Executive Summary
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ในเดือน พ.ย. 57 หดตัวที่ร้อยละ -3.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือน พ.ย. 57 เกินดุล 1,664.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- สินเชื่อเดือน พ.ย. 57 ขยายตัวที่ร้อยละ 4.8 ขณะที่เงินฝากสถาบันการเงินเดือน พ.ย. 57 ขยายตัวที่ร้อยละ 3.6
- การส่งออกเดือนพ.ย. 57 หดตัวที่ร้อยละ -1.0 ขณะที่การนำเข้าหดตัวที่ร้อยละ -3.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
- อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ร้อยละ 0.6 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.7
- ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือน ธ.ค. 57 หดตัวร้อยละ -1.6
- ปริมาณการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในเดือน ธ.ค. 57 หดตัวที่ร้อยละ -3.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวม เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ระดับ 70.5
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ 92.6 จุด ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ 55.5 จุด
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม (HSBC) ของจีนเดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ 49.6 จุด ขณะที่อัตราเงินเฟ้อ เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ร้อยละ 1.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม เดือน ธ.ค 57 อยู่ที่ 52.0 จุด
Indicator next week
Indicators Forecast Previous Dec: API (%yoy) 23.8 -13.9
- จากปัจจัยฐานต่ำในปีที่แล้ว เนื่องจากปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางตอนบน ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญของประเทศ ในส่วนของผลผลิตในหมวดปศุสัตว์คาดว่าจะขยายตัวดีเช่นกัน จากปัจจัยด้านสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะไก่เนื้อ และไข่ไก่
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ในเดือน พ.ย. 57 หดตัวในอัตราเร่งที่ร้อยละ -3.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยลบจากอุตสาหกรรมเครื่องประดับ ยานยนต์ ปิโตรเลียม และอิเล็กทรอนิกส์เป็นสำคัญ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมปิโตรเลียม เนื่องจากมีการปิดเพื่อซ่อมบำรุงโรงกลั่นของบริษัท Thai Oil สำหรับอุตสาหกรรมที่ส่งผลดีต่อดัชนีฯ ในเดือนนี้ คือ อุตสาหกรรมวิทยุโทรทัศน์ เครื่องแต่งกาย และเคมีภัณฑ์
- การส่งออกในเดือน พ.ย. 57 มีมูลค่า 18,567.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กลับมาหดตัวอีกครั้งที่ร้อยละ -1.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวเป็นบวก จากการหดตัวและชะลอตัวของสินค้าหลัก โดยเฉพาะสินค้าเกษตรกรรมที่หดตัวในระดับสูงที่ร้อยละ -15.0 และสินค้าแร่และเชื้อเพลิงที่หดตัวในระดับสูงเช่นเดียวกันที่ร้อยละ -33.9 ในขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวชะลอลงที่ร้อยละ 3.6 ทั้งนี้ ราคาสินค้าส่งออกหดตัวที่ ร้อยละ -1.1 และปริมาณสินค้าส่งออกขยายตัวที่ร้อยละ 0.1
- การนำเข้าในเดือน พ.ย. 57 มีมูลค่า 18,645.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ -3.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการหดตัวเกือบทุกหมวดสินค้าหลัก โดยเฉพาะสินค้าทุนและสินค้าเชื้อเพลิงที่หดตัวร้อยละ -10.0 และ -15.7 ตามลำดับ ในขณะที่สินค้าวัตถุดิบขยายตัวที่ร้อยละ 8.6 ทั้งนี้ราคาสินค้านำเข้าหดตัวที่ร้อยละ -5.1 และปริมาณการนำเข้าขยายตัวที่ร้อยละ 1.7
- อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ร้อยละ 0.6 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนที่อยู่ที่ร้อยละ 1.3 จากต้นทุนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่มีทิศทางลดลงต่อเนื่อง และการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันขายปลีกภายในประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มแก๊สโซฮอล์ ประกอบกับราคาเนื้อสัตว์ สัตว์น้ำ และไข่และผลิตภัณฑ์นมลดลงจากปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ความต้องการสินค้าดังกล่าวค่อนข้างทรงตัว สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.7 ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปี 57 อยู่ที่ร้อยละ 1.9 และ 1.6 ตามลำดับ
- ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างในเดือน ธ.ค. 57 หดตัวร้อยละ -1.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงจาก เดือนก่อนร้อยละ -0.8 ตามการลดลงของราคาวัสดุก่อสร้างในหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กที่หดตัวร้อยละ -1.6 จากเดือนก่อน ขณะที่หมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปาหดตัวร้อยละ -1.9 จากเดือนก่อน ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 4/57 ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างหดตัวร้อยละ -0.8 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ทำให้ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างของทั้งปี 57 ขยายตัวร้อยละ 0.7 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ดัชนีราคาที่สูงขึ้นเป็นผลจากต้นทุนด้านวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตที่เป็นวัสดุจากธรรมชาติสูงขึ้น ทำให้ภาพรวมดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างปี 2557 จึงปรับตัวสูงขึ้นไม่มากนัก
- ดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือน พ.ย. 57 เกินดุล 1,664.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากเดือนก่อนที่เกินดุล 2,628.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยดุลการค้าเกินดุลลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1,913.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผลจากการส่งออกที่ลดลงมากกว่าการนำเข้า เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงมาก กอปรกับอุปสงค์ที่ชะลอลงจากประเทศคู่ค้าสำคัญ อาทิ จีน ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง และยุโรป ด้านดุลบริการ รายได้ และเงินโอน กลับมาขาดดุล 249.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากรายจ่ายกำไรและเงินปันผลที่เพิ่มขึ้น
- สินเชื่อเดือน พ.ย. 57 ขยายชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 4.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือขยายตัวร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (ขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว) โดยชะลอลงทั้งในธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ชะลอลงทั้งสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อบริโภค อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สินเชื่อธุรกิจขยายตัวเร่งขึ้น ขณะที่สินเชื่อบริโภคชะลอลงต่อเนื่องตามการบริโภคที่ลดลง
- เงินฝากสถาบันการเงินเดือน พ.ย. 57 ขยายชะลอลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 3.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือขยายตัวร้อยละ 0.7 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (ขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว) โดยการชะลอของเงินฝากเป็นผลจากการชะลงลงในฝั่งสถาบันการเงินเฉพาะกิจเป็นหลัก
- ปริมาณการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในเดือน ธ.ค. 57 มีจำนวน 129,869 คัน หรือคิดเป็นการหดตัวที่ร้อยละ -3.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -12.0 ตามการปรับตัวดีขึ้นของยอดขายรถจักรยานยนต์ในส่วนของภูมิภาคที่หดตัวในอัตราชะลอลงที่ร้อยละ -1.3 จากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -13.6 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรของรัฐบาล อย่างไรก็ดีจากการที่ราคาสินค้าเกษตรที่เกษตรกรขายได้ยังหดตัวต่อเนื่อง ทำให้รายได้เกษตรกรยังคงหดตัวลงเช่นกัน ส่งผลให้ยอดขายรถจักรยานยนต์ยังหดตัวอยู่ ในขณะที่ยอดขายรถจักรยานยนต์ใน กทม. ยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่องที่ร้อยละ -8.6 จากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -6.4 ทั้งนี้ ในปี 57 ปริมาณการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยังคงหดตัวในระดับสูงที่ร้อยละ -14.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวม เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ระดับ 70.5 ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนที่ระดับ 68.8 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก 1. ความต่อเนื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะเม็ดเงินที่สนับสนุนเกษตรกร รวมถึงโครงการลงทุนซ่อมสร้างต่างๆ ซึ่งจะมีผลต่อการจ้างงานของแต่ละท้องถิ่น และ 2. ราคาน้ำมันภายในประเทศปรับตัวลดลง ทำให้ราคาต้นทุนสินค้าปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มากนัก เนื่องจาก 1. ความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังไม่เต็มที่ ทำให้ผู้บริโภคยังไม่ค่อยกล้าที่จะจับจ่ายใช้สอยมากนัก และ 2. ราคาสินค้าเกษตรยังทรงตัวในระดับต่ำ ส่งผลให้ความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้บริโภคในชนบทยังคงชะลอตัวต่อไป
- ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรในเดือน ธ.ค. 57 คาดว่าจะขยายตัวได้จากปีก่อนร้อยละ 23.8 จากปัจจัยฐานต่ำในปีที่แล้ว เนื่องจากปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางตอนบน ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญของประเทศ ในส่วนของผลผลิตในหมวดปศุสัตว์คาดว่าจะขยายตัวดีเช่นกัน จากปัจจัยด้านสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะไก่เนื้อ และไข่ไก่
Global Economic Indicators: This Week
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ธ.ค. 57 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 92.6 จุด จากความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจปัจจุบันและการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ 55.5 จุด ลดลงจากดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ทั้งในประเทศและส่งออก ดัชนีฯ ภาคบริการ เดือน ธ.ค. 57 ลดลงมาอยู่ที่ 56.2 จุด จากดัชนีย่อยทุกประเภทที่ลดลง ยอดขายรถยนต์ในประเทศ เดือน ธ.ค. 57 ขยายตัวเร่งขึ้นมาที่ร้อยละ 13.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน คิดเป็นการหดตัวร้อยละ -2.4 จากเดือนก่อน (ขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว) จากยอดขายทั้งรถยนต์นั่งและรถบรรทุกที่ลดลง ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือน พ.ย. 57 หดตัวร้อยละ -1.7 จากช่วงเดียวกันปีก่อน หดตัวครั้งแรกในรอบ 8 เดือน จากยอดคำสั่งซื้ออุปกรณ์ด้านขนส่งและเครื่องจักรที่หดตัว ดุลการค้า พ.ย. 57 ขาดดุล 54.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม (HSBC) เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ 49.6 จุด ต่ำกว่าระดับ 50.0 จุดอีกครั้งในรอบ 7 เดือน สอดคล้องกับดัชนีฯ (NBS)ซึ่งลดมาอยู่ที่ 50.1 จุด ด้านดัชนีฯ ภาคบริการ (HSBC) เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ 53.4 จุด เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากระดับ 53.0 จุด ในเดือนก่อนหน้า สะท้อนภาคบริการที่ยังแข็งแกร่งที่สนับสนุนเศรษฐกิจได้ ในขณะทีภาคอุตสา- -หกรรมยังคงซบเซา สอดคล้องกับดัชนีฯ (NBS) ซึ่งเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 54.1 จุด อัตราเงินเฟ้อ เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ร้อยละ 1.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม เดือน ธ.ค 57 อยู่ที่ 52.0 จุด ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ ดัชนีฯ ดังกล่าวยังคงอยู่เกินกว่าระดับ 50 จุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7
ยอดค้าปลีก เดือน พ.ย. 57 ขยายตัวร้อยละ 1.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือขยายตัวร้อยละ 0.6 จากเดือนก่อนหน้า (ขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว) ทั้งนี้ ขยายตัวในทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร และเชื้อเพลิงรถยนต์ อัตราการว่างงาน เดือน พ.ย. 57 ทรงตัวอยู่ที่ร้อยละ 11.5 ของกำลังแรงงานรวมอัตราเงินเฟ้อ เดือน ธ.ค. 57 (เบื้องต้น) อยู่ที่ร้อยละ -0.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเป็นผลจากราคาพลังงานเป็นหลัก ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม เดือน ธ.ค 57 อยู่ที่ 51.4 จุด โดยดัชนีฯ ภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ 50.6 จุด ขณะที่ดัชนีฯ ภาคบริการ อยู่ที่ 51.6 จุด
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ 52.5 จุด ลดจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย ขณะที่ดัชนีฯ ภาคบริการ เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ 55.8 จุด และเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 58 ธนาคารกลางสหราชอาณาจักรมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 0.50 ต่อปี
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ 54.5 จุด สูงสุดในรอบ 2 ปี จากบรรยากาศทางธุรกิจ ผลผลิต ราคา และคำสั่งซื้อจากในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ดัชนีฯ ภาคบริการ เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ 51.1 จุด ลดลงจากเดือนก่อน แต่สูงกว่าค่าเฉลี่ยปี 57
GDP ไตรมาส 4 ปี 57 (เบื้องต้น) ขยายตัวชะลอลงที่ร้อยละ 1.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือขยายตัวร้อยละ 1.6 จากไตรมาสก่อน (ขจัดผลทางฤดูกาล)จากภาคอุตสาหกรรมที่หดตัว ทำให้ GDP ปี 57 ขยายตัวร้อยละ 2.8 ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ 49.6 จุด ต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี จากดัชนีคำสั่งซื้อสินค้าใหม่ที่ลดลง
มูลค่าส่งออก เดือน พ.ย. 57 กลับมาขยายตัวร้อยละ 2.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ที่ขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนมูลค่านำเข้าขยายตัวเล็กน้อยร้อยละ 0.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากราคามันดิบที่ปรับตัวลดลงส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 1.1 หมื่นล้านริงกิต
อัตราเงินเฟ้อ เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ร้อยละ 2.7 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ต่ำสุดในรอบ 15 เดือนจากราคาอาหารและค่าที่อยู่อาศัยที่ลดลง
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ 47.6 จุด ลดลงจากเดือนก่อน จากคำสั่งซื้อใหม่สินค้าส่งออกที่ลดลงมาอยู่ต่ำสุดในรอบ 3 ปี 8 เดือน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ 116.5 จุด ลดลงจากเดือนก่อน จากความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจในปัจจุบันและอีก 6 เดือนข้างหน้าที่ลดลง ยอดค้าปลีก เดือน ธ.ค. 57 ขยายตัวร้อยละ 4.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากยอดขายทุกประเภทที่ลดลง โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หดตัวถึงร้อยละ -23.1 อัตราเงินเฟ้อ เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ร้อยละ 8.4 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากราคาสินค้าทุกประเภทที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนค่าคมนาคมขนส่งและราคาอาหาร มูลค่าส่งออก เดือน พ.ย. 57 หดตัวร้อยละ -14.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน หดตัวสูงสุดในรอบ 2 ปี 3 เดือน จากการส่งออกก๊าซที่หดตัวสูงสุดในรอบ 1 ปี มูลค่านำเข้าหดตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ -7.3 จากการนำเข้าก๊าซที่ลดลง ทำให้ดุลการค้ากลับมาขาดดุล 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ.
GDP ไตรมาสที่ 4 ปี 57 ขยายตัวร้อยละ 7.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน เร่งขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้เศรษฐกิจเวียดนามในปี 57 ขยายตัวร้อยละ 6.0 ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ 52.7 จุด สูงสุดในรอบ 9 เดือน
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ 49.9 จุด เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า แต่ยังต่ำกว่าระดับ 50.0 จุด โดยคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ในขณะที่คำสั่งซื้อใหม่เพื่อส่งออกยังคงหดตัว ด้านมูลค่าส่งออก เดือน ธ.ค. 57 กลับมาขยายตัวร้อยละ 3.7 จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมูลค่านำเข้าหดตัวชะลอลงร้อยละ -0.9 ทำให้ดุลการค้าเกินดุล 5.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ 50.3 จุด เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า และเหนือระดับ 50.0 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ยอดค้าปลีก เดือน พ.ย. 57 ขยายตัวเร่งขึ้นร้อยละ 4.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน แม้มีการประท้วงในช่วงดังกล่าว
ยอดค้าปลีก เดือน พ.ย. 57 ขยายตัวร้อยละ 4.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากยอดขายทุกประเภทที่ลดลง โดยเฉพาะอาหารและเครื่องนุ่งห่ม ดัชนีผลประกอบการภาคอุตสาหกรรม เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ 46.9 จุด จากคำสั่งซื้อใหม่และราคาขายที่ลดลงมาก บ่งชี้การหดตัวของภาคอุตสาหกรรม ดัชนีฯ ภาคบริการ เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ระดับ 47.5 จุด สูงสุดในรอบ 4 เดือน ทั้งนี้ ดัชนีฯ ยังคงต่ำกว่าระดับ 50.0 จุด บ่งชี้การหดตัวในภาคบริการ
- ดัชนี SET ปรับเพิ่มขึ้น หลังจากที่ลดลงมากในช่วงสิ้นปี โดย ณ วันที่ 8 ม.ค. 58 ดัชนีฯ ปิดที่ระดับ 1,521.62 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ 44,849 ล้านบาท จากแรงซื้อของนักลงทุนในประเทศ ทั้งนักลงทุนรายย่อย นักลงทุนสถาบัน และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ โดยเป็นไปในทิศทางเดียวกันตลาดในภูมิภาค และผลจาก ECB ส่งสัญญาณว่าจะดำเนินมาตรการ QE ทำให้ตลาดคาดว่าจะเริ่มดำเนินการใช้ไตรมาสที่ 1 ปี 58 นี้ ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 5-8 ม.ค. 58 นักลงทุนต่างชาติขายหลักทรัพย์สุทธิ 7,253.7 ล้านบาท
- ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับลดลงมากทุกช่วงอายุ ประมาณ 3 -31 bps จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ จากคำแถลงของ ECB ดังกล่าว กอปรกับมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาล Benchmark อายุ 30 ปี และพันธบัตร ธปท. อายุ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี ที่ได้รับความนิยม 1.89 2.39 3.56 และ 2.57 เท่าของวงเงินประมูล ตามลำดับ ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 5-8 ม.ค. 58 นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรสุทธิ 1,258.7 ล้านบาท (ไม่รวมพันธบัตร ธปท.)
- ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย โดย ณ วันที่ 8 ม.ค. 58 ค่าเงินบาทปิดที่ระดับ 32.88 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นร้อยละ 0.24 จากสัปดาห์ก่อน สวนทางกับค่าเงินสกุลส่วนใหญ่ ยกเว้นเงินเยน ทั้งนี้ ค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากกว่าค่าเงินสกุลอื่นๆ โดยเฉลี่ย ส่งผลให้ดัชนีค่าเงินบาท (NEER) ในสัปดาห์นี้แข็งค่าขึ้นร้อยละ 0.95 จากสัปดาห์ก่อน
- ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น โดยราคาทองคำ ณ วันที่ 8 ม.ค. 58 ปิดที่ 1,211.00 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เพิ่มขึ้นจากต้นสัปดาห์ที่ปิดที่ 1,196.00 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3253 : www.fpo.go.th