รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 21 ตุลาคม 2556

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 21, 2013 13:38 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 21 ตุลาคม 2556

Summary:

1. มูลค่าการส่งออกในปี 57 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 7.0

2. หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือน ส.ค. 56 อยู่ที่ร้อยละ 44.6 ของ GDP

3. เศรษฐกิจจีนไตรมาส 3 ขยายตัวร้อยละ 7.8

Highlight:

1. มูลค่าการส่งออกในปี 57 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 7.0
  • นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่าจากการประเมินสถานการณ์ส่งออกขณะนี้ มั่นใจว่าปี 56 การส่งออกของไทยจะขยายตัวได้ร้อยละ 4 แม้จะมีหลายหน่วยงาน ออกมาระบุว่า การส่งออกอาจขยายตัวไม่ดีนัก ส่วนสถานการณ์เศรษฐกิจในสหรัฐฯ ทั้งการขยายเพดานหนี้ และการปิดทำการหน่วยงานรัฐ หรือ shut down ไม่น่าจะกระทบกับการส่งออกไทย โดยทิศทางการส่งออกจากนี้จะมุ่งในตลาดที่มีศักยภาพและมีอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดี เช่น เอเชียและอาเซียน 9 ประเทศ ซึ่งมีข้อตกลงการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี สำหรับการส่งออกปี 57 เบื้องต้นประเมินว่าจะขยายตัวได้ประมาณร้อยละ 7 เพราะเศรษฐกิจในสหรัฐ ยุโรป และจีน กำลังจะฟื้นตัว ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะจัดการประชุมระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกของปีนี้และปีหน้าอีกครั้งในวันที่ 4 พ.ย. 56
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ปัจจุบันมูลค่าการส่งออกในช่วง 8 เดือนแรกของปี 56 ขยายตัวร้อยละ 1.0 โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ สินค้าอุตสาหกรรม โดยเฉพาะหมวดสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วน และเครื่องใช้ไฟฟ้า สำหรับตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ทวีปออสเตรเลียและอาเซียน9 ซึ่งมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 18.7 และ 6.2 ตามลำดับ ทั้งนี้ สศค. คาดว่า มูลค่าการส่งออกในปี 56 จะขยายตัวร้อยละ 1.8 เนื่องจากคาดว่าเศรษฐกิจโลกยังคงฟื้นตัวอย่างล่าช้า ประกอบกับเศรษฐกิจจีนและญี่ปุ่นมีแนวโน้มชะลอตัว อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงที่เหลือของปีจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อภาคส่งออกของไทยโดยตรง สำหรับปี 57 สศค. คาดว่ามูลค่าส่งออกสินค้าจะขยายตัวร้อยละ 7.5 (คาดการณ์ ณ เดือน ก.ย. 56) เนื่องจากคาดว่าการส่งออกสินค้าจะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ตามการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะยังอยู่ในช่วงของการปรับตัวต่อเสถียรภาพในระบบการเงิน ก็ตาม
2. หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือน ส.ค. 56 อยู่ที่ร้อยละ 44.6 ของ GDP
  • ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะกล่าวว่า หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือน ส.ค. 56 อยู่ที่ 5.3 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 44.6 ของ GDP โดยแบ่งเป็นหนี้ของรัฐบาล 3.69 ล้านล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1.09 ล้านล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 5.24 แสนล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 834 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นสุทธิ 7.42 หมื่นล้านบาท โดยหนี้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น 3.74 หมื่นล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) เพิ่มขึ้น 3.22 หมื่นล้านบาท และหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น 4,502 ล้านบาท
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การที่หนี้สาธารณะอยู่ที่ร้อยละ 44.6 ของ GDP นั้น สะท้อนถึงเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศของไทยที่ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง เนื่องจากเป็นระดับที่ต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่กำหนดไว้ที่ร้อยละ 60.0 ของ GDP ประกอบกับหนี้สาธารณะส่วนใหญ่เป็นหนี้ระยะยาว (ร้อยละ 97.8 ของยอดหนี้สาธารณะ) ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าหากเศรษฐกิจไทยเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจขึ้นในระยะสั้น นโยบายการคลังก็ยังคงสามารถทำหน้าที่ในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ สอดคล้องกับเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านเสถียรภาพอื่นๆ ที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดีเช่นกัน สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อในช่วง 9 เดือนแรกปี 56 อยู่ที่ร้อยละ 2.4 ขณะที่ทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ วันที่ 11 ต.ค. 56 อยู่ที่ 171.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
3. เศรษฐกิจจีนไตรมาส 3 ขยายตัวร้อยละ 7.8
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในไตรมาสที่ 3 ปี 56 พบว่าจีนสามารถขยายตัวได้ที่ร้อยละ 7.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเป็นการขยายตัวจากไตรมาสก่อนหน้าร้อยละ 2.2 ทำให้เศรษฐกิจจีน 9 เดือนแรกของปี 56 เติบโตได้ร้อยละ 7.7 ซึ่งการเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากกิจกรรมในภาคอุตสาหกรรมและการบริโภคที่ขยายตัวได้ดี โดยดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดขายจากการค้าปลีกขยายตัวได้ในระดับ 2 digits แม้ว่าจะยังมีมาตรการจำกัดฟองสบู่ก็ตาม นอกจากนี้เศรษฐกิจจีนยังคงได้รับประโยชน์มาจากนโยบายการคลัง ทั้งการลดภาษีและการลงทุนสร้างทางรถไฟที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจให้ยังสามารถโตได้ตามเป้าการเติบโตทั้งปี 56 ที่ร้อยละ 7.5 ตามที่รัฐบาลวางไว้
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การเติบโตที่ร้อยละ 7.8 ในไตรมาสที่ 3 ปี 56 ถือเป็นสัญญาณบวกว่าเศรษฐกิจจีนยังคงแข็งแกร่งแม้จะเผชิญกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และภัยคุกคามจากปัญหาภาคการเงินและมีโอกาสสูงที่จีนจะสามารถเติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้ ทั้งนี้การเติบโตของเศรษฐกิจจีนจะทำให้ภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกโดยรวมชัดเจนยิ่งขึ้นหลังเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปกลับมาฟื้นตัวแล้ว อย่างไรก็ดี รัฐบาลจีนตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีหน้าไว้เพียงร้อยละ 7.0 สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะปรับแนวทางการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในปีหน้า ทั้งนี้ สศค. คาดว่าในปี 56 เศรษฐกิจของจีนจะเติบโตได้ ที่ร้อยละ 7.6 และชะลอตัวลงเล็กน้อยที่ร้อยละ 7.5 ในปี 57 (คาดการณ์ ณ เดือน ก.ย. 56)

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ