Macro Morning Focus ประจำวันที่ 13 พฤศจิกายน 2556
1. 16 ประเทศ เตือนมาท่องเที่ยวไทยให้เลี่ยงพื้นที่ชุมนุม
2. ครม. อนุมัติการส่งเสริมกิจการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (Eco - car)
3. ยอดขายรถยนต์ของจีนในเดือน ต.ค. 56 เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.0 ต่อปี
Highlight:
- ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ในฐานะผู้ดูแลศูนย์ปฏิบัติการวางแผนการท่องเที่ยวและศูนย์ปฏิบัติการในภาวะวิกฤต (ศวก.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมี 16 ประเทศที่ประกาศแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวของตนเองแล้ว ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส สวีเดน ญี่ปุ่น ไต้หวัน แคนาดา ออสเตรเลีย อิสราเอล บราซิล สิงคโปร์ เบลเยียม สเปน เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ เยอรมนี และฮังการี โดยการเตือนเป็นระดับ 2 คือ การให้ระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงพื้นที่การชุมนุม ทั้งนี้ รายงานจาก ททท. ในสำนักงานต่างจังหวัดและสำนักงานต่างประเทศ รวมถึงจากสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) พบว่า ยังไม่มีการยกเลิกการจองห้องพักใดๆ
- สศค. วิเคราะห์ว่า ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง ทำให้สถานทูตของประเทศต่างๆ ได้ประกาศแจ้งเตือนให้นักท่องเที่ยวของตนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย จากการแจ้งเตือนระดับที่ 1 (เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 56) จำนวน 9 ประเทศ ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 18.1 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดในปี 55 มาเป็นการแจ้งเตือนระดับที่ 2 จำนวน 16 ประเทศ ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 29.4 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดในปี 55 ทั้งนี้ จากข้อมูลล่าสุด 10 เดือนแรกของปี 56 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยแล้วทั้งสิ้น 21.74 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 22.3 ต่อปี และคาดว่าทั้งปี 56 จะมีจำนวนประมาณ 27.0 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 20.8 ต่อปี โดยคาดว่าจะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 1.2 ล้านล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ชุมนุมไม่ยืดเยื้อและไม่รุนแรง การประกาศเตือนดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาของนักท่องเที่ยวต่างชาติในระยะสั้นๆ แต่ประเมินว่าจะยังไม่ส่งผลต่อธุรกิจการท่องเที่ยวภาพรวมในปี 56
- คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 56 อนุมัติโครงการส่งเสริมกิจการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล รุ่นที่ 2 หรือรถอีโคคาร์ โดยผู้ประกอบการต้องลงทุนผลิตแบบครบวงจร ทั้งการประกอบ รถยนต์ การผลิตชิ้นส่วนและเครื่องยนต์ มีปริมาณการผลิตไม่น้อยกว่า 100,000 คันต่อปี มูลค่าเงินลงทุน ไม่ต่ำน้อยกว่า 6,500 ล้านบาท มีอัตราการใช้น้ำมันเชื่อเพลิงไม่เกิน 4.3 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร สำหรับขนาดเครื่องยนต์เบนซินต้องมีขนาดไม่เกิน 1,300 ซีซี ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลจะต้องมีขนาดไม่เกิน 1,500 ซีซี
- สศค. วิเคราะห์ว่า ตั้งแต่ปี 50 ที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล มีผู้ประกอบการที่ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุน จำนวนทั้งสิ้น 6 ราย มีกำลังการผลิตรวมกันกว่า 585,000 คันต่อปี และมีจำนวนเงินลงทุนประมาณ 36,123 ล้านบาท ซึ่งนโยบายนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ผลิตรถยนต์ โดยปัจจุบันได้มีการลงทุนสร้างฐานการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงาน มาตรฐานสากลที่ครบวงจร ซึ่งรวมถึงการผลิตเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และชิ้นส่วนยานยนต์ ขณะที่โครงสร้างภาษีรถยนต์ในอดีตที่จัดเก็บความจุของกระบอกซูบ (ซีซี) และแรงม้าไม่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาของอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลกที่ให้ความสำคัญกับการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 ) ปัจจุบันรัฐบาลได้มีนโยบายปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ โดยพิจารณาจากอัตราการปล่อย CO2 แล้วดังนั้น การที่ ครม. อนุมัติโครงการส่งเสริมกิจการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล รุ่นที่ 2 ซึ่งเป็นรถยนต์ที่สะอาด ประหยัด และปลอดภัยจะช่วยให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยขยายตัวอย่างยั่งยืนต่อไป และจะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคกลับมาสนับสนุนการซื้อรถยนต์ที่ประหยัดพลังงานและมีปล่อย CO2 น้อย เนื่องราคารถอีโคคาร์จะถูกกว่ารถยนต์ประเภทอื่น ซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังงานและส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมของประเทศ
- สมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีนระบุว่า ยอดขายส่งรถยนต์ สำหรับรถอเนกประสงค์และรถยนต์ครอบครัวในเดือน ต.ค. 56 เพิ่มขึ้น 1.61 ล้านคัน คิดเป็นร้อยละ 24.0 ต่อปี สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.50 ล้านคัน โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และความต้องการรถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นที่สูงขึ้น สะท้อนจากยอดขายของโตโยต้าในจีนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 81.0 หรือคิดเป็น 82,400 คัน ขณะที่ยอดขายรถยนต์ของฮอนด้าอยู่ที่ 75,150 คัน
- สศค. วิเคราะห์ว่า ยอดขายรถยนต์ของจีนในเดือน ต.ค. 56 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 9 เดือน โดยมีปัจจัยหลักมาจากมาตรการกระจายความเจริญและการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ประกอบกับมาตรการการอุดหนุนภาครถยนต์ของรัฐบาลเป็นสำคัญ และมีช่วงวันหยุดยาว 1 สัปดาห์ เนื่องในวันชาติของจีน ซึ่งมีส่วนสนับสนุนยอดขายรถยนต์ให้สูงขึ้น นอกจากนี้ ข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (HSBC ) พบว่า เดือน ต.ค. 56 อยู่ที่ระดับ 52.6 จุด เพิ่มขึ้นจากระดับ 52.4 จุด จากเดือนก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นถึงคำสั่งซื้อทั้งในภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 7 เดือน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีนในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 56 จะขยายตัวได้ดี ทั้งนี้ สศค. คาดการณ์ ณ เดือน ก.ย. 56 ว่า เศรษฐกิจจีนในปี 56 จะขยายตัวร้อยละ 7.5 ต่อปี
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257