รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 15 ตุลาคม 2557

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 15, 2014 10:30 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 15 ตุลาคม 2557

Summary:

1. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.ย. 57 ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 115 เดือน

2. ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ mai คาดมูลค่าการซื้อขายปีนี้เพิ่มขึ้นเป็นสามพันล้านบาทต่อวัน

3. เศรษฐกิจสิงคโปร์ในไตรมาสที่ 3 ของปี 57 ขยายตัวร้อยละ 2.4 ต่อปี

1. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.ย. 57 ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 115 เดือน
  • กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย ผลการสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคทุกจังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 3,167 ราย เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ รายได้และโอกาสหางานทำ ในปัจจุบันและในอีก 3 เดือนข้างหน้า พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนก.ย. 57 มีค่า 45.8 ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีค่า 44.0 ซึ่งนับเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และสูงสุดในรอบ 115 เดือน และดัชนีความเชื่อมั่นฯ ที่มีต่อสถานการณ์ในอนาคต (3 เดือนข้างหน้า) มีค่า 49.2
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ผลการสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ก.ย. 57 ที่เพิ่มขึ้นเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 115 เดือน สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่ที่สถานการณ์การเมืองไทยมีเสถียรภาพและมีความชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าค่าดัชนีทุกรายการจะมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงต่ำกว่าที่ระดับ 50 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนยังไม่มีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจ เนื่องจากมีความกังวลต่อปัญหาค่าครองชีพ การชะลอตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย ตัวเลขการว่างงานปรับเพิ่มขึ้น อีกทั้งภาคการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำและภาคการส่งออกได้รับผลกระทบจากการที่ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทำให้ผู้บริโภคยังคงมีการใช้จ่ายที่อย่างระมัดระวัง สะท้อนให้เห็นว่า การบริโภคภาคเอกชนยังคงมีสัญญาณแผ่ว หรือ ไม่ฟื้นตัว ทั้งนี้ สศค. คาดการณ์ ณ เดือน ก.ค. 57 ว่า บริโภคภาคเอกชนในปี 57 จะขยายตัวในช่วงคาดการณ์ร้อยละ (-0.2) - 0.8 ต่อปี
2. ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ mai คาดมูลค่าการซื้อขายปีนี้เพิ่มขึ้นเป็นสามพันล้านบาทต่อวัน
  • ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ mai เปิดเผยว่า ปัจจุบันการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai คึกคักกว่าในอดีตมาก โดยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 2.7-2.8 พันล้านบาท/วัน และทั้งปี คาดว่าจะสูงขึ้นเป็น 3 พันล้านบาท/วัน จากปีก่อนที่มีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ราว 2.4 พันล้านบาท/วัน ทั้ง นี้ ตลาด mai มองว่าเป็นผลมาจากการร่วมมือกับบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ ในการทำบทวิเคราะห์บริษัทจดทะเบียนในตลาด mai ออกมานำเสนอต่อนักลงทุนมากขึ้น นอกจากนี้ หลายบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ mai ยังมีการเปลี่ยนแปลงธุรกิจทำให้พื้นฐานของบริษัทนั้นๆมีความน่าสนใจมากขึ้นด้วย
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai เป็นหนึ่งทางเลือกในการระดมของธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ mai มีบริษัทเข้าจดทะเบียนทั้งสิ้น 105 บริษัทจดทะเบียน เพิ่มขึ้น 5 บริษัท หรือคิดเป็นร้อยละ 10.5 จากปีก่อน ซึ่งกระจายอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรม 9 อุตสาหกรรม ได้แก่ สินค้าอุตสาหกรรม 29 บริษัทจดทะเบียน บริการ 27 บริษัทจดทะเบียน และอสังหาริมทรัพยฺและก่อสร้าง 13 บริษัทจดทะเบียน โดยในปี 57 ตลาดหลักทรัพย์ mai มูลค่าการซื้อขายหมุนเวียนเท่ากับ 569,608.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 จากปีก่อน หรือคิดเป็นร้อยละ 7.5 ของมูลค่าการซื้อขายหมุนเวียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้ มูลค่าการซื้อขายหมุนเวียนของตลาดหลักทรัพย์ mai ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากมูลค่าการซื้อขายหมุนเวียนเฉลี่ยต่อวัน และจำนวนรายการเฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มขึ้น โดยในปี 57 มูลค่าการซื้อขายหมุนเวียนเฉลี่ยต่อวันเท่ากับ 2,966.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.3 จากปีก่อน และจำนวนรายการเฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มขึ้นร้อยละ36.0 จากปีก่อน นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ mai อยู่ระหว่างการพิจารณาคำขอเข้าจดทะเบียนจำนวน 11 บริษัทเข้าจดทะเบียน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ mai ในอนาคต
3. เศรษฐกิจสิงคโปร์ในไตรมาสที่ 3 ของปี 57 ขยายตัวร้อยละ 2.4 ต่อปี
  • กระทรวงการค้าและอุตสหกรรมของสิงคโปร์เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3/57 ของสิงคโปร์ ขยายตัวที่ร้อยละ 2.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการขยายตัวในระดับเดียวกันกับไตรมาสก่อนหน้า หากเทียบเป็นรายไตรมาส จีดีพีไตรมาสที่ 3 ของสิงคโปร์ ขยายตัวที่ร้อยละ 1.2 ซึ่งฟื้นตัวขึ้นหลังจากหดตัวลงที่ร้อยละ 0.1 ในไตรมาสที่ 2 /57
  • สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์ในไตรมาสที่ 3/57 ขยายตัวที่ร้อยละ 2.4 ต่อปี ซึ่งการขยายตัวดังกล่าวเป็นผลมาจากอุตสาหกรรมการผลิตที่ขยายตัวร้อยละ 1.4 ต่อปีที่มีแรงหนุนจากการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกและผลิตภัณฑ์ชีวการแพทย์ ประกอบกับอุตสาหกรรมด้านบริการที่ยังคงขยายตัวที่ร้อยละ 2.9 ต่อปี ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวที่ร้อยละ 2.8 ต่อปี เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการบริการด้านธุรกิจการเงินและประกัน ขณะที่ กิจกรรมการก่อสร้างภาคเอกชนที่ปรับตัวลดลงโดยขยายตัวร้อยละ 1.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 4.1 ทั้งนี้ สศค. คาดว่า ในปี 57 เศรษฐกิจสิงคโปร์ จะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 3.8 ต่อปี (คาดการณ์ ณ ก.ค. 57) และจะปรับประมาณการณ์อีกครั้งในวันที่ 30 ต.ค. 57

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ