รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 15 สิงหาคม 2556

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 15, 2013 11:36 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 15 สิงหาคม 2556

Summary:

1. รมต.เกษตรฯ เจรจาทูตสวิสเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรไทย-สวิส

2. ทูตพาณิชย์ยังคงเน้นเป้าส่งออกในปีนี้โตร้อยละ 7-7.5

3. ประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขาแอตแลนต้า คาด FED จะชะลอมาตรการ QE

Highlight:

1. รมต.เกษตรฯ เจรจาทูตสวิสเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรไทย-สวิส
  • รมต. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทยว่าการพบกันในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการพัฒนาความร่วมมือระหว่างสองประเทศ สำหรับการหารือด้านการเกษตร ท่านทูตจะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ชาวสวิตเซอร์แลนด์ได้มีโอกาสทดลองและรับประทานสินค้าเกษตรและอาหารของไทยเพื่อโอกาสในการขยายมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรระหว่างกันให้มากขึ้นกว่าในปัจจุบัน รวมทั้งยังได้มีการหารือในประเด็นความร่วมมือด้านเกษตรอินทรีย์ระหว่างไทยสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อพัฒนาการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ไทยในด้านต่างๆ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ปัจจุบันมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทยกับสมาพันธรัฐสวิสยังค่อนข้างน้อย โดยในช่วงปี 53-55 สมาพันธรัฐสวิสเป็นคู่ค้าสินค้าเกษตรอันดับที่ 48 ของไทย มีสัดส่วนการค้าสินค้าเกษตรร้อยละ 0.24 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรรวมของไทย ขณะที่ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 56 พบว่า ไทยสามารถส่งออกสินค้าเกษตรไปสมาพันธรัฐสวิสได้ 10.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 20.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าเกษตรหลักที่มีการส่งออก เช่น ปลาทูน่าปรุงแต่ง ข้าว ถั่วลิสงปรุงแต่ง พืชผักสดหรือแช่แข็ง ผลไม้ต่างๆ สำหรับการหารือร่วมกันของทั้งสองประเทศในครั้งนี้จะช่วยให้ไทยได้รับประโยชน์จากความร่วมมือด้านเกษตรอินทรีย์ระหว่างไทย-สมาพันธรัฐสวิส เพื่อพัฒนาการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ไทยในด้านต่างๆ เช่น การส่งเสริมเพื่อเพิ่มผลผลิตและปรับปรุงคุณภาพ การบริหารจัดการองค์ความรู้ด้านการเกษตรอินทรีย์แบบบูรณาการ การรับรองมาตรฐานสินค้าตามระบบของสมาพันธรัฐสวิส การสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ต่อผู้บริโภค การลดข้อจำกัดสำหรับสินค้าเกษตรอินทรีย์ไทยในสมาพันธรัฐสวิส ซึ่งจะถือเป็นโอกาสในการขยายตลาดสินค้าเกษตรของไทยในสมาพันธรัฐสวิส เนื่องจากสมาพันธรัฐสวิสยังไม่สามารถผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ได้เพียงพอต่อความต้องการบริโภคที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพืชผัก ผลไม้เมืองร้อนต่างๆ ที่ไม่สามารถผลิตได้ในสมาพันธรัฐสวิส และขาดแคลนผลผลิตในช่วงฤดูหนาว
2. ทูตพาณิชย์ยังคงเน้นเป้าส่งออกในปีนี้โตร้อยละ 7-7.5
  • อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ช่วงเดือน ก.ย. กรมฯ จะเชิญผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ที่ประจำอยู่ทั่วโลก 62 แห่ง มาประชุมเพื่อพิจารณาสถานการณ์การส่งออกสินค้าไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ และพิจารณากลยุทธ์และมาตรการในการผลักดันการส่งออก และยังคงยืนยันเป้าหมายการส่งออกที่ตั้งไว้ร้อยละ 7 ถึง 7.5 โดยมีมูลค่า 2.45-2.46 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพราะถือเป็นเป้าในการทำงานและช่วยในการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับภาคเอกชน
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ในช่วง 6 เดือนแรก มูลค่าส่งออกอยู่ที่ 113,304 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือขยายตัวร้อยละ 0.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ปัจจัยสำคัญมาจากการขยายตัวเร่งขึ้นของสินค้าอุตสาหกรรมที่ร้อยละ 3.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการขยายตัวในระดับสูงของสินค้ายานพาหนะ ที่ขยายตัวร้อยละ 14.7 นอกจากนี้ สินค้าในหมวดเกษตรกรรม อุตสาหกรรมการเกษตรและเชื้อเพลิงก็หดตัวที่ร้อยละ -6.0 -4.3 และ -14.3 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่การส่งออกในเดือน มิ.ย. 56 หดตัวร้อยละ -3.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ หากมาตรการกระตุ้นการส่งออกที่จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนส.ค.ไปจนถึงสิ้นปีของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เช่น การจัดไทยแลนด์วีค โรดโชว์ การเชิญผู้ซื้อมาซื้อสินค้าถึงในไทย โดยเฉพาะผู้ซื้อรายใหญ่ทั้งนี้ ก็อาจจะทำให้มูลค่าส่งออกกลับมาขยายตัวตรงตามเป้าที่ตั้งไว้
3. ประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขาแอตแลนต้า คาด FED จะชะลอมาตรการ QE
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขาแอตแลนต้า กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของ FED อาจจะเริ่มชะลอการซื้อพันธบัตรลงในการประชุม 2-3 ครั้งต่อไป แต่การดำเนินการดังกล่าวควรจะเป็นไปอย่างระมัดระวัง ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังอยู่ในภาวะที่อ่อนแอและฟื้นตัวในรูปแบบที่ยังไม่เท่าเทียมกัน หลังจากที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของสหรัฐที่อ่อนแอยังคงส่งผลต่อตลาดแรงงาน
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ล่าสุดในไตรมาส 2 ปี 56 พบว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 1.4 ต่อปี หรือเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 56 (qoq_sa) ร้อยละ 0.4 ในขณะที่ ข้อมูลด้านอัตราการว่างงานล่าสุดเดือน มิ.ย. 56 ยังคงอยู่ในระดับสูงถึงร้อยละ 7.6 ของกำลังแรงงานรวม ซึ่งแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาตลาดการจ้างงานสหรัฐฯ จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การว่างงานดังกล่าวยังไม่บรรลุเป้าหมายที่ระดับการว่างงานเฉลี่ยร้อยละ 6.5 ที่ตั้งไว้ ดังนั้น FED จำเป็นต้องประเมินข้อมูลเศรษฐกิจอย่างถี่ถ้วน ก่อนที่จะเริ่มชะลอมาตรการ QE เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ ทั้งนี้ สศค. คาดการณ์ ณ เดือนมิ.ย. 56 ว่า เศรษฐกิจสหรัฐในปี 56 จะขยายตัวที่ร้อยละ 2.0

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ