Macro Morning Focus ประจำวันที่ 20 มีนาคม 2557
Summary:
1. กระทรวงการคลังเผยยอดจัดเก็บในช่วง 5เดือนแรกของปี 57 ได้ใกล้เคียงเป้า
2. ฮ่องกงลดระดับเตือนนักท่องเที่ยวมาไทย
3. นักวิเคราะห์คาด FED ปรับลดขนาด QE
Highlight:
1. กระทรวงการคลังเผยยอดจัดเก็บในช่วง 5เดือนแรกของปี 57 ได้ใกล้เคียงเป้า
- นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นหนุนรายได้รัฐบาลใกล้เคียงเป้า โดย 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557 (ต.ค.56-ก.พ.57) จัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิ 802,873 ล้านบาท ใกล้เคียงกับเป้าที่ตั้งไว้ ปัจจัยที่สนับสนุนให้ม ภาพรวมการจัดเก็บรายได้ของ รัฐบาลยังใกล้เคียงกับเป้า ได้แก่ การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นที่สูงกว่าประมาณการ 16,536 และ 11,695 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่การจัดเก็บรายได้ของ 3 กรมภาษีสังกัดกระทรวงการคลังจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 38,943 ล้านบาท
- สศค. วิเคราะห์ว่า การจัดเก็บรายได้ของ 3 กรมภาษีสังกัดกระทรวงการคลังที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการนั้น เนื่องมาจากการจัดเก็บภาษีจากฐานการค้าระหว่างประเทศ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าและอากรขาเข้าจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ นอกจากนี้ ภาษีจากฐานการอุปโภคบริโภคที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีน้ำมัน เนื่องจากการขยายระยะเวลาปรับลดภาษีน้ำมันดีเซลเพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพของ ประชาชน และภาษีสรรพสามิตรถยนต์ อย่างไรก็ดี ภาวะอุปสงค์ภายในประเทศที่ยังคงขยายตัวได้ ทำให้ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคภายในประเทศและภาษีธุรกิจเฉพาะยังจัดเก็บ ได้สูงกว่าเป้าหมาย นอกจากนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังที่คาดว่าจะดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของภาคการส่งออกตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และการท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลดีต่อการจัดเก็บรายได้ในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 2557
2. ฮ่องกงลดระดับเตือนนักท่องเที่ยวมาไทย
- สำนักงานความมั่นคงฮ่องกง ประกาศลดระดับการเตือนมาประเทศไทย จากระดับสีดำ (สูงสุด)ในเดือน ม.ค.57 คือ ห้ามเดินทาง ลงมา 2 ระดับมาอยู่ที่สีเหลือง คือ ให้ติดตามและตื่นตัวต่อเหตุการณ์ในไทย ฮ่องกงได้แบ่งระดับการเตือนภัยการเดินทางเป็น 3 ระดับ ได้แก่ สีเหลือง สีแดง และสีดำ ซึ่งสีดำหมายถึงมีภัยร้ายแรงและเตือนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่นั้นๆ
- สศค. วิเคราะห์ว่า สถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนพ.ย. 56 ทำให้ 50 ประเทศ (ณ 9 มี.ค. 57) ประกาศเตือนการเดินทางเข้าไทย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติในไทยประมาณร้อยละ 92 โดยข้อมูลนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยล่าสุดในช่วง 2 เดือนแรกของปี 57 มีจำนวนทั้งสิ้น 4.5 ล้านคน หดตัวร้อยละ-4.1 ต่อปี โดยเป็นนักท่องเที่ยวจากฮ่องกงจำนวน 37,875 คน หดตัวร้อยละ -50.8 ต่อปี (มีสัดส่วนร้อยละ 2.1 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด) ทั้งนี้ สศค. คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 57 ทั้งสิ้น 28.0 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 4.8 ต่อปี (จากกรณีฐานที่เดิมคาดไว้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 57 อยู่ที่ 31.1 ล้านคน คิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 16.5 ต่อปี)
3. นักวิเคราะห์คาด FED ปรับลดขนาด QE
- ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะประกาศลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรรายเดือนลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และจะคงระดับการลดวงเงินในโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในการประชุมทุกครั้ง และคาดว่าจะประกาศยุติการซื้อพันธบัตรทั้งหมดในการประชุมวันที่ 28-29 ต.ค. 57 นอกจากนี้ FOMC อาจจะยกเลิกการใช้เพดานอัตราว่างงานที่ร้อยละ 6.5 และเปลี่ยนมาใช้นโยบายการให้ข้อมูลเชิงคุณภาพเพื่อส่งสัญญาณให้กับทุกฝ่ายได้รับทราบ เมื่อธนาคารกลางสหรัฐต้องการที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- สศค. วิเคราะห์ว่า มติการปรับลดขนาดการซื้อสินทรัพย์ภายใต้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ในการประชุมเมื่อเดือน ธ.ค. 56 ที่ผ่านมา รวมจำนวน 20.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ของ FOMC มีเหตุผลสำคัญจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด GDP ในไตรมาสที่ 4 ปี 56 ขยายตัวร้อยละ 2.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเมื่อปรับผลทางฤดูกาลแล้ว (QoQ_SA) ขยายตัวร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 56 ขยายตัวร้อยละ 1.9 นอกจากนี้ อัตราการว่างงานล่าสุดในเดือน ม.ค. 57 อยู่ที่ร้อยละ 6.6 ของกำลังแรงงานรวม และยอดค้าปลีกในช่วง 2 เดือนแรกของปี 57 ขยายตัวร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับประเทศไทยก็ย่อมจะได้รับผลกระทบจากการปรับลดขนาด QE ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะตลาดการเงินของไทยที่มีความเชื่อมโยงกับตลาดการเงินโลกสะท้อนจากตลาดหลักทรัพย์ที่ผันผวนในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยยังคงมีเสถียรภาพภายนอกประเทศที่อยู่ในระดับมั่นคง ซึ่งจะสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้และช่วยลดผลกระทบทางลบได้ในระดับหนึ่ง สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือน ม.ค. 57 อยู่ในระดับสูงที่ 166.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นประมาณ 2.8 เท่า
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257