“การจัดเก็บรายได้รัฐบาลยังคงได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศและการค้าระหว่างประเทศ”
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเปิดเผยว่า “การจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557 (ตุลาคม 2556 – มิถุนายน 2557) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิทั้งสิ้น 1,552,633 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 110,242 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.6 เนื่องจากภาษีที่จัดเก็บจากฐานการค้าระหว่างประเทศ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าและอากรขาเข้าจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย ซึ่งเป็นผลจากการหดตัวของมูลค่าการนำเข้าที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงส่งผลให้ผลประกอบการของภาคเอกชนไม่ขยายตัวเท่าที่ประมาณการไว้ ทำให้การยื่นชำระภาษีจากผลประกอบการรอบปีบัญชี 2556 ต่ำกว่าประมาณการ นอกจากนั้น ภาษีที่จัดเก็บจากฐานการอุปโภคบริโภคโดยเฉพาะภาษีสรรพสามิตรถยนต์และภาษีน้ำมันจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย เนื่องจากอุปสงค์รถยนต์ในประเทศหดตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และการขยายระยะเวลาปรับลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซล อย่างไรก็ดี การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจและการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่นสูงกว่าประมาณการ”
ทั้งนี้ นายกฤษฎาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การจัดเก็บรายได้รัฐบาลยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และการขยายระยะเวลาลดอัตราภาษีน้ำมันเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ส่งผลให้การจัดเก็บรายได้รัฐบาลต่ำกว่าเป้าหมาย อย่างไรก็ดี จากแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศที่มีสัญญาณดีขึ้น ประกอบกับการดำเนินมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีของกรมจัดเก็บภาษี คาดว่าจะเป็นผลดีต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ”
ในเดือนมิถุนายน 2557 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 192,781 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 16,771 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.0 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 5.3) ส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1,552,633 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 110,242 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.6 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 4.2) รายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
1. เดือนมิถุนายน 2557 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 192,781 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 16,771 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.0 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 5.3) โดย 3 กรมจัดเก็บภาษีสังกัดกระทรวงการคลังจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการ 19,632 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.3 สำหรับภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 11,260 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.4เป็นผลจากมูลค่าการนำเข้าที่หดตัว ภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 6,526 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.7 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงส่งผลให้ผลประกอบการของภาคเอกชนไม่ขยายตัวเท่าที่ประมาณการไว้ สำหรับภาษีสรรพสามิตรถยนต์จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 5,665 ล้านบาท หรือร้อยละ 47.5 เนื่องจากอุปสงค์รถยนต์ในประเทศหดตัวมากกว่าที่ประมาณการไว้ นอกจากนั้น ภาษีน้ำมัน อากรขาเข้า และภาษียาสูบ จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 2,595 2,381 และ 1,164 ล้านบาท หรือร้อยละ 35.3 22.1 และ 17.6 ตามลำดับ ตามอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอตัวและมูลค่าการนำเข้าที่หดตัว
อย่างไรก็ดี ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 13,070 ล้านบาท หรือร้อยละ 556.2 เนื่องจากกำหนดวันสุดท้ายของการชำระภาษีเป็นวันหยุดราชการ ทำให้มีภาษีบางส่วนเหลื่อมมาจากเดือนก่อน
2. ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557 (ตุลาคม 2556 – มิถุนายน 2557) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1,552,633 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 110,242 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.6 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 4.2) ทั้งนี้ การจัดเก็บรายได้ของ 3 กรมจัดเก็บภาษีสังกัดกระทรวงการคลังต่ำกว่าประมาณการ 162,356 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.1 อย่างไรก็ดี การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจและการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่นสูงกว่าประมาณการ 26,021 และ 14,514 ล้านบาท หรือร้อยละ 27.8 และ 17.3 ตามลำดับ
ผลการจัดเก็บรายได้ตามหน่วยงานจัดเก็บสรุปได้ ดังนี้
2.1 กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวม 1,250,037 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 93,548 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.0 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 2.2) โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่
- ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 42,655 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.4 (แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 1.2) เป็นผลจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการนำเข้าจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 42,787 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.5 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 4.6) เนื่องจากมูลค่าการนำเข้าต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการบริโภคในประเทศจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 132 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.04 และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 6.3 สะท้อนการบริโภคในประเทศที่ยังคงขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แม้จะเริ่มมีสัญญาณของการชะลอตัวลง
- ภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 37,880 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.5 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 2.4) เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงส่งผลให้ผลประกอบการของภาคเอกชนไม่ขยายตัวเท่าที่ประมาณการไว้ ทำให้การยื่นชำระภาษีจากกำไรสุทธิของผลประกอบการรอบปีบัญชี 2556 (ภ.ง.ด. 50) ต่ำกว่าประมาณการ
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 8,807 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.9 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 6.5)
- ภาษีธุรกิจเฉพาะจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 2,318 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.3 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 7.6) เป็นผลจากธุรกรรมภาคการเงินและภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงขยายตัวดี
2.2 กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 296,590 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 50,404 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.5 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 11.8) โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่
- ภาษีสรรพสามิตรถยนต์จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 28,773 ล้านบาท หรือร้อยละ 28.0 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 40.3) สาเหตุมาจากอุปสงค์รถยนต์ในประเทศที่หดตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับมีการส่งมอบรถยนต์โครงการรถยนต์คันแรกเกือบครบทั้งโครงการแล้วในปีงบประมาณก่อนหน้า
- ภาษีน้ำมันจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 22,394 ล้านบาท หรือร้อยละ 32.6 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 2.5) เป็นผลจากการขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลเพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชน และการเปลี่ยนไปใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ซึ่งมีอัตราภาษีต่ำและก๊าซ NGV ซึ่งไม่เสียภาษี ทดแทนการใช้น้ำมันเบนซิน
- ภาษียาสูบจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 6,820 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.7 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 5.2) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากผู้บริโภคหันมาบริโภคบุหรี่ที่มีราคาถูกลง
อย่างไรก็ดี ภาษีเบียร์และภาษีสุราจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 5,847 และ 3,580 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.6 และ 7.7 ตามลำดับ (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 11.6 และ 24.3 ตามลำดับ) เป็นผลจากการปรับโครงสร้างภาษีสุราเมื่อเดือนกันยายน 2556
2.3 กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 79,496 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 18,404 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.8 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 6.4) สาเหตุสำคัญมาจากอากรขาเข้าที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 18,284 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.0 ตามมูลค่าการนำเข้าที่หดตัว โดยมูลค่าการนำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินบาทในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557 (ตุลาคม 2556 – พฤษภาคม 2557) หดตัวร้อยละ 11.7 และร้อยละ 6.0 ตามลำดับ ทั้งนี้ สินค้าที่จัดเก็บอากรขาเข้าได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ยานบกและส่วนประกอบ เครื่องจักรและเครื่องใช้กล เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ประกอบ ของทำด้วยเหล็กหรือเหล็กกล้า และพลาสติก
2.4 รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้รวม 119,457 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 26,021 ล้านบาท หรือร้อยละ 27.8 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 39.3) โดยรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้/เงินปันผล สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง และ บมจ. ท่าอากาศยานไทย
2.5 หน่วยงานอื่น จัดเก็บรายได้รวม 103,344 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 15,217 ล้านบาท หรือร้อยละ 17.3 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 19.0) สาเหตุสำคัญมาจากการส่งคืนรายได้ที่กันไว้เพื่อชดเชยให้แก่ผู้ส่งออกสินค้าจำนวน 5,929 ล้านบาท และรายได้จากสัมปทานปิโตรเลียมที่สูงกว่าประมาณการ จำนวน 3,010 ล้านบาท
สำหรับกรมธนารักษ์จัดเก็บรายได้รวม 4,955 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายจำนวน 703 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.5 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 5.2) เนื่องจากการจัดเก็บรายได้จากที่ราชพัสดุที่สูงกว่าเป้าหมาย
2.6 การคืนภาษีของกรมสรรพากร จำนวน 223,048 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 7,642 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.3 ประกอบด้วยการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 168,879 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 14,061 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.7 และการคืนภาษีอื่นๆ (ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์) จำนวน 54,169 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 6,419 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.4
2.7 เงินกันชดเชยภาษีสำหรับสินค้าส่งออก จำนวน 11,856 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 1,798 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.2
2.8 การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน 11,554 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 1,449 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.1
- การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจฯ จำนวน 6 งวด เป็นเงิน 49,833 ล้านบาท
สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร. 02 273 9020 ต่อ 3569
--กระทรวงการคลัง--