Macro Morning Focus ประจำวันที่ 7 พฤษภาคม 2556
Summary:
1. แบงก์ส่งสัญญาณเงินเยนทะลักเข้าหากำไรในไทย คาดสภาพคล่องล้น
2. กระทรวงพาณิชย์จัดงานจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด ค.พ.10 -7
3. เอเชียหวังอานิสงส์จากอาเบะโนมิกส์
Highlight:
1. แบงก์ส่งสัญญาณเงินเยนทะลักเข้าหากำไรในไทย คาดสภาพคล่องล้น
- ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า การกดดอกเบี้ยต่ำระดับร้อยละ 0 และอัดฉีดสภาพคล่อง (QE) จำนวนมากในญี่ปุ่นขณะนี้ ทำให้เริ่มเห็นสัญญาณเยนแครี่เทรด หรือการนำเงินที่ได้รับผลตอบแทนต่ำมาลงทุนในประเทศที่ให้ผลตอบแทนสูงมากขึ้น ทำให้มีเงินบางส่วนไหลเข้ามาไทย อย่างไรก็ตาม การลงทุนเหล่านี้ยังไม่สามารถแยกจำนวนเม็ดเงินออกมาได้ว่าส่วนใดเป็นการลงทุนจริง ส่วนใดเป็นแครี่เทรดเพราะสุดท้ายจะเป็นเงินลงทุนก้อนเดียวกัน สภาพคล่องส่วนเกินจาก QE ของญี่ปุ่น จะสร้างแรงกดดันต่อค่าเงินในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ รวมทั้งไทยซึ่งมีศักยภาพขยายตัวได้ดีเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว
- สศค. วิเคราะห์ว่า มาตรการ QE ของประเทศญี่ปุ่นเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้นภายในประเทศ โดยมีการเน้นการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ขณะที่จะลดการถือครองพันธบัตรระยะยาวลง โดยมีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือน เม.ย. 56 ถึง ธ.ค. 57 และคาดว่าจะใช้เงินทั้งสิ้นรวม 132 ล้านล้านเยน หรือประมาณร้อยละ 28 ของ GDP การเคลื่อนย้ายเงินลงทุนเข้าสู่ประเทศไทยจะส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นได้ โดยขณะนี้ค่าเงินบาทเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 29.6 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐอ่อนค่าลงจากช่วงปลายเดือน เม.ย. 56 หลังจากตลาดคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังเตรียมออกมาตรการดูแลค่าเงินบาท ดังนั้นจึงต้องติดตามการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด
2. กระทรวงพาณิชย์จัดงานจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด ค.พ.10 -7
- กรมการค้าภายในได้มีการจัดงานจำหน่ายสินค้าราคาประหยัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 - 10 พฤษภาคมนี้ ที่ลานอเนกประสงค์ชั้น3กระทรวงพาณิชย์ ครบรอบ71 ปี กรมการค้าภายใน พร้อมจัดกิจกรรมประกวดข้าวหอมมะลิดีเด่นในวันที่8พฤษภาคม เพื่อให้เกษตรกรที่มีการปลูกข้าวคุณภาพดีมีโอกาสได้แสดงศักยภาพ และเพิ่มมูลค่าสินค้าได้ ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าวจะมีการนำสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดซึ่งมีราคาถูกกว่าท้องตลาดร้อยละ20 - 40 มาจำหน่าย สินค้าโอทอป และสินค้าเกษตรที่ส่งตรงจากเกษตรถึงมือผู้บริโภค
- สศค. วิเคราะห์ว่า ปัจจุบันค่าครองชีพของประชาชนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากปัจจัยราคาพลังงาน และปัจจัยต้นทุนอาหารที่ปรับขึ้นเมื่อถึงผู้บริโภคดังนั้น การจัดจำหน่ายสินค้าราคา ประหยัดของกรมการภายใน ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการดูแลค่าครองชีพของประชาชน จะเป็นมาตรการที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ทำให้ประชาชนมีทางเลือกซื้อสินค้าที่ได้มาตรฐานในราคาที่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังช่วยลดแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ โดยอัตราเงินเฟ้อเล่าสุดเดือน เม.ย. 56 อยู่ที่ร้อยละ 2.4 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ร้อยละ 2.7 ทั้งนี้ สศค. คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 56 จะอยู่ที่ร้อยละ 3.0 (คาดการณ์ ณ มี.ค. 56 )
3. เอเชียหวังอานิสงส์จากอาเบะโนมิกส์
- กลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียเตรียมรับภาวะเงินทุนไหลเข้า หลังญี่ปุ่นดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเชิงรุก โดยธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เตรียมอัดฉีดเงิน 1.4 ล้านล้านดอลลาร์เข้าระบบเพื่อหวังยุติภาวะเศรษฐกิจถดถอยกว่าสองทศวรรษ ทั้งนี้ ผู้อำนวยการบริหารธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียกล่าวว่า ชาติเอเชียต้องระวังการเกิดฟองสบู่สินทรัพย์ เนื่องจากแรงกดดันให้เกิดภาวะเงินเฟ้อกำลังก่อตัวจากแนวโน้มเงินทุนญี่ปุ่นที่จะทะลักเข้าเอเชีย
- สศค. วิเคราะห์ว่า มาตรการผ่อนคลายทางการเงินดังกล่าวของ BOJ จะส่งผลกระทบได้ใน หลายทาง อาทิ เป็นการกระตุ้นภาคการบริโภคของประชาชนชาวญี่ปุ่น หลังจากที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (Real GDP) ของญี่ปุ่นในไตรมาสสี่ปีที่แล้วเหลือเพียงร้อยละ 0.5 ตลอดจนเพื่อบรรเทาปัญหาเงินฝืดที่ยืดเยื้อยาวนาน (โดยอัตราเงินเฟ้อ เดือน มี.ค. 56 ยังคงลดลงต่อเนื่องที่ร้อยละ -0.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนภาวะเงินฝืดในญี่ปุ่นที่ยังเป็นปัญหาอย่างต่อเนื่องเกือบ 20 ปี) อย่างไรก็ดี ผลกระทบในอีกด้านหนึ่ง นั่นคือ ได้สร้างความวิตกต่อหลายๆ ประเทศโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียที่กระแสเงินทุนไหลเข้า (Capital Inflow) จะส่งผลให้เกิดภาวะฟองสบู่และทำให้ค่าเงินของประเทศเหล่านี้แข็งค่า จนทำให้สินค้าส่งออกของเอเชียมีความสามารถในการแข่งขันน้อยลงได้
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257