รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 23 กันยายน 2557

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 23 กันยายน 2557

1. สทท.คาดจำนวนนักท่องเที่ยวปี 57 เหลือ 25.25 ล้านคน

2. ประจินขอบีเอ็มซีแอลตรึงค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินถึงสิ้นปี

3. ภาคอสังหาริมทรัพย์จีนชะลอตัวลงต่อเนื่อง

• สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ปรับลดเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 57 ลงเหลือ 25.25 ล้านคน จากเดิมที่คาดไว้ที่ 28 ล้านคน ซึ่งลดลงร้อยละ 4.9 จากปี 56 นอกจากนี้ ยังมีการปรับลดรายได้จากนักท่องเที่ยวเหลือ 1.9 ล้านล้านบาท จากเดิมที่คาดไว้ 2 ล้านล้านบาท
• สศค. วิเคราะห์ว่า จากสถานการณ์การเมืองภายในประเทศในช่วงครึ่งปีแรก ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ เป็นปัจจัยหลักที่มีความอ่อนไหวโดยตรงต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศลดลง โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 57 มีจำนวนนักท่องเที่ยวจำนวนทั้งสิ้น 15.7 ล้านคน หรือคิดเป็นการหดตัวร้อยละ -10.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และข้อมูลล่าสุด 21 วันแรก จากด่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 58 ของด่านทั้งหมด ยังคงหดตัวลงร้อยละ -19.6 ต่อปี ด้วยจำนวนทั้งสิ้น 6.90 แสนคน ทำให้ สศค.มองไม่ต่างจาก สทท. อย่างไรก็ดี สศค.จะมีการปรับประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวอีกครั้งในเดือน ต.ค. 57 จากที่เคยคาดการณ์ไว้เดิมที่ 25.7 ล้านคนในเดือน ก.ค. 57

• พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ค่าโดยสารของรถไฟฟ้าใต้ดินที่ตรึงราคามาในอัตรา 16-40 บาท ซึ่งจะครบกำหนดในสิ้นเดือน ก.ย. จะมีการหารือกันวันที่ 27 ก.ย.นี้ ในเบื้องต้น กระทรวงคมนาคมต้องการให้ยืดเวลาการปรับขึ้นราคาออกไปให้นานที่สุด หรืออย่างน้อยภายในสิ้นปี 57 หากไม่สามารถยืดเวลาการขึ้นค่าโดยสารได้ ก็ต้องปรับขึ้นน้อยที่สุดเพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชน ส่วนกรณีผู้ประกอบการรถแท็กซี่ขอปรับค่าโดยสารนั้น จะมีการเชิญผู้ประกอบการมาหารือร่วมกันหลังวันที่ 27 ก.ย. นี้ โดยจะเชิญตัวแทนจากกระทรวงพลังงาน และ บมจ.ปตท.มาหารือร่วมกันด้วย
• สศค. วิเคราะห์ว่า หากสามารถปรับค่าโดยสารรถสาธารณะทางบกทั้งระบบได้จะเป็นผลดีต่อแรงกดดันด้านอัตราเงินเฟ้อให้ลดน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากยังคงมีการตรึง ค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินในอัตรา 16-40 บาท ต่อไปจนถึงสิ้นปี ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วง 8 เดือนแรกของปี 57 อยู่ที่ร้อยละ 2.2 ซึ่งจัดว่ายังอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพดี เป็นผลมาจากนโยบายการตรึงราคาสินค้าเพื่อบรรเทาค่าครองชีพต่างๆ อย่างไรก็ตาม สศค. ได้คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 57 ที่ร้อยละ 2.4 (คาดการณ์ ณ เดือน ก.ค. 57) ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ความอ่อนไหว (sensitivity analysis) พบว่า หากมีการขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้า ใต้ดิน 1 บาทต่อระยะ จะกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อทั่วไปให้เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.0003 ต่อปี

• สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน รายงานว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนส่งสัญญาณชะลอตัวลงอีก เนื่องจากเมืองต่าง ๆ รายงานว่า ราคาบ้านที่ปรับตัวลดลงในเดือน ส.ค. 57 มีจำนวนมากขึ้น โดยในบรรดาเมืองใหญ่ๆ 68 เมืองจาก 70 เมือง ราคาบ้านลดลงจากเดือนก่อนหน้า เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับจำนวน 64 เมืองในเดือน ก.ค. 57 ส่วนบ้านมือสองนั้น ก็มีทิศทางราคาที่ปรับตัวลดเช่นกัน โดยมีรายงานว่าราคาบ้านลดลงในเดือน ส.ค. 57 มีจำนวน 67 เมือง ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 65 เมืองในเดือน ก.ค. 57 โดยราคาบ้านมือสองในเมืองกวางโจว ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจทางตอนใต้ของจีนนั้น ลดลงมากที่สุดถึงร้อยละ 1.4
• สศค. วิเคราะห์ว่า การชะลอตัวลงของราคาบ้านในภาคอสังหาริมทรัพย์มีทิศทางชัดเจน โดยในเดือน ส.ค. 57 ราคาบ้านขยายตัวร้อยละ 0.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวชะลอลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 และต่ำสุดในรอบ 20 เดือน ส่วนหนึ่งเป็นผลจาก การดำเนินนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจ เพื่อปรับสมดุลของระบบเศรษฐกิจจีนในปี 57 ให้มีความร้อนแรงลดลงจากปี 56 ที่มีการขยายตัวที่ร้อยละ 7.7 ซึ่งจากมาตรการดังกล่าวส่งผลให้การขยายตัวของจีนล่าสุด 6 เดือนอยู่ที่ร้อยละ 7.4 นอกจากนี้ ภาวะการชะลอตัวดังกล่าวได้ส่งผลให้ความต้องการนำเข้าของจีนหดตัวในอัตราเร่งที่ร้อยละ -2.1 ในเดือน ส.ค. 57 โดย สศค. คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวที่ร้อยละ 7.3 ในปี 57 ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ดังกล่าวต่อไป

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257