รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 15 พฤษภาคม 2556

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 15, 2013 13:32 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 15 พฤษภาคม 2556

Summary:

1. ค่าเงินเยนอ่อนค่า เอกชนห่วงการค้าไทย-ญี่ปุ่น

2. ยอดขายรถจักรยานยนต์ในเดือน เม.ย.56 ขยายตัวร้อนแรงร้อยละ 7 ต่อปี

3. ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ในเดือนเม.ย. 56 ปรับขึ้นร้อยละ 0.1 ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้

Highlight:

1. ค่าเงินเยนอ่อนค่า เอกชนห่วงการค้าไทย-ญี่ปุ่น
  • รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภายหลังจากญี่ปุ่นใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินแบบเชิงรุก (QE) ได้ส่งผลให้ค่าเงินเยนปรับตัวอ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ และยิ่งอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินบาท โดยค่าเงินเยนในวันที่ 13 พ.ค. 56 ได้อ่อนค่าทำสถิติใหม่ในรอบกว่า 4 ปี ที่ระดับ 102.15 เยน ต่อดอลลาร์สหรัฐ และนับตั้งแต่ต้นปี 56 เงินเยนได้อ่อนลงไปแล้วถึงร้อยละ 24.7 ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการที่ส่งสินค้าไปยังญี่ปุ่นเริ่มมีความกังวลมากขึ้น ขณะที่ประธานกรรมการหอการค้าไทยเห็นว่า ปัญหาค่าเงินจะส่งผลกระทบต่อศักยภาพในการแข่งขันในระยะยาวโดยเฉพาะสินค้าเกษตรและบริการ เนื่องจากมีการใช้แรงงานสูงถึงร้อยละ 60-70
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ทิศทางของค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 56 ย่อมส่งกระทบต่อการส่งออกของไทยไปยังญี่ปุ่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากปัจจุบันญี่ปุ่นเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญอันดับสองของไทย โดยมีสัดส่วนการส่งออกสินค้าร้อยละ 10.2 ของการส่งออกรวมในปี 55 โดยล่าสุด มูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยไปยังญี่ปุ่นในเดือน มี.ค. 56 หดตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันที่ร้อยละ -0.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -1.1 ทำให้ในไตรมาสแรกของปี 56 ขยายตัวร้อยละ 1.5 โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปญี่ปุ่น ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไก่แปรรูป เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และยางพารา อย่างไรก็ตาม ค่าเงินเยนที่ปรับตัวอ่อนค่าก็ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการของไทยในด้านของการนำเข้าเครื่องจักรเพื่อขยายการลงทุนและเพิ่มศักยภาพการผลิต รวมทั้งการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อผลิตสินค้า โดยสินค้าสำคัญที่ไทยนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่น ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ รวมทั้งเครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ซึ่งมีมูลค่านำเข้ารวมในปี 55 สูงถึง 945.5 พันล้านบาท โดยมีสัดส่วนร้อยละ 74.6 ของมูลค่านำเข้ารวม
2. ยอดขายรถจักรยานยนต์ในเดือน เม.ย.56 ขยายตัวร้อนแรงร้อยละ 7 ต่อปี
  • กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในเดือน เม.ย. 56 มียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 169,031 คัน ขยายตัวร้อยละ 7.0 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศอยู่ในเกณฑ์ดีและปัจจัยหนุนจากกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของค่ายรถต่างๆ ประกอบกับรถรุ่นใหม่ที่เข้ามาสร้างสีสันและส่งผลให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ปริมาณการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในเดือน เม.ย. 56ขยายตัวดีขึ้นมากจากเดือนมี.ค.ที่ขยายตัวร้อยละ 0.04 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการขยายตัวของยอดขายรถจักรยานยนต์ในกทม.และในส่วนภูมิภาคที่ขยายตัวร้อยละ 10.8 และ 6.4 ตามลำดับ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกำลังซื้อของประชาชนที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
3. ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ในเดือนเม.ย. 56 ปรับขึ้นร้อยละ 0.1 ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ การปรับสูงขึ้นของยอดค้าปลีก ส่วนใหญ่ได้แรงหนุนมาจากการการเข้าซื้อรถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ วัสดุก่อสร้าง และสินค้าอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ บรรดานักเศรษฐศาสตร์ต่างคาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกในเดือนที่ผ่านมาจะปรับตัวลดลงร้อยละ 0.3ซึ่งการปรับตัวขึ้นเหนือความคาดหมายของยอดค้าปลีก ที่คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30 ของการใช้จ่ายผู้บริโภคโดยรวม ยังทำให้นักเศรษฐศาสตร์หลายรายปรับทบทวนตัวเลขคาดการณ์ GDP สหรัฐฯ ในไตรมาส 2 ใหม่ โดยโกลด์แมน แซคส์ ปรับขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 2.1 ขณะเจพี มอร์แกนขยับขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 2
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ในเดือนเม.ย. 56 เท่ากับ 416.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าร้อยละ 0.1 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนการบริโภคภาคเอกชนที่ฟื้นตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ สอดคล้องกับการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน เม.ย. 56 ที่เพิ่มขึ้น 165,000 ตำแหน่งจากเดือนก่อนหน้า โดยการจ้างงานภาคบริการปรับตัวสูงขึ้นถึง 185,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ส่งผลให้อัตราการว่างงานปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 7.5 ของกำลังแรงงานรวม นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำที่ร้อยละ 1.5 ในเดือนมี.ค. 56 และมีแนวโน้มที่จะทรงตัว จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้นจะเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังฟื้นตัวหลังจากประสบวิกฤตเศรษฐกิจ ทั้งนี้ สศค. คาดการณ์ว่าในปี 56 เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวที่ร้อยละ 2.1

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ