Macro Morning Focus ประจำวันที่ 2 ตุลาคม 2556
Summary:
1. ดัชนีอัตราเงินเฟ้อในเดือน ก.ย. 56 ขยายตัวร้อยละ 1.42
2. ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์แจ้งรัฐบาลแห่เก็งกำไรคอนโดเกือบครึ่ง ตอนนี้ชะลอลง
3. สหรัฐฯปิดหน่วยงานบางส่วนอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ 17 ปี
Highlight:
1. ดัชนีอัตราเงินเฟ้อในเดือน ก.ย. 56 ขยายตัวร้อยละ 1.42
- กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ในเดือน ก.ย. 56 อยู่ที่ 105.58 ขยายตัวร้อยละ 1.42 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และขยายตัวร้อยละ 0.16 จากเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน(Core CPI) อยู่ที่ 103.23 ขยายตัวร้อยละ 0.61 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และขยายตัวร้อยละ 0.09 จากเดือนก่อนหน้า โดยดัชนีราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มและดัชนีราคาสินค้าที่ไม่ใช่หมวดอาหารและเครื่องดื่มขยายตัวร้อยละ 2.49 และ 0.85 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ
- สศค. วิเคราะห์ว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยที่ปรับสูงขึ้นมีสาเหตุจากดัชนีราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (สัดส่วนน้ำหนักร้อยละ 1.8 ของดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ) ที่ขยายตัวร้อยละ 2.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นสำคัญ โดยมีสาเหตุมาจากราคาอาหารสดประเภทข้าว ไข่ไก่ เนื้อสุกร เนื้อโค ปลาและสัตว์น้ำบางชนิด ค่าก๊าซหุงต้ม ค่ากระแสไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์เบียร์และสุราที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ราคาผักและผลไม้สดหลายชนิดปรับตัวลดลงจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกและเป็นฤดูกาลผลิต ซึ่งส่งผลให้มีปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ราคาเฉลี่ยน้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศบางชนิดยังมีราคาสูงขึ้นเล็กน้อยจึงส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นมากนักจากเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ดี รัฐบาลได้มีมาตรการต่างๆ เพื่อดูแลและลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน เช่น มาตรการลดภาระการเดินทางโดยการขยายเวลาการให้บริการรถเมล์และรถไฟฟรีออกไปเป็นสิ้นสุดวันที่ 31มี.ค. 57 การอุดหนุนก๊าซแอลพีจีให้แก่ภาคครัวเรือนที่มีรายได้น้อย เป็นต้น ทั้งนี้ สศค. คาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 56 อยู่ที่ร้อยละ 2.3 (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 2.0-2.5) และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.1 (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 0.9-1.4) (คาดการณ์ ณ เดือน ก.ย. 56)
2. ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์แจ้งรัฐบาลแห่เก็งกำไรคอนโดเกือบครึ่ง ตอนนี้ชะลอลง
- ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ รายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ค.ร.ม.) ว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 56 พบว่า อสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นบ้านหลังแรกหรือบ้านหลังที่สอง และใช้เป็นที่อยู่อาศัยมีสัดส่วนร้อยละ 52 เป็นการซื้อเพื่อลงทุนร้อยละ 33 และซื้อเพื่อเก็งกำไรร้อยละ 15
- สศค. วิเคราะห์ว่า ในช่วงที่ผ่านมาคอนโดมิเนียมมียอดการซื้อขายเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากผู้บริโภค และนักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ ในภาคอสังหาริมทรัพย์ประกอบกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มีการเปิดตัวโครงการใหม่ นอกจากนี้เครื่องชี้การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ล่าสุดในเดือน ส.ค. 56 สะท้อนจากภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์รวมขยายตัวร้อยละ 25.2 ต่อปี ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 29.9 และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออกพบว่าหดตัวร้อยละ -1.0 ต่อเดือน สาเหตุหลักจากฐานต่ำของปีที่แล้วจากการเร่งขายอสังหาริมทรัพย์ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นราคาประเมินที่ดินสำหรับปี 2555-2558 ในเดือน มิ.ย. 55 ประกอบกับราคาที่ดินเปล่าที่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือน ก.ค. ราคาที่ดินขยายตัวร้อยละ 10.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
3. สหรัฐฯ ปิดหน่วยงานบางส่วนอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ 17 ปี
- ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศว่า สหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะ "Government Shutdown" อย่างเป็นทางการ หรือเรียกว่า ภาวะที่รัฐบาลกลางต้องปิดหน่วยงานบางส่วน สืบเนื่องจากสภาคองเกรสมีความเห็นไม่ลงรอยกันในเรื่องแผนงบประมาณปี 2557
- สศค. วิเคราะห์ว่า ผลกระทบของ Government Shutdown ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องหยุดให้บริการสาธารณะยกเว้นบริการที่จำเป็น (Essential service) ซึ่งจะทำให้รัฐบาลกลางต้องพักงานโดยไม่จ่ายเงินเดือนให้กับเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางจำนวน 821,504 คน จากเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางทั้งหมด 3.43 ล้านคน (คิดเป็นร้อยละ 24) นอกจากนี้ หากกฎหมายงบประมาณปี 2557 ของสหรัฐฯ ล่าช้า ออกไปอีก 1 เดือน จะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ (ตามที่ประเมินโดยทำเนียบขาวสหรัฐฯ) อยู่ที่ 40 พันล้านเหรียญ หรือคิดเป็นร้อยละ 0.2 ของ GDP สหรัฐฯ ซึ่ง สศค. ประเมินว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากนักแต่ก็อาจเกิดความผันผวนของตลาดการเงินในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่จะต้องติดตามต่อไปคือ (1) แนวทางการต่อรองเพื่อให้งบประมาณปี 2557 ของสหรัฐฯ สามารถมีผลบังคับใช้ได้โดยเร็ว และ (2) ในวันที่ 17 ตุลาคม 2556 จะมีประเด็นความเสี่ยงทางการคลังสหรัฐเพิ่มอีก 1 เรื่อง คือเพดานหนี้รัฐบาลของสหรัฐฯ ที่ต้องขยายเพิ่มจาก 16.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งขณะนี้ประธานาธิบดีโอบามายังไม่สามารถหาข้อตกลงกับสภาผู้แทนราษฎรได้ และกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้แจ้งสภาคองเกรสว่าหากเพดานหนี้ไม่ได้รับการเพิ่มขึ้นภายในเวลาที่กำหนด รัฐบาลสหรัฐฯ อาจจะต้องผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในช่วงกลางเดือน ต.ค. 56
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257