รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 14 พฤศจิกายน 2556

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 14, 2013 10:54 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 14 พฤศจิกายน 2556

Summary:

1. รัฐสภาเห็นชอบกรอบเจรจา FATCA

2. รัฐบาลคาดเจรจาข้อตกลง FTA ไทย-EU จะมีข้อสรุปได้ในปลายปี 57

3. อัตราการว่างงานเกาหลีใต้เดือนตุลาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 %

Highlight:

1. รัฐสภาเห็นชอบกรอบเจรจา FATCA
  • ที่ประชุมร่วมกันรัฐสภามีมติ 426 ต่อ 20 เสียง เห็นชอบกับร่างกรอบเจรจาความตกลงเพื่อความร่วมมือด้านภาษีอาการระหว่างประเทศและการปฏิบัติตามกฎหมายให้รายงานธุรกรรมทางการเงินบุคคลสัญชาติสหรัฐอเมริกาที่อยู่นอกประเทศซึ่งมีผลประโยชน์ทางภาษี (Foreign Account Tax Compliance Act: FATCA) ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐฯ ตามที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ออกกฎหมาย FATCA โดยมีวัตถุปรสงค์เพื่อตรวจสอบและป้องกันการเลี่ยงภาษีของผู้มีรายได้ที่มีสัญชาติอเมริกัน ซึ่งดำเนินธุรกรรมทางการเงินในต่างประเทศ ซึ่งกฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2557 โดยกฎหมาย FATCA กำหนดให้สถาบันการเงินในประเทศต่างๆ จัดทำรายงานข้อมูลทางบัญชี ธุรกรรมทางการเงิน และเงินได้ของผู้มีรายได้ซึ่งมีสัญชาติอเมริกันในสถาบันการเงินนั้นๆ ส่งให้สรรพากรของประเทศสหรัฐอเมริกา ในกรณีที่เจ้าของบัญชีไม่ให้ความร่วมมือในการดำเนินการตามกฎหมาย FATCA สถาบันการเงินอาจต้องดำเนินการปิดบัญชีหรือหักเงินในบัญชีของลูกค้า และในกรณีที่สถาบันการเงินไม่ยินยอมเข้าร่วมปฏิบัติตามกฎหมาย FATCA เงินได้ของสถาบันการเงินดังกล่าวที่อยู่ภายใต้ระบบภาษีของประเทศสหรัฐอเมริกาหรืออยู่ในประเทศที่ได้ทำความตกลงเพื่อความร่วมมือด้านภาษีอากรระหว่างประเทศและการปฏิบัติตาม FATCA กับประเทศสหรัฐอเมริกา จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 30 ของเงินได้ดังกล่าว ดังนั้น การที่รัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบร่างกรอบเจรจาดังกล่าวจะทำให้สถาบันการเงินของประเทศไทยไม่ถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 30 ของเงินได้ที่อยู่ภายใต้ระบบภาษีของประเทศสหรัฐอเมริกาฯ และจะช่วยในการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านภาษีกับประเทศสหรัฐอเมริกา และยังเป็นการสร้างเครือข่ายการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านภาษี กับประเทศคู่สัญญาต่างๆ ที่ได้ลงนามในความตกลง FATCA
2. รัฐบาลคาดเจรจาข้อตกลง FTA ไทย-EU จะมีข้อสรุปได้ในปลายปี 57
  • นายกรมต. และ รมว.กลาโหมได้เปิดเผยภายหลังการหารือกับผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรป (EU) ด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคง และรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปในเรื่องความคืบหน้าของความตกลงการค้าเสรีไทย-EU (FTA ไทย-EU) และการเจรจากรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้านไทย-EU (PCA) ว่า รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปและนักธุรกิจสำคัญของ EU จะมาไทยในวันที่ 16 พ.ย.56 เพื่อติดตาม FTA ไทย-EU รวมทั้งการลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหนังสือแสดงเจตจำนงว่าด้วยการหารือเชิงนโยบายด้านวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กระทรวงอุตสาหกรรม
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ความร่วมมือกันของไทยกับ EU ถือเป็นความร่วมมือที่สำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศคือ (1) ข้อตกลง FTA ไทย-EU ช่วยส่งเสริมการค้าระหว่างกัน เนื่องจาก EU ถือเป็นประเทศคู่ค้าหลักที่สำคัญลำดับที่ 4 ของไทย (สัดส่วนการส่งออกร้อยละ 8.5 ของการส่งออกรวมในปี 55) โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยไป EU ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 56 ขยายตัวร้อยละ 2.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีสินค้าส่งออกสำคัญคือ อัญมณีและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ยาง และแผงวงจรไฟฟ้า (2) ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ได้แก่ การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการบริการการท่องเที่ยว การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การแข่งขันด้านการท่องเที่ยวการแลกเปลี่ยนข้อมูลแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของทั้งสองฝ่ายและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียรวมถึงฝ่ายวิชาการด้านการอนุรักษ์และส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติและการปรับปรุงการบริการด้านการท่องเที่ยว ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติจาก EU ถือเป็นนักท่องเที่ยวหลักที่สำคัญลำดับที่ 3 ของไทย (สัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติร้อยละ 25.2 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมที่เดินทางเข้าไทยในปี 55) โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติจาก EU เดินทางเข้าไทยในช่วง 10 เดือนแรกของปี 56 มีจำนวน 4.88 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 13.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ (3) ความร่วมมือเพื่อการหารือร่วมกันเชิงนโยบายด้านวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้แก่ การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านนโยบายการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและการส่งเสริมให้เกิดพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของทั้งสองฝ่าย
3. อัตราการว่างงานเกาหลีใต้เดือนตุลาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 %
  • รัฐบาลเกาหลีใต้เปิดเผยอัตราว่างงานเดือน ต.ค. 56 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า แตะที่ร้อยละ 2.8 เนื่องจากตัวเลขว่างงานของกลุ่มวัยรุ่นขยายตัวในอัตราที่รวดเร็ว โดยอัตราว่างงานเดือน ต.ค. 56 ในกลุ่มผู้ที่มีอายุระหว่าง 15 - 29 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 จากเดือนก่อนหน้าสู่ระดับร้อยละ 7.8
  • สศค. วิเคราะห์ว่า อัตราการว่างงานของเกาหลีใต้ในเดือน ต.ค. 56 อยู่ที่ร้อยละ 2.8 นั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการว่างงานของกลุ่มวัยรุ่นที่ขยายตัวในอัตราเร่ง อย่างไรก็ดี หากพิจารณาเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่า จำนวนผู้มีงานทำในเดือน ต.ค. 56 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 476,000 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้มีงานทำขยายตัวเหนือระดับ 400,000 ราย ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 โดยสาขาที่มีการจ้างงานสูง คือภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีจำนวนการจ้างงานในเดือน ต.ค. 56 อยู่ที่ 31,000 ราย ทำสถิติขยายตัวเพิ่มขึ้น 16 เดือนติดต่อกัน ขณะที่การจ้างงานในภาคบริการอยู่ที่ 433,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ