Macro Morning Focus ประจำวันที่ 14 พฤษภาคม 2557
Summary:
1. กระทรวงพาณิชย์เรียกห้างค้าปลีก-ห้างสรรพสินค้าพูดคุยเพื่อแก้ปัญหาราคาอาหารแพง
2. ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คงเป้า GDP ปี 57 ขยายตัวร้อยละ 1.8 ต่อปี
3. ปธน. จีน ระบุจีนต้องปรับตัว
1. กระทรวงพาณิชย์เรียกห้างค้าปลีก-ห้างสรรพสินค้าพูดคุยเพื่อแก้ปัญหาราคาอาหารแพง
- รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในวันที่ 16 พ.ค.นี้กรมการค้าภายในจะเชิญตัวแทนจากห้างค้าปลีก และห้างสรรพสินค้า ได้แก่ บิ๊กซีเทสโก้โลตัส แมคโคร เซ็นทรัล เดอะมอลล์ และตั้งฮั่วเส็งมาสอบถามถึงสถานการณ์ราคาอาหารปรุงสำเร็จ ในศูนย์อาหารของห้างและการตั้งราคาต่อเมนูว่าคำนวณจากปัจจัยใดบ้างเพื่อหาแนวทางในการดูแลราคาอาหารปรุงสำเร็จหลังจากกรมการค้าภายในได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผ่านสายด่วน 1569 ว่าราคาอาหารปรุงสำเร็จภายในศูนย์อาหารของห้างบางเมนูราคาเกินจานละ 50 บาท
- สศค. วิเคราะห์ว่าปัจจุบันการใช้ชีวิตของประชาชนได้เปลี่ยนแปลงจากการทำอาหารบริโภคภายในครัวเรือนมาเป็นการซื้ออาหารสำเร็จรูปรับประทาน สะท้อนจากสัดส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคในหมวดอาหารสำเร็จรูป (ราคาสินค้าสำเร็จรูป) คิดเป็นร้อยละ 14.4 ของดัชนีราคาผู้บริโภครวม ซึ่งในเดือน เม.ย. 57 ราคาสินค้าสำเร็จรูปปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาสินค้าในหมวดเนื้อสัตว์ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 11.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนั้น การที่ราคาสินค้าสำเร็จรูปปรับเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ค่าครองชีพของประชาชนเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามในภาพรวมดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปในเดือน เม.ย. 57 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนราคาสินค้าโดยรวมปรับเพิ่มขึ้นไม่มากนัก ทั้งนี้ สศค. คาดว่าในปี 57 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ร้อยละ 2.5 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.0 - 3.0)
2. ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คงเป้า GDP ปี 57 ขยายตัวร้อยละ 1.8 ต่อปี
- บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย บอกว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 57 ไว้ที่ระดับเดิมที่ 1.8% และการส่งออกจะขยายตัว 5% เนื่องจากสถานการณ์การเมืองยังคงมีความเสี่ยงสูง ทั้งนี้ หากสถานการณ์การเมืองสามารถยุติภายในสิ้นปี 57 คาดว่า ในปี 58 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 4%
- สศค. วิเคราะห์ว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังคงยืดเยื้ออยู่ในปัจจุบันได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและผู้ประกอบการผ่านการใช้จ่ายภาคเอกชนทั้งในด้านการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่ชะลอลง และภาคการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม (CCI) ในเดือนเม.ย. 57 อยู่ที่ระดับ 57.7 ซึ่งถือเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 150 เดือนนับตั้งแต่ต.ค. 44 ทั้งนี้ สศค. คาดว่า GDP ปี 57จะขยายตัวที่ร้อยละ 2.6 ต่อปี โดยคาดว่าการบริโภคภาคเอกชน ณ ราคาคงที่จะขยายตัวได้ร้อยละ 2.3 การลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 1.9 และปริมาณส่งออกสินค้าและบริการจะขยายตัวร้อยละ 4.4 (คาดการณ์ ณ มี.ค. 57)
3. ปธน. จีน ระบุจีนต้องปรับตัว
- ประธานาธิบดีจีน กล่าวว่า จีนยังมีโอกาสเชิงยุทธศาสตร์อีกมาก ที่ต้องเพิ่มความเชื่อมั่น ปรับตัวเข้ากับมาตรฐานแบบใหม่ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของรูปแบบในการขยายตัวของเศรษฐกิจที่อยู่ในรูปแบบต่างๆในปัจจุบันทั้งนี้ เศรษฐกิจจีนค่อยๆชะลอตัวลงนับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตการเงินเมื่อปี 51 โดยในปี 55 และ 56 เศรษฐกิจจีนขยายตัว 7.7% ซึ่งถือเป็นสถิติที่ขยายตัวช้าที่สุดนับตั้งแต่ปี 52 อย่างไรก็ดี จีนควรจะให้ความสำคัญกับการป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ และใช้มาตรการเพื่อลดผลกระทบด้านลบที่อาจจะเกิดขึ้น ผู้นำจีนกล่าว
- สศค. วิเคราะห์ว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) จีนในไตรมาสไตรมาส 1 ปี 57 (ตัวเลขเบื้องต้น) ขยายตัวร้อยละ 7.4 ต่อปีชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 7.7 ต่อปี เนื่องจากการบริโภค การลงทุน และการค้าระหว่างประเทศที่ชะลอลง ประกอบกับยอดค้าปลีกในเดือน มี.ค. 57 ขยายตัวชะลอลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ที่ร้อยละ 12.2 ต่อปีขณะที่ ราคาบ้าน เดือน มี.ค. 57 ขยายตัวชะลอลงเป็นเดือนที่ 4 ที่ร้อยละ 7.7 ต่อปี ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน มี.ค. 57 ขยายตัวชะลอลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ที่ร้อยละ 8.8 ต่อปี ทำให้รัฐบาลจีนให้ความสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ เพื่อให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจจีนในปี 57 จะขยายตัวที่ร้อยละ 7.3 ต่อปี (คาดการณ์ ณ มี.ค. 57)
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257