Macro Morning Focus ประจำวันที่ 26 พฤศจิกายน 2557
Summary:
1. โตโยต้า เผยยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือน ต.ค. 57 ลดลงร้อยละ -20.4
2. ธุรกิจตั้งใหม่เดือนต.ค. 57 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
3. GDP สิงคโปร์ (Final) ไตรมาสที่ 3 ปี 57 ขยายตัวร้อยละ 2.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
1. โตโยต้า เผยยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือน ต.ค. 57 ลดลงร้อยละ -20.4
- นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เผยยอดการขายรถยนต์เดือน ต.ค.57 มีปริมาณทั้งสิ้น 70,850 คัน ลดลงร้อยละ -20.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูงและรายได้เกษตรกรที่หดตัว ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง รวมถึงการปรับตัวของตลาดรถยนต์หลังสิ้นสุดโครงการรถยนต์คันแรก ส่วนตลาดรถยนต์สะสม 10 เดือน มีปริมาณการขาย 719,260 คัน ลดลงร้อยละ -36.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน อัตราการเติบโตของยอดขายสะสมยังคงชะลอตัวต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในช่วงต้นปี
- สศค. วิเคราะห์ว่า 1) ปริมาณจำหน่ายรถยนต์ในประเทศลดลง เนื่องจากผลของนโยบายรถคันแรกยังคงมีอยู่และรายได้เกษตรกรที่หดตัว รายได้เกษตรกรที่แท้จริง (โดย สศค.) ล่าสุดเดือน ต.ค. 57 หดตัวอยู่ที่ร้อยละ -15.7 หดตัวต่อเนื่องจากเดือน ก.ย. 57 ที่ร้อยละ -15.4 อันเนื่องมาจากราคาผลผลิตทางเกษตรตกต่ำตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวในช่วงต้นปี2) เศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวอยู่ในระดับต่ำ แม้ว่า GDP ไตรมาสที่ 3 ปี 57 ขยายตัวร้อยละ 0.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นสาขาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและคิดเป็นร้อยละ 38.1 ของ GDP ยังคงหดตัว -0.7 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง และ 3) ตลาดรถยนต์ยังคงมีแนวโน้มทรงตัวและรอดูผลของมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงปลายเดือน พ.ย. 57 การจัดงานมอเตอร์เอกซ์โป ถือเป็นปัจจัยบวกในการกระตุ้นตลาดรถยนต์
2. ธุรกิจตั้งใหม่เดือนต.ค. 57 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่าการจดทะเบียนธุรกิจ ในเดือนต.ค. 57 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศจำนวน 5,384 ราย หรือขยายตัวร้อยละ 2.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีทุนจดทะเบียนมูลค่า 2.02 หมื่นล้านบาท หรือขยายตัวร้อยละ 6.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งโดยรวม
- สศค. วิเคราะห์ว่า 1) การที่มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศเพิ่มขึ้น สะท้อนถึงผู้ประกอบการเริ่มมีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว สะท้อนจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 ปี 57 ที่ขยายตัวร้อยละ 0.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2 ที่ขยายตัวร้อยละ 0.4 จากช่วงเดียวกันปีก่อน สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ต.ค. 57 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 87.5 จากเดือนก่อนที่อยู่ที่ระดับ 86.1 และ 2) จากความต่อเนื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ จะเป็นแรงส่งสำคัญให้อุปสงค์ในประเทศขยายตัวต่อเนื่อง และจะสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อไป โดย สศค. คาดว่าเศรษฐกิจไทย ในปี 58 จะขยายตัวที่ร้อยละ 4.1 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.6 - 4.6 )
3. GDP สิงคโปร์ (Final) ไตรมาสที่ 3 ปี 57 ขยายตัวร้อยละ 2.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- สำนักงานสถิติแห่งชาติสิงคโปร์ รายงาน GDP ไตรมาสที่ 3 ของปี 57 (Final) ขยายตัวร้อยละ 2.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือขยายตัวร้อยละ 0.3 จากไตรมาสก่อน (ขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว) ซึ่งเป็นการปรับขึ้นจากตัวเลขเบื้องต้นที่ประกาศในเดือน ต.ค. 57 ว่าขยายตัวที่ร้อยละ 2.4 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการปรับขึ้นผลผลิตภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 57 พบว่าขยายตัวเร่งขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 2.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- สศค. วิเคราะห์ว่า 1) GDP สิงคโปร์ ไตรมาสที่ 3 ปี 57 ขยายตัวเร่งขึ้นนั้น สาเหตุมาจากการส่งออกสุทธิที่ขยายตัวเป็นสำคัญ กล่าวคือ การนำเข้าหดตัวร้อยละ -1.9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน แย่ลงจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 1.9 ซึ่งแม้ว่าภาคการส่งออกจะขยายตัวชะลอลงที่ร้อยละ 0.9 จากไตรมาสก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 2.5 แต่การนำเข้าที่หดตัวมากกว่า ทำให้การส่งออกสุทธิเพิ่มขึ้น จึงไม่อาจกล่าวได้ว่า GDP ในไตรมาสที่ 3 ปี 57 เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเศรษฐกิจสิงคโปร์ในช่วงครึ่งหลังของปี 57 และ 2) สาเหตุที่เศรษฐกิจสิงคโปร์ขยายตัวชะลอลงอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่ 2 (ขยายตัวร้อยละ 2.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ชะลอลงจากไตรมาสที่ 1 ที่ขยายตัวร้อยละ 4.8) และขยายตัวเร่งขึ้นเล็กน้อยในไตรมาสที่ 3 นั้น มีสาเหตุมาจากปัญหาเชิงโครงสร้าง คือ สภาวะตลาดแรงงานตึงตัวเป็นสำคัญ เนื่องทางการสิงคโปร์ออกกฎหมายในการรับแรงงานต่างชาติเข้มงวดขึ้น ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนแรงงาน ค่าแรงสูงขึ้น ส่งผลให้ภาคธุรกิจย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่น ทั้งนี้ สศค. คาดการณ์ ณ เดือน ต.ค. 57 ว่า ในปี 57 เศรษฐกิจสิงคโปร์จะขยายตัวร้อยละ 3.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 2.8-3.3)
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257