รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 17 ธันวาคม 2556

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 17 ธันวาคม 2556

1. ราคาสินค้าเกษตรฟื้นตัวขึ้นปี 57

2. พาณิชย์เผยยอดจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเดือน พ.ย. ลดฮวบร้อยละ 32

3. ญี่ปุ่นต้องการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากเอเซียตะวันออกเฉียงใต้

Highlight:

• นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงแนวโน้มการส่งออกข้าวในปี 57 โดยคาดว่าจะสามารถส่งออกได้ประมาณ 7 ล้านตัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่กระทรวงพาณิชย์คาดว่าจะส่งออกได้ประมาณ 6 - 6.2 ล้านตัน นอกจากนี้ยังคาดว่าในปี 57 ราคาสินค้าเกษตรจะกลับมาฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 2/57 หรือไตรมาส 3/57 โดยเฉพาะยางพารา และมันสำปะหลัง
• สศค. วิเคราะห์ว่า ปัจจัยสำคัญที่กดดันการส่งออกข้าวไทยในปี 56 นั้น ได้แก่ ประเทศผู้ผลิตและส่งออกข้าวสำคัญของโลก ได้แก่ เวียดนามและอินเดีย ต่างมีการปรับลดราคาส่งออกข้าว เพื่อเร่งระบายสต็อกข้าวที่มีอยู่ค่อนข้างมาก เนื่องจากมีอุปทานส่วนเกินค่อนข้างสูงในปีเพาะปลูกที่ผ่านมาจากสภาพภูมิอากาศเอื้ออำนวยในการเพาะปลูกและไม่ประสบปัญหาภัยพิบัติ ทั้งนี้ ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 56 ปริมาณการส่งออกข้าวไทยมีทั้งสิ้น 5.4 ล้านตัน หรือหดตัวร้อยละ -3.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน และประเทศคู่ค้าหลักในการนำเข้าข้าวไทย ได้แก่ เบนิน สหรัฐฯ อิรัก และแอฟริกาใต้ อย่างไรก็ดี ในปี 57 คาดว่าราคายางพาราจะปรับตัวดีขึ้นจากการคาดการว่าความต้องการยางธรรมชาติจะเพิ่มมากขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะฟื้นตัว สะท้อนได้จากผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น (ทังกัน) ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ในไตรมาส 4 ปี 56 ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่เพิ่มขึ้นแตะระดับ +16 จากไตรมาส 3 ที่ระดับ +12 ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4

• รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ในเดือน พ.ย. 56 ผู้ประกอบธุรกิจที่ยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัททั่วประเทศมีจำนวน 4,397 ราย ลดลงร้อยละ 32 หรือลดลง 2,061 ราย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมูลค่าทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 25,449 ล้านบาท ในขณะที่ 11 เดือนแรกของปี 56 มีจำนวนธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งใหม่รวม 64,396 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 หรือเพิ่มขึ้น 5,091 ราย ส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศเดือน พ.ย. มีจำนวน 1,783 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
• สศค. วิเคราะห์ว่า ยอดจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทในเดือน พ.ย.56 ปรับตัวลดลงร้อยละ 32 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนความกังวลของผู้ประกอบการต่อสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่ยึดเยื้อ อย่างไรก็ดี ในบางธุรกิจก็ยังคงมีการจดทะเบียนเพิ่มขึ้น ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป อสังหาริมทรัพย์ ขายส่งเครื่องจักรและ ภัตตาคารร้านอาหารและเครื่องดื่ม นอกจากนี้ การลงทุนภาคเอกชนยังได้รับแรงสนับสนุนจากนโยบายของภาครัฐ อาทิ มาตรการทางภาษีที่ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับธุรกิจ การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลกรณีเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและนโยบายการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 57 มูลค่าสูงถึง 2.5 ล้านล้านบาท ทำให้ผู้ประกอบการมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น ทั้งนี้ สศค. คาดการณ์ (ณ ก.ย.56) ว่าการลงทุนภาคเอกชนที่แท้จริงใน 56 จะขยายตัวที่ร้อยละ 2.3 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 1.8 - 2.8

• ญี่ปุ่นมีความต้องการที่จะแข่งขันกับเกาหลีใต้ในการดึงนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เข้าประเทศให้มากขึ้น โดยเน้นการส่งออกวัฒนธรรม J-Pop& Animationและผ่อนปรนเงื่อนไขการตรวจลงตราเข้าประเทศ (Visa) นอกจากนี้ ค่าเงินเยนที่อ่อนลงมีส่วนผลักดันให้มีความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กรุงโซลรองรับนักท่องเที่ยวรายได้ปานกลางจากเอเซียมากกว่ากรุงโตเกียว และทั้งสองประเทศมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่สูงที่สุด โดย Japan National Tourism Organization (JNTO) ระบุว่า นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปเกาหลีใต้สูงขึ้น 2.4 เท่าในปี 2012 เมื่อเทียบกับปี 2008 ในขณะที่ญี่ปุ่น มีเพิ่มเพียงประมาณร้อยละ 35 สำหรับช่วงเวลาเดียวกัน โดยรัฐบาลญี่ปุ่นตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ให้เป็นสองล้านคนในปี 2016
• สศค. วิเคราะห์ว่า ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ มีลักษณะของจุดสนใจที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวคล้ายคลึงกัน เช่น อาหารท้องถิ่น เทศกาลซากุระบาน สกี และสินค้าสำหรับการจับจ่ายใช้สอยที่หลากหลาย โดยญี่ปุ่นมีความพยายามในการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้เดินทางเยือนญี่ปุ่นมากขึ้นนอกเหนือจากการผ่อนปรนวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ในเดือน ก.ค. แล้ว เมื่อประมาณปลายเดือน พ.ย. ที่ผ่านมาญี่ปุ่นได้เปิดตัวเทศกาล Japan Shopping Festival ครั้งที่ 1 ซึ่งจะจัดขึ้นในโตเกียว โอซาก้า และฟุกุโอกะ ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.56 ไปจนถึง 28 ก.พ. 57 โดยเชื่อว่าเทศกาลนี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้จับจ่ายใช้สอย และกระตุ้นผู้บริโภคภายในประเทศ ซึ่งในช่วง 10 เดือนแรกของปี 56 มีนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เดินทางเข้าญี่ปุ่นจำนวน 869,000 คน เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 55 ที่มีจำนวน 607,000 คนในขณะที่เกาหลีใต้ก็ประสบความสำเร็จในการดำเนินการใช้วัฒนธรรม K-Pop ผ่านเพลงและละครชุดเป็นเบื้องหลังในการสนับสนุนการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้เองมาเป็นระยะเวลาพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวในวัยรุ่นและวัยทำงาน การดำเนินนโยบายการตลาดเพื่อใช้วัฒนธรรม J-Pop และ Animation ของญี่ปุ่นในทำนองเดียวกับ K-Pop ของเกาหลีใต้ นอกเหนือจากการสนับสนุนให้มีเที่ยวบินราคาถูก จะมีส่วนสนับสนุนให้เกิดการแข่งขันที่สูงขึ้น โดยเฉพาะตลาดภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ที่ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงและมีความเป็นไปได้ที่จำนวนนักท่องเที่ยวจะได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้โดยรัฐบาลญี่ปุ่น

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257