พันล้านบาท) หรือขยายตัวร้อยละ 67 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าพม่ามากที่สุดคือ ไทย (90,000 คน) รองลงมาคือ จีน (70,000 คน) และสหรัฐฯ (37,000 คน) ตามลำดับ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ปัจจุบันรัฐบาลพม่ามีนโยบายการเปิดประเทศมากขึ้นและได้ริเริ่มโครงการต่างๆ เช่น โครงการพัฒนาและก่อสร้างสาธารณูปโภคจำนวนมากเพื่อรองรับการค้า การลงทุนและการบริการจากต่างประเทศ โครงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การขนส่งและการโรงแรม การออกกฎหมายด้านการลงทุนฉบับใหม่ที่มีผลบังคับใช้เมื่อปี 55 เพื่อจูงใจการลงทุนของต่างชาติ เป็นต้น สำหรับข้อมูลด้านการบริการท่องเที่ยวของพม่า พบว่า ปัจจุบันพม่ามีห้องพักทั้งสิ้น 28,291 ห้อง และขณะนี้กระทรวงการโรงแรมและการท่องเที่ยวของพม่ากำลังร่วมพัฒนาโครงการโรงแรม 5 ดาว ร่วมกับบริษัทเอกชนของเวียดนาม ทั้งนี้ การเปิดประเทศของพม่าจะช่วยส่งเสริมการค้า การลงทุนและการบริการระหว่างไทยกับพม่ามากขึ้น โดยล่าสุด มูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยไปพม่าในช่วง 11 เดือนแรกของปี 55 มีจำนวน 49.0 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 9.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าส่งออกของไทยไปพม่าสูงสุด 3 อันดับแรกคือ น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องดื่ม และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากพม่าที่เดินทางเข้ามาในไทยในปี 55 มีจำนวนทั้งสิ้น 129,924 คน (มีสัดส่วนร้อยละ 0.6 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในไทย) ขยายตัวร้อยละ 17.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ