เอกสารแนบ
“เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในเดือนเมษายน 2556 บ่งชี้เศรษฐกิจไทยในด้านการผลิตมีสัญญาณแผ่วลงโดยเฉพาะจากภาคอุตสาหกรรมและภาคการเกษตร แต่ภาคการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวได้ดี อย่างไรก็ตาม เครื่องชี้ด้านการใช้จ่ายทั้งภายในประเทศและการส่งออกปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า”
1. เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจด้านการผลิตในเดือนเมษายน 2556 พบว่า มีสัญญาณแผ่วลงจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนจากดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนเมษายน 2556 หดตัวร้อยละ -3.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 1.2 และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาล (m-o-m SA) พบว่าหดตัวร้อยละ -3.3 ต่อเดือน ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาหมวดอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลงในเดือนเมษายน 2556 ได้แก่ อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ อาหารทะเลกระป๋องและแช่แข็ง ปิโตรเลียม เสื้อผ้าสำเร็จรูป และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นสำคัญ เนื่องจากส่วนหนึ่งได้มีการเร่งกำลังการผลิตไปแล้วในช่วงปลายปี 2555 และช่วงต้นปี 2556 สอดคล้องกับอัตราการใช้กำลังการผลิต (Cap U) ในเดือนเมษายน 2556 อยู่ที่ระดับ 60.3 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 71.0 สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนเมษายน 2556 อยู่ที่ระดับ 92.9 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 93.5 และเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลต่ออัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการส่งออก นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงห่วงโซ่การผลิต (Supply Chain) ที่เป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำภายในประเทศ เนื่องจากผู้ประกอบการมีแนวโน้มที่จะนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศที่มีราคาถูกกว่าแทนการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความผันผวน ในขณะที่การผลิตภาคการเกษตรหดตัวลดลงต่อเนื่อง โดยดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรในเดือนเมษายน 2556 หดตัวร้อยละ -4.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -0.7 ตามการลดลงของผลผลิตในหมวดพืชผลสำคัญ โดยเฉพาะข้าว และมันสำปะหลัง จากการจำกัดการผลิตเนื่องจากความกังวลจากสถานการณ์ภัยแล้งในปีเพาะปลูก 2556 อย่างไรก็ดี ผลผลิตยางพารา และปาล์มน้ำมันยังคงขยายตัวได้ดีจากพื้นที่เพาะปลูกและเก็บเกี่ยวที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับสภาพภูมิอากาศเอื้ออำนวยต่อการผลิตและเก็บเกี่ยว ขณะที่ผลผลิตหมวดปศุสัตว์ยังคงขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 2.6 ตามการขยายตัวของไก่เนื้อเป็นสำคัญ สำหรับเครื่องชี้ภาคบริการที่สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศพบว่ายังคงขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือนเมษายน 2556 มีจำนวนทั้งสิ้น 2.0 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 19.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 19.2 และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาล (m-o-m SA) พบว่าขยายตัวร้อยละ 2.9 ต่อเดือน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทย 3 อันดับแรก ได้แก่ นักท่องเที่ยวจีน รัสเซีย และมาเลเซีย ที่ขยายตัวร้อยละ 91.1 48.0 และ 20.7 ตามลำดับ
เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทาน 2555 2556 Q1 ก.พ. มี.ค. เม.ย. YTD ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (%yoy) 2.5 3.2 -1.2 1.2 -3.8 1.5 %qoq_SA / %mom_SA - -3.2 -1.0 -1.6 -3.3 - ดัชนีผลผลิตเกษตรกรรม (%yoy) 5.1 1.8 0.2 -0.7 -4.4 0.3 %qoq_SA / %mom_SA - -2.1 -1.1 0.5 0.04 - นักท่องเที่ยวต่างชาติ (%yoy) 16.2 18.9 25.6 19.2 19.4 19.0 %qoq_SA / %mom_SA - 1.7 6.0 0.7 2.9 -
2. การบริโภคภาคเอกชนในเดือนเมษายน 2556 พบว่า สามารถขยายตัวได้จากช่วงก่อนหน้า สะท้อนได้จากยอดจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ในเดือนเมษายน 2556 ขยายตัวร้อยละ 3.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 0.9 และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาล (m-o-m SA) พบว่าขยายตัวร้อยละ 1.5 ต่อเดือน ขณะที่ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคในเดือนเมษายน 2556 ขยายตัวร้อยละ 12.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 1.2 และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาล (m-o-m SA) พบว่าขยายตัวร้อยละ 7.9 ต่อเดือน สำหรับการบริโภคสินค้าคงทนสะท้อนได้จากปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือนเมษายน 2556 ขยายตัวร้อยละ 22.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการทยอยส่งมอบรถยนต์ในโครงการรถยนต์คันแรก ประกอบกับความนิยมอย่างต่อเนื่องในรถยนต์รุ่นใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถยนต์นั่ง อย่างไรก็ตาม เป็นการขยายตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 93.4 และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาล (m-o-m SA) พบว่าหดตัวร้อยละ -25.8 ต่อเดือน ขณะที่ปริมาณการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในเดือนเมษายน 2556 ขยายตัวร้อยละ 7.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.04 และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาล (m-o-m SA) พบว่าขยายตัวร้อยละ 7.6 ต่อเดือน ตามการเพิ่มขึ้นของยอดขายรถจักรยานยนต์ใน กทม. และในภูมิภาค ที่ขยายตัวร้อยละ 10.8 และร้อยละ 6.4 จากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -3.2 และร้อยละ -0.2 ตามลำดับ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากรายได้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะในภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ที่ได้รับปัจจัยบวกจากนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม รายได้ภาคครัวเรือนในภาคใต้ยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่องตามราคาสินค้าเกษตรสำคัญ อาทิ ยางพารา และปาล์มน้ำมันที่มีราคาลดลง ทำให้ยอดขายรถจักรยานยนต์ในภาคใต้ลดลง ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในเดือนเมษายน 2556 อยู่ที่ระดับ 73.9 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 75.0 ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความกังวลค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างรวดเร็ว จนส่งผลกระทบต่อรายได้จากการส่งออกและการท่องเที่ยว รวมทั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยรวม และราคาพืชผลเกษตรที่ทรงตัวในระดับต่ำ ทำให้รายได้ในภาคชนบทลดลง รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความเปราะบาง
เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชน 2555 2556 Q1 ก.พ. มี.ค. เม.ย. YTD ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ (%yoy) 14.1 6.9 3.2 0.9 3.7 6.0 %qoq_SA / %mom_SA - -0.1 -0.7 -5.4 1.5 - ปริมาณนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค (%yoy) -0.4 5.1 -6.5 1.2 12.9 6.8 %qoq_SA / %mom_SA - -4.0 -16.3 -5.4 7.9 - ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง (%yoy) 86.6 101.3 92.1 93.4 22.9 76.9 %qoq_SA / %mom_SA - 1.1 -0.5 3.1 -25.8 ปริมาณการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ (%yoy) 5.8 5.4 -0.9 0.04 7.2 5.8 %qoq_SA / %mom_SA - -0.4 -1.5 -5.3 7.6 - ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค 67.6 73.8 74.3 75.0 73.9 73.8
3. การลงทุนภาคเอกชนในเดือนเมษายน 2556 พบว่า ขยายตัวได้จากช่วงก่อนหน้าทั้งจากการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรและหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนในเดือนเมษายน 2556 ขยายตัวร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -5.7 และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาล (m-o-m SA) พบว่าขยายตัวร้อยละ 6.3 ต่อเดือน ขณะที่ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเดือนเมษายน 2556 ขยายตัวร้อยละ 26.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 12.2 และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาล (m-o-m SA) พบว่าขยายตัวร้อยละ 8.5 ต่อเดือน ตามการขยายตัวที่เร่งขึ้นของรถกระบะขนาด 1 ตัน ที่ขยายตัวร้อยละ 25.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 7.4 โดยมีผลมาจากการเร่งส่งมอบรถยนต์ค้างจองในโครงการรถยนต์คันแรก ประกอบกับกิจกรรมส่งเสริมการขายของบริษัทรถยนต์ที่เริ่มตั้งแต่ต้นปี 2556 สำหรับเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนในหมวดการก่อสร้างขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนจากยอดจำหน่ายปูนซีเมนต์ในเดือนเมษายน 2556 ขยายตัวร้อยละ 17.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และหลังปรับผลทางฤดูกาลแล้ว (m-o-m SA) ขยายตัวร้อยละ 1.2 จากเดือนก่อนหน้า สะท้อนถึงทิศทางการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง สำหรับภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ในเดือนเมษายน 2556 ขยายตัวร้อยละ 35.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 24.0 และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาล (m-o-m SA) พบว่า ขยายตัวร้อยละ 5.4 ต่อเดือน จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจากธนาคารพาณิชย์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งที่อยู่อาศัยแนวราบ และที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดปรับเพิ่มขึ้น
เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน 2555 2556 Q1 ก.พ. มี.ค. เม.ย. YTD เครื่องชี้การลงทุนในเครื่องจักร ปริมาณนำเข้าสินค้าทุน (%yoy) 22.1 6.8 -2.7 -5.7 2.3 5.7 %qoq_SA / %mom_SA - 10.1 -14.3 -1.9 6.3 - ปริมาณนำเข้าสินค้าทุนหักเครื่องบิน เรือและรถไฟ (%yoy) 23.2 2.6 -5.9 -5.8 -8.5 -0.2 %qoq_SA / %mom_SA - -5.6 -5.5 -6.3 -9.7 - ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ (%yoy) 76.2 19.4 14.0 12.2 26.5 21.0 %qoq_SA / %mom_SA - -2.4 -8.9 -5.8 8.5 - เครื่องชี้การลงทุนก่อสร้าง ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ (%yoy) 21.4 32.5 25.8 24.0 35.1 34.7 %qoq_SA / %mom_SA - -5.4 -6.4 -1.1 5.4 - ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ (%yoy) 10.6 15.9 14.3 16.2 17.7 16.3 %qoq_SA / %mom_SA - -0.6 -1.9 2.1 1.2 -
4. เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจไทยด้านการคลังในเดือนเมษายน 2556 พบว่า การใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าผลการเบิกจ่ายงบประมาณรวมในเดือนเมษายน 2556 มีจำนวน 180.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -39.1 โดยรายจ่ายงบประมาณปีปัจจุบันเบิกจ่ายได้จำนวน 170.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.3 แบ่งออกเป็น (1) รายจ่ายประจำ 156.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.9 และ (2) รายจ่ายลงทุน 13.6 พันล้านบาท ลดลงร้อยละ -9.6 สำหรับรายจ่ายเหลื่อมปีเบิกจ่ายได้ 10.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 38.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับผลการจัดเก็บรายได้สุทธิของรัฐบาล (หลังหักจัดสรรให้ อปท.) ในเดือนเมษายน 2556 มีจำนวนทั้งสิ้น 127.6 พันล้านบาท ลดลงร้อยละ -9.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้มีการจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในเดือนเมษายน 2556 ที่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับดุลเงินงบประมาณในเดือนเมษายน 2556 ขาดดุลจำนวน -48.8 พันล้านบาท สะท้อนบทบาทภาคการคลังในการสนับสนุนเศรษฐกิจในประเทศ
เครื่องชี้ภาคการคลัง FY2555 FY2556 FY2556 Q1/FY56 Q2/FY56 ก.พ. มี.ค. เม.ย. YTD รายได้สุทธิของรัฐบาล (หลังหักการจัดสรรให้ อปท.) 1,975.6 508.1 469.7 156.2 150.0 127.6 1,105.4 (%y-o-y) 4.4 27.5 13.8 13.0 7.2 -9.1 16.2 รายจ่ายรัฐบาลรวม 2,295.3 785.9 585.7 152.1 225.5 180.4 1,551.9 (%y-o-y) 5.4 60.5 -24.9 -41.3 -39.1 14.5 8.8 ดุลเงินงบประมาณ -314.7 -282.6 -117.2 -9.4 -71.4 -48.8 -448.7
5. การส่งออกในเดือนเมษายน 2556 สามารถขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยพบว่า การส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐในเดือนเมษายน 2556 มีมูลค่า 18.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 10.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 4.5 และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาล (m-o-m SA) พบว่าขยายตัวร้อยละ 5.4 ต่อเดือน ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาสินค้าส่งออกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนเมษายน 2556 ได้แก่ สินค้าหมวดอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์/อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก ที่ขยายตัวร้อยละ 45.2 19.1 และ 8.5 ตามลำดับ ประกอบกับการส่งออกได้ดีในตลาดฮ่องกง ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา ที่ขยายตัวร้อยละ 176.6 23.7 และ 8.3 ตามลำดับ สำหรับมูลค่าการนำเข้าสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐในเดือนเมษายน 2556 พบว่ามูลค่าการนำเข้าสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 21.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 8.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -11.5 ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐที่ต่ำกว่ามูลค่าการนำเข้าสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐทำให้ดุลการค้าในเดือนเมษายน 2556 ขาดดุลอยู่ที่ -2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ประเทศคู่ค้าหลักของไทย 2556 (สัดส่วนการส่งออก) 2555 Q1 ก.พ. มี.ค. เม.ย. YTD ส่งออกไปทั้งโลก (%yoy) 3.1 4.3 -5.8 4.5 10.5 5.7 %qoq_SA / %mom_SA -0.5 -6.7 1.4 5.4 - 1.จีน (11.7%) 2.5 7.3 3.7 1.1 -6.6 3.7 2.ญี่ปุ่น (10.2%) -1.6 1.5 -1.1 -0.9 3.2 1.9 3.สหรัฐฯ (9.9%) 4.6 2.6 -0.9 -4.7 8.3 3.9 4.สหภาพยุโรป (8.5%) -9.2 8.7 -0.8 5.5 0.8 6.8 5.ฮ่องกง (5.7%) 9.6 11.2 -27.8 24.8 176.6 45.3 6.มาเลเซีย (5.4%) 0.2 -0.8 -16.3 2.8 -3.5 -1.5 7. ตะวันออกกลาง (5.0%) 6.6 4.4 -7.3 12.4 7.2 5.0 8.ทวีปออสเตรเลีย (4.9%) 22.1 30.4 10.9 39.1 23.7 28.9 PS.อาเซียน-9 (24.7%) 5.0 5.9 -7.2 8.9 3.1 5.2
6. เสถียรภาพเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศอยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนเมษายน 2556 อยู่ที่ร้อยละ 2.4 ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ร้อยละ 2.7 จากราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศที่มีการปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบโลก ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.2 เทียบเท่ากับเดือนก่อนหน้า ส่วนอัตราการว่างงานในเดือนมีนาคม 2556 อยู่ที่ร้อยละ 0.7 ของกำลังแรงงานรวม ซึ่งคิดเป็นจำนวนผู้ว่างงานเท่ากับ 2.7 แสนคน สำหรับสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2556 อยู่ที่ร้อยละ 44.2 ต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ไม่เกินร้อยละ 60.0 สำหรับเสถียรภาพภายนอกประเทศยังอยู่ในระดับมั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนได้จากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนเมษายน 2556 อยู่ในระดับสูงที่ 178.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นประมาณ 2.9 เท่า
เครื่องชี้เสถียรภาพเศรษฐกิจ 2555 2556 Q1 ก.พ. มี.ค. เม.ย. YTD ภายในประเทศ เงินเฟ้อทั่วไป (%yoy) 3.0 3.1 3.2 2.7 2.4 2.9 เงินเฟ้อพื้นฐาน (%yoy) 2.1 1.5 1.6 1.2 1.2 1.4 อัตราการว่างงาน (yoy%) 0.7 0.7 0.6 0.7 n.a 0.7 หนี้สาธารณะ/GDP 44.0 44.2 44.1 44.2 n.a 44.2 ภายนอกประเทศ ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้าน $) 2.7 1.3 1.6 1.9 n.a. 1.3 ทุนสำรองทางการ (พันล้าน $) 181.6 177.8 179.3 177.8 178.4 178.4 ฐานะสุทธิ Forward (พันล้าน $) 24.1 23.7 23.1 23.7 23.6 23.6
ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง