ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2557 มีจำนวน 5,662,574.29 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 46.85 ของ GDP โดยเป็นหนี้ของรัฐบาล 3,924,568.40 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,099,740.05 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 620,440.09 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 17,825.75 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นสุทธิ 7,153.34 ล้านบาท โดยหนี้ของรัฐบาลลดลง 8,665.90 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน เพิ่มขึ้น 2,066.79 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) ลดลง 421.13 ล้านบาทและหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐเพิ่มขึ้น 14,173.58 ล้านบาท ส่วนหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ นั้นไม่มีหนี้คงค้าง ทั้งนี้ รายละเอียดและสัดส่วนของหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2557 ปรากฏตามแผนภาพที่ 1 และตารางที่ 1 ตามลำดับ
1.1 หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้นสุทธิ 17,167.61 ล้านบาท เนื่องจาก
1.1.1 หนี้ต่างประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 216.95 ล้านบาท โดยผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลง 682.77 ล้านบาท ในขณะที่การเบิกจ่ายและชำระคืนเงินกู้สกุลเงินต่างๆ ทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้นสุทธิ 899.72 ล้านบาท ดังรายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 2
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาในรูปเงินบาท หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงจำแนกเป็นสกุลเงินต่างๆ หลังจากที่ทำการป้องกัน ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนแล้วมีรายละเอียดปรากฏตามแผนภาพที่ 2
1.1.2 หนี้ในประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 16,950.66 ล้านบาท โดยมีรายการสำคัญเกิดจาก
- การกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ โดยการออกพันธบัตรออมทรัพย์ 31,276.67 ล้านบาท และพันธบัตรรัฐบาล 5,000 ล้านบาท
- การเบิกจ่ายเงินกู้ 350 ล้านบาท จากสัญญาเงินกู้วงเงิน 15,393 ล้านบาท ที่ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2556 ภายใต้ พ.ร.ก. บริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศฯ
- การเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อให้การรถไฟแห่งประเทศไทยกู้ต่อ จำนวน 323.99 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการรถไฟสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) 68.17 ล้านบาท และเพื่อจัดทำโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย 8 สายทาง 255.82 ล้านบาท
- การชำระคืนหนี้ภายใต้ พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 จำนวน 9,000 ล้านบาท
- การชำระคืนหนี้ภายใต้ พ.ร.ก. ไทยเข้มแข็งที่ครบกำหนด จำนวน 11,000 ล้านบาท
1.2 หนี้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดเชยความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 33.51 ล้านบาท เกิดจากการชำระหนี้ภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่สองฯ (FIDF 3) โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ 1 ที่ได้รับจากการโอนสินทรัพย์คงเหลือในบัญชีผลประโยชน์ประจำปี
1.3 หนี้เงินกู้ล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 25,800 ล้านบาท เนื่องจากหนี้เงินกู้ดังกล่าว เป็นหนี้ที่กู้ล่วงหน้ามาเพื่อใช้ในการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรออมทรัพย์ภายใต้ พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะฯ ที่จะครบกำหนดในวันที่ 13 กรกฎาคม 2557 จำนวน 30,000 ล้านบาท ดังนั้น จึงได้มีการนำเงินกู้ล่วงหน้าเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ 25,800 ล้านบาท และเงินกู้อีกจำนวน 4,200 ล้านบาท ไปชำระคืนหนี้เงินกู้ภายใต้ พ.ร.บ. ข้างต้นที่ครบกำหนดในวันดังกล่าว
2.1 หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน
2.1.1 หนี้ต่างประเทศ ลดลงจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 2,426.07 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลง 1,605.67 ล้านบาท ประกอบกับการเบิกจ่ายและชำระคืนหนี้สกุลเงินต่างๆ ทำให้ยอดหนี้คงค้างในสกุลเงินบาทลดลง 820.40 ล้านบาท ดังรายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 3
2.1.2 หนี้ในประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้น จำนวน 3,027.40 ล้านบาท เนื่องจาก
- องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพออกพันธบัตร 3,000 ล้านบาท
- การรถไฟแห่งประเทศไทยออกพันธบัตร 2,000 ล้านบาท และไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด 1,000 ล้านบาท
- การเคหะแห่งชาติและการทางพิเศษแห่งประเทศไทยไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด 1,000 ล้านบาท และ 1,500 ล้านบาท ตามลำดับ
- รัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ มากกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ จำนวน 1,527.40 ล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายเงินกู้ 8,200 ล้านบาท และชำระคืนต้นเงินกู้ 6,672.60 ล้านบาท
2.2 หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน
2.2.1 หนี้ต่างประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 657.31 ล้านบาท การเพิ่มขึ้นที่สำคัญเกิดจากการชำระคืนหนี้สกุลเงินต่างๆ ดังรายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 4
2.2.2 หนี้ในประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 808.15 ล้านบาท เนื่องจาก
- การไฟฟ้านครหลวงไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด 1,300 ล้านบาท
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคชำระต้นเงินกู้ 125 ล้านบาท
- รัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ มากกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ จำนวน 2,233.15 ล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายเงินกู้ 6,188.50 ล้านบาท และชำระคืนต้นเงินกู้ 3,955.35 ล้านบาท
3.1 หนี้ต่างประเทศ
หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) ลดลงจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 90.03 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลง 13.68 ล้านบาท ประกอบกับการชำระคืนหนี้สกุลเงินต่างๆ ทำให้ยอดหนี้คงค้างในสกุลเงินบาทลดลง 76.34 ล้านบาท ดังรายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 5
3.2 หนี้ในประเทศ
หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง 331.10 ล้านบาท เนื่องจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรชำระคืนต้นเงินตามสัญญาเงินกู้
ทั้งนี้ หากพิจารณาในรูปเงินบาท หนี้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) หลังทำการป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน จำแนกเป็นสกุลเงินต่างๆ มีรายละเอียดปรากฏตามแผนภาพที่ 3
หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้น จำนวน 14,173.58 ล้านบาท เนื่องจากกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ มากกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ โดยเป็นการเบิกจ่ายเงินกู้ 15,079.62 ล้านบาท และชำระคืนต้นเงินกู้ 906.04 ล้านบาท
หนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2557 มีจำนวน 5,662,574.29 ล้านบาท ซึ่งหากแบ่งประเภทหนี้สาธารณะคงค้างเป็นหนี้ต่างประเทศ-หนี้ในประเทศ และหนี้ระยะยาว-หนี้ระยะสั้น มีรายละเอียด ดังนี้
หนี้ต่างประเทศและหนี้ในประเทศ หนี้สาธารณะคงค้าง จำนวน 5,662,574.29 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 380,430.31 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.72 และหนี้ในประเทศ 5,282,143.98 ล้านบาท หรือร้อยละ 93.28 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง รายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 6 หนี้ระยะยาวและหนี้ระยะสั้น แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- หนี้ระยะยาวและหนี้ระยะสั้น (แบ่งตามอายุของเครื่องมือการกู้เงิน) หนี้สาธารณะคงค้าง จำนวน 5,662,574.29 ล้านบาท แบ่งออกเป็น หนี้ระยะยาว 5,513,375.83 ล้านบาท หรือร้อยละ 97.37 และหนี้ระยะสั้น 149,198.46 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.63 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง รายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 7
- หนี้ระยะยาวและหนี้ระยะสั้น (แบ่งตามอายุคงเหลือ) หนี้สาธารณะคงค้าง จำนวน 5,662,574.29 ล้านบาท แบ่งออกเป็น หนี้ระยะยาว 4,740,368.62 ล้านบาท หรือร้อยละ 83.71 และหนี้ระยะสั้น 922,205.67 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.29 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง รายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 8
ส่วนวิจัยนโยบายหนี้สาธารณะ สำนักนโยบายและแผน
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โทร. 0 2265 8050 ต่อ 5512,5522
--กระทรวงการคลัง--