เอกสารแนบ
"เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในเดือนสิงหาคม 2556 บ่งชี้สัญญาณการปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะด้านการส่งออก สำหรับด้านการผลิตทั้งจากภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรมสามารถกลับมาขยายตัวได้ เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง"
1. การบริโภคภาคเอกชนในเดือนสิงหาคม 2556 มีสัญญาณดีขึ้นเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ในเดือนสิงหาคม 2556 ขยายตัวร้อยละ 1.7 ต่อปี และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว (m-o-m SA) ขยายตัวร้อยละ 2.4 ต่อเดือน ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บบนฐานการบริโภคภายในประเทศที่ขยายตัวในเกณฑ์ดีที่ร้อยละ 9.0 สะท้อนถึงการบริโภคภาคเอกชนที่ยังคงขยายตัวได้ในเกณฑ์ดี ขณะที่ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคในเดือนสิงหาคม 2556 ขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 5.4 ต่อปี สำหรับการบริโภคสินค้าคงทนสะท้อนได้จากปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือนสิงหาคม 2556 ยังคงหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -16.4 ต่อปี ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยฐานที่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ภายหลังนโยบายรถยนต์คันแรกได้สิ้นสุดลง ขณะที่ปริมาณการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในเดือนสิงหาคม 2556 หดตัวร้อยละ -8.9 ต่อปี โดยเป็นการหดตัวต่อเนื่องของยอดขายรถจักรยานยนต์ในภูมิภาคที่หดตัวร้อยละ -11.8 เป็นสำคัญ สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในเดือนสิงหาคม 2556 อยู่ที่ระดับ 69.5 ซึ่งเป็นการปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 9 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อทิศทางการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2556 หลังนโยบายภาครัฐเริ่มทยอยหมดลง ประกอบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความเปราะบาง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้จากการส่งออกและการท่องเที่ยว รวมถึงราคาพืชผลเกษตรที่ทรงตัวในระดับต่ำ ทำให้รายได้เกษตรกรในภาคชนบทปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชน 2555 2556 Q1 Q2 ก.ค. ส.ค. YTD ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ (%yoy) 14.1 6.9 -0.2 -1.9 1.7 2.4 %qoq_SA / %mom_SA - -0.8 -3.1 0.1 2.4 - ปริมาณนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค (%yoy) -0.4 4.4 7.8 9.0 5.4 6.3 %qoq_SA / %mom_SA - -4.4 -1.0 7.4 -5.1 - ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง (%yoy) 86.6 97.2 -3.3 -26.3 -16.4 17.6 %qoq_SA / %mom_SA - -3.0 -29.1 -2.5 13.4 - ปริมาณการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ (%yoy) 5.8 5.4 -6.2 -6.2 -8.9 -2.4 %qoq_SA / %mom_SA - -1.1 -4.9 6.6 -6.5 - ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค 67.6 73.8 72.8 70.6 69.5 72.5
2. การลงทุนภาคเอกชนในเดือนสิงหาคม 2556 มีสัญญาณดีขึ้นเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะการลงทุนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากยอดจำหน่ายปูนซีเมนต์ในเดือนสิงหาคม 2556 ขยายตัวร้อยละ 4.7 ต่อปี และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว (m-o-m SA) ขยายตัวร้อยละ 3.1 ต่อเดือน สะท้อนภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเติบโต และเริ่มกลับเข้าสู่ระดับปกติภายหลังจากที่มีการเร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปี 2555 ในขณะที่ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ในเดือนสิงหาคม 2556 ขยายตัวร้อยละ 25.2 ต่อปี โดยมีสาเหตุหลักจากฐานที่ต่ำของปีก่อนหน้าจากการเร่งขายอสังหาริมทรัพย์ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นราคาประเมินที่ดินสำหรับปี 2555-2558 ในเดือนมิถุนายน 2555 ประกอบกับราคาที่ดินเปล่าที่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนกรกฎาคมราคาที่ดินขยายตัวร้อยละ 10.7 ต่อปี อย่างไรก็ตาม ปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนหดตัวร้อยละ -7.7 ต่อปี ในขณะที่ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเดือนสิงหาคม 2556 ยังคงหดตัวร้อยละ -28.0 ต่อปี เนื่องจากปัจจัยฐานที่เร่งสูงมากในช่วงปลายปี 2555 จากนโยบายรถยนต์คันแรกของรัฐบาล ประกอบกับมีการเร่งผลิตและส่งมอบไปมากแล้วในช่วงก่อนหน้า
เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน 2555 2556 Q1 Q2 ก.ค. ส.ค. YTD เครื่องชี้การลงทุนในเครื่องจักร ปริมาณนำเข้าสินค้าทุน (%yoy) 22.1 3.8 -1.5 -3.6 -7.7 -0.7 %qoq_SA / %mom_SA - -12.5 0.6 8.5 -3.3 - ปริมาณนำเข้าสินค้าทุนหักเครื่องบิน เรือและรถไฟ (%yoy) 23.2 -0.7 -11.2 -7.9 -9.6 -6.8 %qoq_SA / %mom_SA -8.5 -5.8 7.5 3.6 - ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ (%yoy) 76.2 19.4 3.2 -24.5 -28.0 0.9 %qoq_SA / %mom_SA - -2.8 -6.2 -11.6 0.7 - เครื่องชี้การลงทุนก่อสร้าง ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ (%yoy) 21.4 35.2 10.9 29.9 25.2 23.0 %qoq_SA / %mom_SA - -1.7 -2.4 16.9 -1.0 - ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ (%yoy) 10.6 15.9 14.6 0.9 4.7 12.0 %qoq_SA / %mom_SA - -
3. เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจไทยด้านการคลังในเดือนสิงหาคม 2556 พบว่า ผลการจัดเก็บรายได้สุทธิของรัฐบาล (หลังหักการจัดสรรให้ อปท.) ในเดือนสิงหาคม 2556 มีจำนวน 213.3 พันล้านบาท หรือลดลงร้อยละ -11.4 ต่อปี สำหรับผลการเบิกจ่ายงบประมาณรวมในเดือนสิงหาคม 2556 มีจำนวน 143.4 พันล้านบาท หดตัวร้อยละ -10.1 ต่อปี โดยรายจ่ายงบประมาณปีปัจจุบันเบิกจ่ายได้จำนวน 130.3 พันล้านบาท หดตัวร้อยละ -14.8 แบ่งออกเป็น (1) รายจ่ายประจำ 106.3 พันล้านบาท หดตัวร้อยละ -15.4 และ (2) รายจ่ายลงทุน 24.0 พันล้านบาท ลดลงร้อยละ -12.0 สำหรับรายจ่ายเหลื่อมปีเบิกจ่ายได้ 13.1 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 100.9 ต่อปี สำหรับดุลเงินงบประมาณในเดือนสิงหาคม 2556 เกินดุลจำนวน 13.0 พันล้านบาท
เครื่องชี้ภาคการคลัง FY2555 FY2556 Q1/FY56 Q2/FY56 Q3/FY56 ส.ค. YTD รายได้สุทธิของรัฐบาล (หลังหักการจัดสรรให้ อปท.) 1,975.6 508.5 469.7 642.1 213.3 1,964.2 (%y-o-y) 4.4 27.6 13.8 3.4 -11.4 9.1 รายจ่ายรัฐบาลรวม 2,295.3 785.9 585.7 482.0 143.4 2,168.1 (%y-o-y) 5.4 60.5 -24.9 4.8 -10.1 4.8 ดุลเงินงบประมาณ -314.7 -284.0 -109.0 165.3 13.0 -255.5
4. การส่งออกในเดือนสิงหาคม 2556 มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐในเดือนสิงหาคม 2556 มีมูลค่า 20.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 3.9 ต่อปี และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว (m-o-m SA) สามารถกลับมาขยายตัวที่ร้อยละ 6.0 ต่อเดือน โดยสินค้าส่งออกที่กลับมาขยายตัวได้ดี ได้แก่ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก และสิ่งทอ ที่ขยายตัวร้อยละ 2.1 15.8 10.3 และ 6.1 ต่อปี ตามลำดับ เนื่องจากอุปสงค์ของตลาดโลกเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัว โดยการส่งออกไปยังตลาดส่งออกหลักสำคัญสามารถขยายตัวได้ดี เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป จีน ฮ่องกง และตลาดอาเซียน ที่ขยายตัวร้อยละ 3.6 13.4 3.1 4.3 และ 17.3 ต่อปี ตามลำดับ สำหรับมูลค่าการนำเข้าสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐในเดือนสิงหาคม 2556 มีมูลค่าอยู่ที่ 20.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ -2.1 ต่อปี ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐที่ต่ำกว่ามูลค่าการนำเข้าสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐทำให้ดุลการค้าในเดือนสิงหาคม 2556 ขาดดุลเล็กน้อยอยู่ที่ -0.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ประเทศคู่ค้าหลัก 2556 (สัดส่วนการส่งออกปี 2555) 2555 Q1 Q2 ก.ค. ส.ค. YTD ส่งออกไปทั้งโลก (%yoy) 3.1 4.3 -2.2 -1.5 3.9 1.0 %qoq_SA / %mom_SA -0.9 -3.4 1.0 6.0 - 1.จีน (11.7%) 2.5 7.3 -13.4 -5.3 3.1 -2.9 2.ญี่ปุ่น (10.2%) -1.6 1.5 -6.2 -10.5 -6.0 -4.0 3.สหรัฐฯ (9.9%) 4.6 2.6 -3.5 -0.6 3.6 0.0 4.สหภาพยุโรป (8.5%) -9.2 8.7 -5.2 0.0 13.4 2.7 5.ฮ่องกง (5.7%) 9.6 11.2 7.8 -7.8 4.3 6.4 6.มาเลเซีย (5.4%) 0.2 -0.8 5.9 9.6 7.6 4.0 7.สิงคโปร์ (4.7%) -5.1 10.6 -10.6 41.5 57.6 10.6 8. ตะวันออกกลาง (5.0%) 6.6 4.4 -5.6 -13.9 6.8 -1.6 9.ทวีปออสเตรเลีย (4.9%) 22.1 30.4 14.5 17.3 4.9 18.7 PS.อาเซียน-9 (24.7%) 5.0 5.9 2.5 8.6 17.3 6.2
5. เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจด้านการผลิตในเดือนสิงหาคม 2556 ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าทั้งในภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกรรม ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง โดยดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนสิงหาคม 2556 (เบื้องต้น) หดตัวร้อยละ -3.1 ต่อปี แต่เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว (m-o-m SA) ขยายตัวที่ร้อยละ 2.6 ต่อเดือน ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาหมวดอุตสาหกรรมที่ยังคงหดตัวในเดือนสิงหาคม 2556 ได้แก่ (1) อุตสาหกรรมอาหาร เนื่องจากได้รับผลกระทบจากกลุ่มผลิตภัณฑ์กุ้งแช่แข็งโรคตายด่วน (Early Mortality Syndrome: EMS) ทำให้ขาดแคลนกุ้งในการผลิต และผลิตภัณฑ์ปลาทูน่ากระป๋อง จากปัญหาอุปสงค์ที่ชะลอลงเนื่องจากผู้บริโภคชะลอคำสั่งซื้อเนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับราคาที่มีความผันผวนสูง (2) อุตสาหกรรมเครื่องประดับ เนื่องจากราคาทองคำที่มีความผันผวน และ (3) อุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากนโยบายรถคันแรกที่สิ้นสุดลง เป็นสำคัญ อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมที่กลับมาขยายตัวได้ดี ได้แก่ อุตสาหกรรมน้ำมันปิโตรเลียม จากปริมาณการผลิตน้ำมันเบนซิน 95 เพิ่มมากขึ้นที่ทดแทนน้ำมันเบนซิน 91 ที่มีการยกเลิกการผลิต อุตสาหกรรมเครื่องแต่งกาย ที่มีการผลิตเพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อคำสั่งซื้อที่มีเข้ามากขึ้นจากต่างประเทศ และอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ที่กลับมาขยายตัวเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 8 เดือน เนื่องจากมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิต (Cap U) ในเดือนสิงหาคม 2556 อยู่ที่ระดับ 63.5 ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนสิงหาคม 2556 อยู่ที่ระดับ 91.3 เป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 และต่ำสุดในรอบ 22 เดือน เนื่องจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณชะลอตัวลง และส่งผลกระทบต่อการบริโภค อีกทั้งต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ในขณะที่การผลิตภาคการเกษตร ในเดือนสิงหาคม 2556 พบว่า ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรหดตัวร้อยละ -3.1 ต่อปี แต่เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว (m-o-m SA) ขยายตัวที่ร้อยละ 2.6 ต่อเดือน โดยเป็นการลดลงของผลผลิตในหมวดพืชผลสำคัญ โดยเฉพาะข้าว ที่ส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง สอดคล้องกับผลผลิตกุ้ง ที่ยังได้รับผลกระทบจากปัญหาโรคระบาดในกุ้ง อย่างไรก็ดี ผลผลิตการเกษตรที่กลับมาขยายตัวได้ดี ได้แก่ ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ที่ผลผลิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากพื้นที่เพาะปลูกและเก็บเกี่ยวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่นเดียวกับผลผลิตหมวดปศุสัตว์ที่ยังคงขยายตัวในเกณฑ์ดี ตามการเพิ่มขึ้นของผลผลิตสุกรและไก่เนื้อเป็นสำคัญ สำหรับเครื่องชี้ภาคบริการที่สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศพบว่ายังคงขยายตัวดีต่อเนื่องโดยนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือนสิงหาคม 2556 มีจำนวนทั้งสิ้น 2.5 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 28.1 ต่อปี และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว (m-o-m SA) ขยายตัวร้อยละ 7.2 โดยเป็นการขยายตัวดีจากนักท่องเที่ยวจาก จีน มาเลเซีย และเวียดนาม ที่ขยายตัวร้อยละ 78.9 24.0 และ 48.7 ตามลำดับ
เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทาน 2555 2556 Q1 Q2 ก.ค. ส.ค. YTD ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (%yoy) 2.5 3.0 -5.2 -4.9 -3.1 -1.6 %qoq_SA / %mom_SA - -3.1 -5.9 -0.6 2.6 - ดัชนีผลผลิตเกษตรกรรม (%yoy) 3.9 0.4 -0.5 -2.7 -3.1 -0.8 %qoq_SA / %mom_SA - -1.5 0.8 -7.2 1.4 - นักท่องเที่ยวต่างชาติ (%yoy) 16.2 18.9 21.3 22.5 28.1 21.4 %qoq_SA / %mom_SA - 1.1 8.1 -3.2 7.2 -
6. เสถียรภาพเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนสิงหาคม 2556 อยู่ที่ร้อยละ 1.6 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวย และเป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวของผักผลไม้ ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาเครื่องประกอบอาหาร อาทิ น้ำมันพืช และกะทิสำเร็จรูป ลดลงเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ราคาน้ำมันขายปลีกภายในประเทศบางชนิดลงลงตามภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลก ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.8 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า ส่วนอัตราการว่างงานในเดือนกรกฎาคม 2556 อยู่ที่ร้อยละ 0.9 ของกำลังแรงงานรวม ซึ่งคิดเป็นจำนวนผู้ว่างงานเท่ากับ 3.55 แสนคน สำหรับสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2556 อยู่ที่ร้อยละ 44.1 ต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ไม่เกินร้อยละ 60.0 สำหรับเสถียรภาพภายนอกประเทศยังอยู่ในระดับมั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนได้จากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2556 อยู่ในระดับสูงที่ 168.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นประมาณ 2.6 เท่า
เครื่องชี้เสถียรภาพเศรษฐกิจ 2555 2556 Q1 Q2 ก.ค. ส.ค. YTD ภายในประเทศ เงินเฟ้อทั่วไป (%yoy) 3.0 3.1 2.3 2.0 1.6 2.5 เงินเฟ้อพื้นฐาน (%yoy) 2.1 1.5 1.0 0.9 0.8 1.1 อัตราการว่างงาน (yoy%) 0.7 0.7 0.7 0.9 n.a. 0.8 หนี้สาธารณะ/GDP 44.0 44.3 44.3 44.1 n.a. 44.1 ภายนอกประเทศ ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้าน $) 2.7 1.3 -5.1 -0.7 n.a. -4.5 ทุนสำรองทางการ (พันล้าน $) 181.6 177.8 170.8 172.2 168.8 168.8 ฐานะสุทธิ Forward (พันล้าน $) 24.1 23.7 23.7 23.0 22.7 22.7
ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง