Macro Morning Focus ประจำวันที่ 15 มกราคม 2558
Summary:
1. นายกรัฐมนตรีเตือนธนาคารระวังการปล่อยสินเชื่อ ห่วงหนี้ครัวเรือนปรับเพิ่มขึ้น
2. พาณิชย์เตรียมประกาศกลุ่มสินค้าลดราคา
3. ธนาคารโลก คาดเศรษฐกิจโลกในปี 58 จะขยายตัวประมาณร้อยละ 3.0 ต่อปี
1.นายกรัฐมนตรีเตือนธนาคารระวังการปล่อยสินเชื่อ ห่วงหนี้ครัวเรือนปรับเพิ่มขึ้น
- นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเตือนการทำงานของระบบธนาคารพาณิชย์ว่า ไม่ต้องการเห็นการสนับสนุนให้สินเชี่อบุคคลเติบโตมากไป เพราะขณะนี้ระดับหนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นอยู่แล้ว หากจะให้สินเชื่อบุคคลควรเป็นไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพตัวเอง และทำให้เกิดประโยชน์กับเศรษฐกิจในระยะสั้นและระยะยาว
- สศค. วิเคราะห์ ระดับหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นย่อมเพิ่มความเสี่ยงให้กับระบบสถาบันการเงินของประเทศ โดยในไตรมาสที่ 3 ของปี 57 ประเทศไทยมีหนี้ครัวเรือนทั้งสิ้น 10.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.7 จากปีก่อน หรือคิดเป็นร้อยละ 84.7 ของ GDP ซึ่งหนี้ครัวเรือนของไทยประมาณร้อยละ 42.5 อยู่ในระบบธนาคารพาณิชย์ รองลงมา ได้แก่ สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่รับฝากเงิน และสหกรณ์ออมทรัพย์คิดเป็นร้อยละ 29.2 และ 15.2 ของหนี้ครัวเรือนรวม ตามลำดับ และหากพิจารณาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจพบว่า หนี้ครัวเรือนของไทยประมาณร้อยละ 26.6 เป็นหนี้ที่อยู่อาศัย รองลงมา ได้แก่ สินเชื่อเพื่อการบริโภค และรถยนต์คิดเป็น ร้อยละ 22.7 และ 16.8 ของหนี้ครัวเรือนรวม ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ระดับของคุณภาพสินเชื่อของไทยอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจาก NPL ต่อเงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ร้อยละ 1.2 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากร้อยละ 1.1 ในไตรมาสก่อนหน้า นอกจากนี้ BIS ratio เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 17.1 มากกว่าเกณฑ์ที่ธ.แห่งประเทศไทยกำหนดที่ร้อยละ 8.5 ซึ่งสามารถรองรับการขยายตัวของสินเชื่อได้ในอนาคต
2. พาณิชย์เตรียมประกาศกลุ่มสินค้าลดราคา
- อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้กรมการค้าภายใน ได้ทำการพิจารณาต้นทุนราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จะลดลงตามราคาน้ำมัน ซึ่งในเบื้องต้นรายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งได้พิจารณาเห็นชอบลดราคาสินค้าบางรายการ เช่น เหล็กเส้น เหล็กแผ่น วัสดุก่อสร้าง เม็ดพลาสติก ปูนซีเมนต์ และปุ๋ยเคมี และบางรายการ เช่น น้ำมันหล่อลื่น จะเริ่มปรับลดตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค 57 นี้ ส่วนรายการอื่นจะเริ่มทยอยปรับลดลง โดยเฉลี่ยราคาที่จะปรับประมาณร้อยละ 5 - 7.5
- สศค. วิเคราะห์ว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวลดลง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสินค้าปรับตัวลดลง สะท้อนได้จากดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างล่าสุดในเดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ระดับ 124.7 หรือหดตัวร้อยละ -1.6 ต่อปี โดยดัชนีหมวดสินค้าที่ลดลงได้แก่ ดัชนีในหมวดซิเมนต์ หดตัวร้อยละ -2.1 หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก หดตัวร้อยละ -5.6 ต่อปี เป็นต้น ในขณะที่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของประเทศเดือน ธ.ค. 57 หดตัวร้อยละ -3.6 ต่อปี บ่งชี้ถึงต้นทุนการผลิตปรับตัวลดลง ทั้งนี้ การที่กระทรวงพาณิชย์เตรียมปรับลดราคาในหมวดเหล็กเส้น เหล็กแผ่น วัสดุก่อสร้าง เม็ดพลาสติก ปูนซีเมนต์ และปุ๋ยเคมี จะส่งผลดีต่อการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนและภาครัฐ ทั้งนี้ สศค. คาดว่า การลงทุนภาคอกชนและการลงทุนภาครัฐจะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 8.0 และ 10.7 ต่อปี ตามลำดับ คาดการณ์ ณ ต.ค. 57
3. ธนาคารโลก คาดเศรษฐกิจโลกในปี 58 จะขยายตัวประมาณร้อยละ 3.0 ต่อปี
- ธนาคารโลก คาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 58 จะขยายตัวในระดับร้อยละ 3.0 ต่อปี หลังจากที่ปี 57 มีการเติบโตน้อยกว่าที่ประเมินไว้ที่ร้อยละ 2.6 ต่อปี พร้อมชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐ และอังกฤษ จะขยายตัวแข็งแกร่งมากกว่าเดิม ส่วนกลุ่มยูโรโซน และญี่ปุ่น ยังซบเซาอยู่ ขณะราคาโภคภัณฑ์ที่อ่อนตัวลง รวมถึง อัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ และนโยบายการเงินที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
- สศค. วิเคราะห์ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 58 ยังคงมีความเปราะบาง จากเศรษฐกิจประเทศที่สำคัญฟื้นตัวไม่พร้อมกัน โดย สศค. คาดการณ์ ณ ต.ค. 57 ว่าประเทศคู่ค้าหลักของไทย 15 ประเทศในปี 58 จะขยายตัวเร่งขึ้นมาเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 3.8 จาก 3.7 ในปี 57 อันเป็นผลมาจากจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นสำคัญ โดยคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.5 จาก 2.2 ในปี 57 ขณะที่จีนชะลอจาก 7.3 ในปี 57 ลดลงเหลือ 7.2 ในปี 58 จากการตั้งเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ต่ำลงกว่าในอดีต เพื่อเปิดพื้นที่ในการปรับสมดุลเศรษฐกิจและสังคม เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะข้างหน้า สำหรับญี่ปุ่นจะขยายตัวประมาณร้อยละ 1.0 จากร้อยละ 1.3 ในปี 57 ด้วยข้อจำกัดในการใช้มาตรการกระตุ้นทางการคลัง นอกจากนี้ เศรษฐกิจยูโรโซนอาจขยายตัวเพียงร้อยละ 1.2 จากร้อยละ 0.8 ในปี 57 ส่วนหนึ่งมีผลมาจากปัจจัยฐานต่ำ กอปรกับมาตรการทางการเงินแบบผ่อนคลายและเสริมสภาพคล่องของธนาคารกลางยุโรป น่าจะเริ่มส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนในระยะต่อไป อย่างไรก็ดี คาดว่าเศรษฐกิจในภูมิภาค (มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนามและฟิลิปปินส์) จะเติบโตได้ดีที่ร้อยละ 4.7 ต่อปี จากปัจจัยสนับสนุนด้านการใช้จ่ายภายในประเทศเป็นหลัก ทั้งนี้ สศค.จะมีการประกาศการปรับประมาณการอีกครั้งในวันที่ 29 ม.ค.58
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257