เอกสารแนบ
“สถานการณ์ล่าสุดของเศรษฐกิจไทยในเดือนมิถุนายน 2556 และไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 บ่งชี้สัญญาณการชะลอลงจากช่วงก่อนหน้า ทั้งจากด้านอุปสงค์ภายในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทานโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมหดตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังคงได้รับแรงสนับสนุนจาก ภาคการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายภาครัฐที่สามารถขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง”
1. การบริโภคภาคเอกชนในเดือนมิถุนายนและไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 พบว่า มีสัญญาณชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนได้จากยอดจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ในเดือนมิถุนายน 2556 หดตัวร้อยละ -2.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และในไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 หดตัวร้อยละ -0.2 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 6.9 ขณะที่ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคในเดือนมิถุนายน 2556 ขยายตัวร้อยละ 5.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 6.1 อย่างไรก็ดี ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัวร้อยละ 7.8 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 4.4 สำหรับการบริโภคสินค้าคงทนสะท้อนได้จากปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือนมิถุนายน 2556 หดตัวร้อยละ -17.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -5.8 ทำให้ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 หดตัวร้อยละ -3.3 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 97.2 โดยมีปัจจัยหลักจากการส่งมอบรถยนต์จากโครงการรถยนต์คันแรกที่ได้ดำเนินการไปแล้วในช่วงปลายปี 2555 และต้นปี 2556 ประกอบกับค่ายรถยนต์ต่างๆ ได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายตั้งแต่ช่วงต้นปีไปแล้ว ขณะที่ปริมาณการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในเดือนมิถุนายน 2556 หดตัวร้อยละ -10.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -11.4 ตามการหดตัวของยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ทั้งใน กทม. และในภูมิภาคที่ร้อยละ -3.0 และร้อยละ -12.7 ตามลำดับ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากรายได้ภาคครัวเรือนที่ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะรายได้เกษตรกรในภาคใต้ และภาคเหนือ ตามราคาสินค้าเกษตรที่สำคัญ อาทิ ยางพารา และปาล์มน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ทำให้ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 ยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์หดตัวร้อยละ -6.2 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 5.4 ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในเดือนมิถุนายน 2556 อยู่ที่ระดับ 71.8 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 72.8 ซึ่งเป็นการลดลงเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับทิศทางการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2556 หลังนโยบายภาครัฐเริ่มทยอยหมดลง โดยเฉพาะนโยบายรถคันแรก ประกอบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความเปราะบาง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้จากการส่งออก
เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชน 2555 2556 Q1 Q2 พ.ค. มิ.ย. YTD ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ (%yoy) 14.1 6.9 -0.2 -1.7 -2.6 3.3 %qoq_SA / %mom_SA - -0.8 -3.1 -1.4 -3.3 - ปริมาณนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค (%yoy) -0.4 4.4 7.8 6.1 5.2 6.1 %qoq_SA / %mom_SA - -4.4 -1.0 -0.3 5.6 - ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง (%yoy) 86.6 97.2 -3.3 -5.8 -17.7 36.7 %qoq_SA / %mom_SA - -3.0 -29.1 -7.0 -7.7 - ปริมาณการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ (%yoy) 5.8 5.4 -6.2 -11.4 -10.8 -0.7 %qoq_SA / %mom_SA - -1.1 -4.9 -7.0 -9.9 - ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค 67.6 73.8 72.8 72.8 71.8 73.3
2. การลงทุนภาคเอกชนในเดือนมิถุนายนและไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 พบว่า มีสัญญาณชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้าทั้งการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรและหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนในเดือนมิถุนายน 2556 หดตัวร้อยละ -5.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -1.8 ทำให้ไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 หดตัวร้อยละ -1.5 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 3.8 ขณะที่ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเดือนมิถุนายน 2556 หดตัวร้อยละ -10.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ -1.4 ตามการลดลงของรถกระบะขนาด 1 ตัน ที่หดตัวร้อยละ -14.5 จากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -4.8 ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ขยายตัวร้อยละ 3.2 ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 19.4 เนื่องจากได้มีการเร่งส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าจากโครงการรถยนต์คันแรกไปแล้วในช่วงก่อนหน้า สำหรับเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนในหมวดการก่อสร้างมีสัญญาณชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนจากยอดจำหน่ายปูนซีเมนต์ในเดือนมิถุนายน 2556 ขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 9.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 ขยายตัวชะลอลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้ามาอยู่ที่ร้อยละ 14.6 สำหรับภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ในเดือนมิถุนายน 2556 หดตัวร้อยละ -11.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 22.3 และทำให้ไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 ขยายตัวร้อยละ 11.0 ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคชะลอลงจากมาตรการเพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ ประกอบกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มีการชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่
เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชน 2555 2556 Q1 Q2 พ.ค. มิ.ย. YTD เครื่องชี้การลงทุนในเครื่องจักร ปริมาณนำเข้าสินค้าทุน (%yoy) 22.1 3.8 -1.5 -1.8 -5.1 1.0 %qoq_SA / %mom_SA - -12.5 0.6 3.1 -13.1 - ปริมาณนำเข้าสินค้าทุนหักเครื่องบิน เรือและรถไฟ (%yoy) 23.2 -0.7 -11.2 -11.5 -13.5 -6.1 %qoq_SA / %mom_SA -8.5 -5.8 -1.8 -6.4 - ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ (%yoy) 76.2 19.4 3.2 -1.4 -10.7 11.4 %qoq_SA / %mom_SA - -2.8 -6.2 -7.5 -9.4 - เครื่องชี้การลงทุนก่อสร้าง ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ (%yoy) 21.4 32.5 11.0 22.3 -11.0 21.5 %qoq_SA / %mom_SA - -9.4 7.7 -5.8 -10.3 - ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ (%yoy) 10.6 15.9 14.6 16.8 9.9 15.3 %qoq_SA / %mom_SA - -0.7 1.2 0.2 -1.7 -
3. เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจไทยด้านการคลังในเดือนมิถุนายนและไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 พบว่า รัฐบาลจัดเก็บรายได้ได้สูงขึ้นและการใช้จ่ายภาครัฐยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องและเบิกจ่ายได้ตามเป้า โดยผลการจัดเก็บรายได้สุทธิของรัฐบาล (หลังหักจัดสรรให้ อปท.) ในเดือนมิถุนายน 2556 มีจำนวน 181.4 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 4.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 7.1 ทำให้ไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 ผลการจัดเก็บรายได้สุทธิของรัฐบาล (หลังหักการจัดสรรให้ อปท.) เท่ากับ 638.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 สำหรับผลการเบิกจ่ายงบประมาณรวมในเดือนมิถุนายน 2556 มีจำนวน 166.4 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -6.7 โดยรายจ่ายงบประมาณปีปัจจุบันเบิกจ่ายได้จำนวน 155.3 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 3.3 แบ่งออกเป็น (1) รายจ่ายประจำ 135.4 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 6.0 และ (2) รายจ่ายลงทุน 19.8 พันล้านบาท ลดลงร้อยละ -12.2 สำหรับรายจ่ายเหลื่อมปีเบิกจ่ายได้ 11.1 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 58.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้การเบิกจ่ายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 เบิกจ่ายได้ 482.0 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 4.8 โดยมีอัตราการเบิกสะสมในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณเป็นไปตามเป้าอยู่ที่ร้อยละ 69.3 (เป้าหมายการเบิกจ่ายอยู่ร้อยละ 69.0) สำหรับดุลเงินงบประมาณในเดือนมิถุนายน 2556 เกินดุลจำนวน 171.3 พันล้านบาท ทำให้ไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 เกินดุลจำนวน 152.8 พันล้านบาท
เครื่องชี้ภาคการคลัง FY2555 FY2556 Q1/FY56 Q2/FY56 Q3/FY56 มิ.ย. YTD รายได้สุทธิของรัฐบาล (หลังหักการจัดสรรให้ อปท.) 1,975.6 508.1 469.7 638.6 181.4 1,616.7 (%y-o-y) 4.4 27.6 13.8 2.9 4.1 12.9 รายจ่ายรัฐบาลรวม 2,295.3 785.9 585.7 482.0 166.4 1,853.6 (%y-o-y) 5.4 60.5 -24.9 4.8 5.7 7.2 ดุลเงินงบประมาณ -314.7 -281.9 -108.9 152.8 171.3 -238.0
4. การส่งออกในเดือนมิถุนายนและไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 พบว่า ปรับตัวลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว โดยการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐในเดือนมิถุนายน 2556 มีมูลค่า 19.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ -3.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -5.2 ทำให้ไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 หดตัวร้อยละ -2.2 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 4.3 เนื่องจากการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าชะลอตัวลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่ชะลอลง ทั้งนี้ สินค้าส่งออกที่ปรับตัวลดลงในไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 ได้แก่ สินค้าในหมวดเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ หมวดเกษตรกรรม และหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่หดตัวร้อยละ -10.6 -12.8 และ -20.3 ตามลำดับ ทั้งนี้ การส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าที่สำคัญในไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 ที่หดตัวลดลงจากไตรมาสแรกรวมถึง จีน ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ -13.4 -6.2 -5.2 และ -3.5 ตามลำดับ สำหรับมูลค่าการนำเข้าสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐในเดือนมิถุนายน 2556 มีมูลค่าอยู่ที่ 21.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 3.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -3.5 ทำให้ไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 ขยายตัวร้อยละ 2.0 จากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 6.7 ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐที่ต่ำกว่ามูลค่าการนำเข้าสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐทำให้ดุลการค้าในเดือนมิถุนายน 2556 ขาดดุลอยู่ที่ -1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และทั้งไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 ขาดดุล -8.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ประเทศคู่ค้าหลัก 2556 (สัดส่วนการส่งออกปี 2555) 2555 Q1 Q2 พ.ค. มิ.ย. YTD ส่งออกไปทั้งโลก (%yoy) 3.1 4.3 -2.2 -5.2 -3.4 1.0 %qoq_SA / %mom_SA -0.9 -3.4 -1.8 -2.9 - 1.จีน (11.7%) 2.5 7.3 -13.4 -16.3 -16.7 -3.3 2.ญี่ปุ่น (10.2%) -1.6 1.5 -6.2 -7.6 -11.9 -2.3 3.สหรัฐฯ (9.9%) 4.6 2.6 -3.5 -6.9 -9.4 -0.1 4.สหภาพยุโรป (8.5%) -9.2 8.7 -5.2 -12.1 -2.4 1.6 5.ฮ่องกง (5.7%) 9.6 11.2 7.8 1.1 9.7 10.7 6.มาเลเซีย (5.4%) 0.2 -0.8 5.9 11.3 9.5 2.1 7.สิงคโปร์ (4.7%) -5.1 10.6 -10.6 -25.5 1.0 -0.9 8. ตะวันออกกลาง (5.0%) 6.6 4.4 -5.6 -15.8 -2.9 -0.6 9.ทวีปออสเตรเลีย (4.9%) 22.1 30.4 14.5 16.7 6.1 22.2 PS.อาเซียน-9 (24.7%) 5.0 5.9 2.5 -1.2 5.5 3.9
5. เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจด้านการผลิตในเดือนมิถุนายน และไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 พบว่า มีสัญญาณชะลอตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยในเดือนมิถุนายน 2556 หดตัวร้อยละ -3.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หดตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -7.8 ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาหมวดอุตสาหกรรมที่ยังคงหดตัวในเดือนมิถุนายน 2556 ได้แก่ อุตสาหกรรมปิโตรเลียม ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ อาหาร และเครื่องประดับเป็นสำคัญ ทำให้ไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมหดตัวร้อยละ -5.2 จากไตรมาสแรกที่ขยายตัวร้อยละ 3.0 เนื่องจากอุตสาหกรรมในหมวดอิเล็กทรอนิกส์ น้ำมันปิโตรเลียม เครื่องหนัง และยานยนต์ มีการเร่งการผลิตไปแล้วในช่วงปลายปี 2555 และช่วงต้นปี 2556 รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่มีสัญญาณการชะลอตัวลง นอกจากนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเลียมได้มีการยกเลิกการผลิตน้ำมันเบนซิน 91 สอดคล้องกับอัตราการใช้กำลังการผลิต (Cap U) ในเดือนมิถุนายน 2556 อยู่ที่ระดับ 64.1 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 65.8 สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนมิถุนายน 2556 อยู่ที่ระดับ 93.1 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 94.3 เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อที่ปรับตัวลดลงตามการชะลอตัวของการบริโภคภายในประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการมีความกังวล ทั้งนี้ ผู้ประกอบการยังคงมีความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่อาจจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ภายนอกประเทศ ตลอดจนปัญหาการขาดแคลนแรงงานและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ในขณะที่การผลิตภาคการเกษตรกลับมาขยายตัวเร่งขึ้นในเดือนมิถุนายน 2556 โดยดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรขยายตัวร้อยละ 8.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 0.5 ตามการเพิ่มขึ้นของผลผลิตในหมวดพืชผลสำคัญ โดยเฉพาะยางพารา และปาล์มน้ำมัน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากพื้นที่เพาะปลูกและเก็บเกี่ยวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก สอดคล้องกับผลผลิตหมวดปศุสัตว์ที่ยังคงขยายตัวในเกณฑ์ดีที่ร้อยละ 1.4 ตามการเพิ่มขึ้นของผลผลิตสุกร เป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 2 ปี 2556 ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 2.2 สำหรับเครื่องชี้ภาคบริการที่สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศพบว่ายังคงขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือนมิถุนายน 2556 มีจำนวนทั้งสิ้น 2.0 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 25.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 19.4 โดยเป็นการขยายตัวดีจากนักท่องเที่ยว จีน มาเลเซีย และรัสเซีย ซึ่งขยายตัวร้อยละ 106.3 34.4 และ 58.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ ทำให้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2556 มีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น 5.9 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 21.3 เร่งขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 18.9
เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทาน 2555 2556 Q1 Q2 พ.ค. มิ.ย. YTD ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (%yoy) 2.5 3.0 -3.5 -7.8 -3.5 -0.9 %qoq_SA / %mom_SA - -3.1 -5.9 0.1 -3.5 - ดัชนีผลผลิตเกษตรกรรม (%yoy) 2.6 2.2 1.3 0.0 8.5 1.7 %qoq_SA / %mom_SA - -1.5 0.8 -1.8 6.6 - นักท่องเที่ยวต่างชาติ (%yoy) 16.2 18.9 21.3 19.4 25.0 20.0 %qoq_SA / %mom_SA - 1.1 8.1 2.0 6.1 -
6. เสถียรภาพเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมิถุนายน 2556 อยู่ที่ร้อยละ 2.3 คงที่จากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวย และเป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวของผักผลไม้บางชนิด ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้น ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.9 คงที่จากเดือนก่อนหน้า ทำให้ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปขยายตัวร้อยละ 2.3 และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัวร้อยละ 1.0 ส่วนอัตราการว่างงานในเดือนพฤษภาคม 2556 อยู่ที่ร้อยละ 0.8 ของกำลังแรงงานรวม ซึ่งคิดเป็นจำนวนผู้ว่างงานเท่ากับ 3.0 แสนคน สำหรับสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ณ สิ้นเดือนเมษายน 2556 อยู่ที่ร้อยละ 44.2 ต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ไม่เกินร้อยละ 60.0 สำหรับเสถียรภาพภายนอกประเทศยังอยู่ในระดับมั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนได้จากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2556 อยู่ในระดับสูงที่ 170.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นประมาณ 2.8 เท่า
เครื่องชี้เสถียรภาพเศรษฐกิจ 2555 2556 Q1 Q2 พ.ค. มิ.ย. YTD ภายในประเทศ เงินเฟ้อทั่วไป (%yoy) 3.0 3.1 2.3 2.3 2.3 2.7 เงินเฟ้อพื้นฐาน (%yoy) 2.1 1.5 1.0 0.9 0.9 1.2 อัตราการว่างงาน (yoy%) 0.7 0.7 n.a. 0.8 n.a. 0.8 หนี้สาธารณะ/GDP 44.0 44.3 44.2* n.a. n.a. 44.2 ภายนอกประเทศ ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้าน $) 2.7 1.3 n.a. -1.1 n.a. -3.2 ทุนสำรองทางการ (พันล้าน $) 181.6 177.8 170.8 175.3 170.8 170.8 ฐานะสุทธิ Forward (พันล้าน $) 24.1 23.7 23.7 23.5 23.7 23.7
ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง