Macro Morning Focus ประจำวันที่ 28 ตุลาคม 2557
Summary:
1. TMB คาดปีนี้ GDP โตร้อยละ 1.5 หลังส่งออกติดลบ ส่วนปีหน้าคาดโตร้อยละ 4
2. เครื่องนุ่งห่มบุกอาเซียนส่อแววสดใส
3. จีนหวั่นเศรษฐกิจจีนไตรมาส 4 อาจชะลอตัวแตะร้อยละ 7.2
1. TMB คาดปีนี้ GDP โตร้อยละ 1.5 หลังส่งออกติดลบ ส่วนปีหน้าคาดโตร้อยละ 4
- นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย (TMB) กล่าวว่า ภาพรวมการส่งออกของไทยในปีนี้คาดว่าจะติดลบร้อยละ 0.5 ซึ่งเป็นผลมาจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำทั้งข้าว, น้ำตาล และยางพารา เนื่องจากจากราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกปรับตัวลดลง เพราะเศรษฐกิจโลกยังไม่ดีขึ้น ส่งผลให้อุปทานมีมากกว่าอุปสงค์ จึงทำให้ราคาสินค้าเกษตรลดต่ำลง ขณะที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปีนี้ มีโอกาสขยายตัวได้เพียงร้อยละ 1.5 จากเป้าหมายเดิมที่ร้อยละ 2 โดยสาเหตุหลักที่ GPD ปีนี้ค่อนข้างต่ำ เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวล่าช้า ภาคการส่งออก การลงทุน และการบริโภคตกต่ำ ขณะที่ปีหน้าประเมิน GDP จะขยายตัวได้ราวร้อยละ 4 โดยมีแรงขับเคลื่อนมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในการลงทุน
- สศค. วิเคราะห์ว่า ภาคการส่งออกของไทยยังคงอ่อนแอ โดย สศค. คาดการส่งออกปี 57 ณ เดือน ก.ค. ว่าจะเติบโตได้ร้อยละ 1.5 อย่างไรก็ตาม มูลค่าการส่งออกในช่วง 9 เดือนแรกของปี 57 หดตัวที่ร้อยละ -0.8 หากยังคงเป้าการส่งออกเดิม ในช่วง 3 เดือนที่เหลือ มูลค่าการส่งออกเฉลี่ยต้องมีมูลค่าถึง 20.4 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ต่อเดือน ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงเพราะค่าเฉลี่ยมูลค่าส่งออกต่อเดือนในช่วงปี 55 -56 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 18.9 - 19.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ต่อเดือนเท่านั้น ซึ่งในสิ้นเดือน ต.ค. นี้ สศค. จะทำการปรับประมาณการ GDP ปี 57 และ ปี 58 อีกครั้ง รวมถึงการคาดการณ์การส่งออกด้วย ซึ่งคาดว่าจะต้องปรับลดการเติบโตของการส่งออกลง จากข้อมูลการส่งออก 9 เดือนแรกที่ยังคงหดตัวอยู่ โดยปัจจัยเสี่ยงต่อการส่งออก ได้แก่ ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากต้นปี 57 ราคาสินค้าส่งออกที่มีทิศทางลดลงต่อเนื่องจากราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก รวมถึงราคาทองคำ และปิโตรเลียม อีกทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงไม่แน่นอนซึ่งส่งผลต่อการชะลอคำสั่งสินค้า ทั้งนี้การปรับลดคาดการณ์การส่งออกลงอาจส่งผลทำให้ GDP ทั้งปี 57 ลดลงได้ เพราะภาคการส่งออกของไทยคิดเป็นสัดส่วนมากถึงร้อยละ 74.0 ของ GDP
2. เครื่องนุ่งห่มบุกอาเซียนส่อแววสดใส
- นายวัลลภ วิตนากร ที่ปรึกษาสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย เปิดเผยว่า การขยายตลาดสินค้าเครื่องนุ่งห่มของไทยไปยังตลาดอาเซียน ปัจจุบันมีช่องทางการจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการที่มีห้างสรรพสินค้าเข้าไปขยายสาขา รวมถึงตั้งห้างสรรพสินค้าใหม่ ทั้งของไทยและต่างชาติในประเทศอาเซียนมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว เวียดนาม และพม่า ซึ่งจะทำให้ความต้องการสินค้าไทยมีเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นโอกาสที่จะมีการนำสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สินค้าเครื่องนุ่งห่มเป็นปัจจัยแรกของการค้าขาย
- สศค. วิเคราะห์ว่า เครื่องนุ่งห่มนับเป็นอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทยทั้งด้านการจ้างงานและด้านการส่งออก โดยมีสัดส่วนการผลิตร้อยละ 7.3 ของดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมรวม นอกจากนี้ ยังเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่อยู่ในแผนแม่บทการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย พ.ศ. 2555-2574 ของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมอีกด้วย ทั้งนี้ หากพิจารณาด้านการจ้างงานพบว่า อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มมีการจ้างงานในระดับบที่สูงเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่มีการใช้แรงงานเข้มข้น อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นอัตราค่าจ้างแรงงานเป็น 300 บาททั่วประเทศได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มด้านต้นทุนการผลิตมากพอสมควร ทำให้เกิดการย้ายฐานผลิตไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านที่มีค่าแรงต่ำกว่าไทย หากพิจารณด้านการส่งออกพบว่า เครื่องนุ่งห่มสร้างรายได้จากมูลค่าการส่งออกสูงถึง 2,873.51 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 56 ซึ่งล่าสุดในช่วง 8 เดือนแรกของปี 57 มีมูลค่าการส่งออก 1,951.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 0.86 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมนี เบลเยี่ยม ฝรั่งเศส เป็นต้น ทั้งนี้ หากมีการขยายตลาดสินค้าไปยังประเทศอาเซียนเพิ่มขึ้นก็จะเป็นปัจจัยบวกต่ออุตสาหกรรมเครื่องนุ่มห่มไทย
3. จีนหวั่นเศรษฐกิจจีนไตรมาส 4 อาจชะลอตัวแตะร้อยละ 7.2
- นายซง กัวฉิง สมาชิกคณะกรรมาธิการที่ปรึกษานโยบายการเงินของธนาคารกลางจีน ได้คาดการณ์ถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน ในระหว่างการประชุมที่กรุงปักกิ่งเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การเติบโตของเศรษฐกิจจีน ในไตรมาสนี้จะชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้ามาแตะที่ร้อยละ 7.2 เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศซบเซาลง อีกทั้งคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนในปีหน้าจะขยายตัวร้อยละ 7.3 ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ของฟ่าน เจียนปิง หัวหน้า นักเศรษฐศาสตร์ที่ศูนย์สารสนเทศแห่งรัฐ ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมาธิการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน ที่คาดว่าในปี 58 เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวร้อยละ 7 เว้นแต่รัฐบาลกลางจะประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาด
- สศค. วิเคราะห์ว่า จาก GDP ไตรมาสที่ 3 ปี 57 ซึ่งขยายตัวร้อยละ 7.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศ (คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 53.0 และร้อยละ 35.7 ของ GDP ตามลำดับ) ที่มีการขยายตัวชะลอลงต่อเนื่อง อีกทั้งราคาบ้าน เดือน ก.ย. 57 หดตัวร้อยละ -1.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อนและหดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าเป็นเดือนที่ 5 ที่ร้อยละ -1.0 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากนโยบายปล่อยสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์จีนที่รัดกุมขึ้น และยอดขายที่ลดลง ทำให้ช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 57 เศรษฐกิจจีนขยายตัวร้อยละ 7.4 และคาดว่าผลของการชะลอตัวที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อเนื่องต่อการขยายตัวในไตรมาสที่ 4 นอกจากนี้ หากไตรมาสที่ 4 ปี 57 เศรษฐกิจจีนขยายตัวร้อยละ 7.2 จะทำให้เศรษฐกิจจีนทั้งปีขยายตัวที่ร้อยละ 7.3 สอดคล้องกับการประมาณการของ สศค. (ประมาณการ ณ เดือน ก.ค. 57) อย่างไรก็ดี ทางการจีนก็ได้เริ่มออกมาตรการโดยเน้นไปที่การเสริมสภาพคล่องในภาคการเงินและการประคับประคองภาคอสังหาริมทรัพย์เพิ่อช่วยกระตุ้นเสรษฐกิจขนาดย่อม ซึ่งอาจต้องติดตามสถานการณ์ดังกล่าวต่อไป
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257