รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 26 มิถุนายน 2556

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 26, 2013 14:14 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 26 มิถุนายน 2556

Summary:

1. บล.บัวหลวงหวังกำไรบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ดันดัชนีแตะ 1,600 จุด

2. ททท. สนับสนุนธุรกิจความงามเจาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง (ไฮเอ็น) จากจีน

3. รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ก.ค. 56 เป็นต้นไป

Highlight:

1. บล.บัวหลวงหวังกำไรบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ดันดัชนีแตะ 1,600 จุด
  • กรรมการผู้อำนวยบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวงเปิดเผยว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้เกิดจากการเทขายอย่างหนักของนักลงทุนต่างชาติที่มีความกังวลในเรื่องปริมาณQE ที่จะลดลงดังนั้น การลงทุนในช่วงนี้จึงควรให้น้ำหนักกับหุ้นพื้นฐานดีเช่นหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ราคาปรับลงไปต่ำกว่า Book Value หรือหุ้นกลุ่มพลังงานที่ราคายังไม่สูงมากนัก นอกจากนี้ ยังเห็นว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสรีบาวน์กลับไปที่ระดับ 1,600 จุดในปีนี้ จากปัจจัยพื้นฐานที่ดีจากกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยที่ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องทั้งนี้ บลบัวหลวงยังคงเป้าหมายดัชนีปีนี้ที่ระดับ1,640 จุด
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของไทย (SET) ที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องสะท้อนถึงปริมาณเงินทุนจากต่างประเทศที่ไหลออกจากตลาดหลักทรัพย์ของไทยได้เป็นอย่างดี โดยล่าสุด ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของไทย (SET) ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 56 ปิดตลาดที่ระดับ 1,364.09 จุด ปรับตัวลดลงถึงร้อยละ -12.7 เมื่อเทียบกับสิ้นเดือน พ.ค. 56 หรือร้อยละ -7.8 ในรอบ 3 เดือนล่าสุด โดยมูลค่าการซื้อขายสุทธิสะสมของนักลงทุนต่างชาติของตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ ม.ค. 56 - 24 มิ.ย. 56 อยู่ที่ -68.3 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม ปัจจัยพื้นฐานทางด้านเศรษฐกิจของไทยที่ยังคงแข็งแกร่ง และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่สามารถเติบโตได้ดีต่อเนื่องโดยมีกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 56 อยู่ที่ 241.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงร่าง พ.ร.บ.กู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 2 ล้านล้านบาท ที่มีแผนการลงทุนในช่วงปี 2556-2563 ถือเป็นยุทธศาสตร์การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศซึ่งจะส่งผลสำคัญต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป ล้วนเป็นปัจจัยที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อตลาดหุ้นไทยและสนับสนุนการเติบโตของตลาดหลักทรัพย์ไทยในระยะต่อไป
2. ททท. สนับสนุนธุรกิจความงามเจาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง (ไฮเอ็น) จากจีน
  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมมือกับสมาคมสปาไทย จัดกิจกรรมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวสุขภาพประจำปี 56 หรือ Thailand Medical And Wellness FAM Trip เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการทั้งด้านการแพทย์ คลินิกเสริมความงาม และธุรกิจสปาของไทย ให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก พร้อมกับดึงดูดนักท่องเที่ยวในกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง (ไฮเอ็น) จากจีนให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันธุรกิจดังกล่าวกำลังเป็นที่นิยมในตลาดจีนและอาเซียนอย่างมาก ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะทำให้มีเงินสะพัดจากนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวประมาณ 140 ,000 ล้านบาท
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวโดยเน้นดึงดูดกลุ่มเป้าหมายระดับไฮเอนด์ หรือกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีอำนาจซื้อสูงและใช้ระยะเวลาท่องเที่ยวในประเทศค่อนข้างนาน จะทำให้การเงินสะพัดและมีการกระจายรายได้ได้สูงมากขึ้น ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจีนเป็นกลุ่ม Star คือ มีสัดส่วนสูงและมีการขยายตัวในระดับที่สูง กล่าวคือ นักท่องเที่ยวจากจีนมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากในปี 51 ที่มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 5.7 หรืออันดับที่ 4 มาอยู่ที่ ร้อยละ 12.5 ในปี 55 หรืออันดับที่ 1 ของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เดินทางเข้าไทยทั้งหมด ด้วยจำนวน 2.8 ล้านคน หรือร้อยละ 61.9 ต่อปี ทั้งนี้ ในช่วง 5 เดือนแรก ของปี 56 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจากจีนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทั้งสิ้น 1.9 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 93.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดว่าสร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยแล้วจำนวน 74,636.66 ล้านบาท โดยทั้งปี สศค. คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศทั้งสิ้น 26.3 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 18.0 เมื่อทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และจะสร้างรายได้ให้กับประเทศแล้วทั้งสิ้น 1.2 ล้านล้านบาท
3. รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ก.ค. 56 เป็นต้นไป
  • รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ก.ค. 56 เป็นต้นไป ซึ่งการยกเว้นวีซ่าดังกล่าวเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยให้คนไทยได้เดินทางท่องเที่ยว ได้เป็นเวลา 15 วัน หากมีความประสงค์จะอยู่นานกว่านั้น หรือไปทำงาน หรือมีวัตถุประสงค์อื่นๆ จะต้องยื่นขอวีซ่าตามปกติ นอกจากนี้ ผู้ที่จะเข้าญี่ปุ่นได้ จะต้องผ่านการพิจารณาจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งจะสอบถามถึงวัตถุประสงค์ในการเข้าประเทศ หรือขอตรวจเอกสาร ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าญี่ปุ่นจะต้องไม่ทำกิจกรรมใดๆ ในญี่ปุ่นที่ขัดต่อกฎหมาย รวมถึงเป็นผู้ที่ไม่มีประวัติการถูกส่งตัวกลับจากญี่ปุ่น ไม่ได้อยู่ในระยะเวลาของการถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ และไม่เข้าข่ายคุณสมบัติที่จะถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การท่องเที่ยวของญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในปัจจัยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของญี่ปุ่น โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปี 56 ได้รับรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 1,180.1 ล้านเยน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ประกอบด้วย (1) รายได้ที่ได้รับจากนักท่องเที่ยวภายในประเทศจำนวน 1,157.6 ล้านเยน คิดเป็นร้อยละ 98.1 ของรายได้จากการท่องเที่ยว โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ (2) รายได้ที่ได้รับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 22.5 ล้านเยน คิดเป็นร้อยละ 1.9 ของรายได้จากการท่องเที่ยว โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ ในช่วง 4 เดือนแรกมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในญี่ปุ่นประมาณ 3,178,094 คน โดยเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยประมาณ 141,039 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 48.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็นร้อยละ 4.4 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด ดังนั้น การที่ประเทศญี่ปุ่นประกาศยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศให้กับคนไทย นอกจากจะช่วยเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวระหว่างไทยและญี่ปุ่นแล้ว ในอนาคตจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและสังคมระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่นในแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ