รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 30 เมษายน 2556

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 30 เมษายน 2556

1. สภาอุตสาหกรรมยื่น 4 ข้อเสนอแก้ค่าเงินบาทช่วยส่งออก

2. บีทีเอสปรับขึ้นค่าโดยสารใหม่ 2 บาท โปรโมชั่นเที่ยวเดินทาง 30 วันขยับขึ้น 1 บาทและ 2 บาทเที่ยวเริ่ม 1 มิ.ย.56

3. แบงค์ชาติมาเลเซียคาดเศรษฐกิจประเทศขยายตัว 5 - 6 % ในปีนี้

Highlight:

• เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเตรียมส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้ดูแลอัตราแลกเปลี่ยนโดยต้องการให้ดำเนินการใน 4 เรื่อง คือ1) ให้ธปท.ดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพเนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งทำให้ผู้ส่งออกไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันลดลง 2) ให้ธปท.มีมาตรการบริหารจัดการเงินทุนเคลื่อนย้ายเช่นการเก็บภาษีเงินทุนไหลเข้าที่เข้ามาเก็งกำไรระยะสั้น 3) ลดดอกเบี้ยเพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารเงินทุนไหลเข้า โดยควรลดดอกเบี้ยนโยบายให้อยู่ระดับร้อยละ 2 จากปัจจุบันที่อยู่ระดับร้อยละ 2.75 และ 4) ให้รัฐบาลและธปท.สนับสนุนให้ผู้ประกอบการทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนโดยเฉพาะเอสเอ็มอีที่มีข้อจำกัดด้านวงเงิน
• สศค.วิเคราะห์ว่า สถานการณค่าเงินบาทในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มมีทิศทางที่อ่อนค่าลงหลังจากตลาดการเงินคาดว่า ธปท.และกระทรวงการคลังเตรียมออกมาตรการดูแลค่าเงินบาท โดยค่าเงินบาทอ่อนค่าลงจากระดับ 28.60 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐมาอยู่ที่ 29.43 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐ คิดเป็นการอ่อนค่าลงร้อยละ 2.9 ภายในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ อย่างไรก็ดี ตลาดการเงินยังรอความชัดเจนของมาตรการที่จะใช้ในการดูแลค่าเงินบาทจึงอาจมีความผันผวนในระยะสั้นได้ ดังนั้นผู้ประกอบการภาคส่งออกควรติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทและมาตรการดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมทำการป้องกันความเสี่ยงผ่านตลาดซื้อขายดอลลาร์สหรัฐล่วงหน้าหลังจากมีการออกมาตรการดูแลค่าเงินบาทที่ชัดเจน

• บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จะปรับอัตราค่าโดยสารที่เรียกเก็บและและโปรโมชั่นเที่ยวเดินทางในส่วนเส้นทางสัมปทาน 23.5 กิโลเมตร จากสถานีหมอชิตไปอ่อนนุช และจากสถานีสนามกีฬาแห่งชาติไปสะพานตากสิน จากที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นราคาใหม่ เป็น 15-42 บาท/เที่ยว จากเดิมที่จัดเก็บอยู่ 15-40 บาท/เที่ยว เริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 1 มิ.ย. 56 ซึ่งการปรับอัตราค่าโดยสารที่เรียกเก็บดังกล่าวสามารถทำได้ตามข้อกำหนดในสัญญาสัมปทาน ส่วนผู้ใช้บัตรแรบบิท หรือบัตรบีทีเอส สมาร์ทพาส ประเภทเติมเงิน เดินทางในระบบจะยังคงชำระค่าโดยสารในอัตราที่เรียกเก็บเดิม 15 - 40 บาท ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 56
• สศค.วิเคราะห์ว่า การปรับขึ้นค่าโดยสารบีทีเอสใหม่อีก 2 บาท สำหรับผู้โดยสารประเภทบุคคลทั่วไป จากเดิมที่จัดเก็บอยู่ 15-40 บาท/เที่ยว เป็น 15-42 บาท/เที่ยว นั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของผู้ใช้บริการบีทีเอสและเป็นปัจจัยกดดันให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากอัตราค่าโดยสารสาธารณะเป็นค่าบริการที่อยู่ในตะกร้าเงินเฟ้อร้อยละ 5.2 ของตะกร้าเงินเฟ้อรวม ทั้งนี้ สศค.คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 56 จะอยู่ในระดับเดียวกับปี 55 ที่ร้อยละ 3.0 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.5 - 3.5 คาดการณ์ ณ มี.ค.56)

• ผู้ว่าการธนาคารกลางของมาเลเซียคาดว่า จีดีพี ของมาเลเซียจะขยายตัว 5-6% ในปีนี้ ด้วยแรงหนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศและกระแสการลงทุนไหลเข้าที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ ความเสี่ยงจากการที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนในขณะนี้ จะไม่ส่งผลต่อเป้าหมายจีดีพีทั้งปีของมาเลเซีย โดยกล่าวว่า "ความเสี่ยงระดับโลกเหล่านี้รวมอยู่ในการคาดการณ์ แต่ถ้าเศรษฐกิจทรุดตัวลงต่อเนื่อง ก็จะส่งผลกระทบอย่างแน่นอน"
• สศค.วิเคราะห์ว่า ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 56 เศรษฐกิจมาเลเซียขยายตัวร้อยละ 6.4 ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในรอบกว่า 2 ปีส่งผลให้เฉลี่ยปี 55 เศรษฐกิจมาเลเซียขยายตัวร้อยละ 5.6 โดยกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มาจากการลงทุนภาคเอกชนที่ยังคงแข็งแกร่งทั้งนี้ ปัจจัยความไม่แน่นอนจากภาวะเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะประเทศคู่ค้าสำคัญๆ ของมาเลเซีย อาทิ ยุโรป ในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น นั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภายในของมาเลเซียอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากความแข็งแกร่งของอุปสงค์ภายในประเทศและการขยายตัวที่เข้มแข็งด้านการลงทุน ดังกล่าว

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257