รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 26 มกราคม 2558

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 26, 2015 13:49 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 26 มกราคม 2558

Summary:

1. จักรมณฑ์ ชี้แนวโน้มภาคอุตสาหกรรมปี 58 สดใส หลังเอกชนแห่ขอใบอนุญาต

2. พฤกษาฯ คาดตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในปี 58 เติบโตโตกว่าร้อยละ 10.0

3. น้ำมันคงคลังสหรัฐฯ พุ่งสูง กดราคาใกล้จุดต่ำสุดรอบ 6 ปี

1. จักรมณฑ์ ชี้แนวโน้มภาคอุตสาหกรรมปี 58 สดใส หลังเอกชนแห่ขอใบอนุญาต
  • นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม เผยช่วงเดือน พ.ค. - ธ.ค.57 มีการออกใบอนุญาตประกอบกิจการ (รง.4) ทั้งเปิดโรงงานใหม่และขยายกิจการรวมทั้งสิ้น 3,815 ราย มูลค่าลงทุน 456,963 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงาน 149,883 คน แบ่งเป็น การประกอบกิจการใหม่ 3,245 ราย และขยายโรงงาน 570 ราย โดยโรงงานที่ผลิตในปัจจุบันเป็นโรงงานขนาดใหญ่ มีเงินลงทุนสูง และมีการจ้างงานมากขึ้น ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้ ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมไทยในปี 58 มีแนวโน้มสดใส
  • สศค. วิเคราะห์ว่า จากการจดทะเบียนขอใบอนุญาตประกอบกิจการที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ในช่วงกลางปี 57 จนถึงปัจจุบันสะท้อนถึงความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เกิดปัญหาทางการเมืองในช่วงต้นปี 57 โดยล่าสุดดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ระดับ 92.7 ซึ่งมีค่าสูงสุดในรอบ 14 เดือนนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 56 นอกจากนี้หากมีการดำเนินการประกอบกิจการครบทั้ง 3,815 ราย จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการลงทุนภาคเอกชน การบริโภคภาคเอกชน รวมทั้งส่งผลให้มีการทำงานเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงมีความกังวลเรื่องกำลังซื้อภายในประเทศที่ยังคงหดตัว และการฟื้นตัวของประเทศคู่ค้าสำคัญที่ยังมีทิศทางไม่ชัดเจน รวมทั้งปัญหา การถูกตัดสิทธิพิเศษทางศุลกากรจากสหภาพยุโรป อาจเป็นอีกปัจจัยที่จะเป็นอุปสรรคและส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการประกอบกิจการของภาคเอกชนได้
2.พฤกษาฯ คาดตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในปี 58 เติบโตโตกว่าร้อยละ 10.0
  • SET ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 58 ตลาดอสังหาริมทรัพย์คาดว่าจะเติบโตประมาณร้อยละ 10.0 โดยมีปัจจัยบวกจากการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน และการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งจะช่วยให้ตลาดที่อยู่อาศัยคึกคักตามไปด้วย
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ในปี 58 การลงทุนภาคเอกชนทั้งการลงทุน ทั้งในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร และการลงทุนในหมวดการก่อสร้าง มีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1)อุปสงค์ภาครัฐที่คาดว่าจะขยายตัว โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ด้านคมนาคม และ 2) การลดลงของราคาน้ำมันในตลาดโลกลดแรงกดดันด้านราคาและเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภค ทำให้คาดว่าการลงทุนภาคเอกชนในปี 58 จะขยายตัวร้อยละ 8.0 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 7.0 ถึง 9.0) ประมาณการ ณ เดือน ต.ค. 58 และจะมีการปรับประมาณการอีกครั้งในวันที่ 29 ม.ค. 58 นี้
3. น้ำมันคงคลังสหรัฐฯ พุ่งสูง กดราคาใกล้จุดต่ำสุดรอบ 6 ปี
  • สถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา (the American Petroleum Institute) เปิดเผยข้อมูลปริมาณน้ำมันคงคลังของสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 383.5 ล้านบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 7.4 ทำให้ปริมาณดังกล่าวอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 85 ปี และทำให้ราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวลดลงจากเดิม โดยราคาน้ำมันเวสต์เท็กซัสส่งมอบเดือน มี.ค. ในตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก (NYMEX) ปิดที่ระดับ 45.59 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน มี.ค. ในตลาดล่วงหน้าลอนดอนปิดที่ระดับ 48.79 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้ราคาน้ำมันทั้ง 2 ประเภทในปัจจุบันอยู่ ณ ระดับต่ำที่สุดในรอบเกือบ 6 ปี
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ข้อมูลปริมาณน้ำมันคงคลังสอดคล้องกับปริมาณการผลิตของสหรัฐฯ ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยอุปทานน้ำมันดิบสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ม.ค. 58 อยู่ที่ระดับ 397.9 ล้านบาร์เรล เพิ่มขึ้น 10.1 ล้านบาร์เรล ทั้งนี้ U.S. Energy Information Administration (EIA) คาดการณ์ว่าปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ ในปี 58 จะอยู่ในระดับสูงที่สุดในรอบกว่า 40 ปี ข้อมูลการผลิตและยอดคงคลังสะท้อนให้เห็นว่า การลดจำนวนลงของแท่นขุดเจาะ (Rig counts) ในช่วงที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อยอดการผลิตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สาเหตุมาจากเทคโนโลยี การขุดเจาะที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในอุตสาหกรรมผู้ผลิตพลังงาน Shale โดย EIA คาดว่าปริมาณ การผลิตต่อแท่น (Production per rig) ในปัจจุบันเพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับ 3 ปีก่อนหน้า จากข้อมูลดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันยังคงอยู่ในขาลงต่อไป และน่าจะต่ำกว่าระดับที่หลายฝ่ายคาดการณ์ อย่างน้อยในช่วงครึ่งปีแรก โดย สศค. คาดการณ์ในเบื้องต้นว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยทั้งปี 58 จะอยู่ที่ 65.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล แต่มีแนวโน้มว่าอาจมีการปรับประมาณการลงหากราคาน้ำมันยังคงอยู่ในระดับปัจจุบันไปอีกอย่างต่ำ 1 เดือน ทั้งนี้ ข้อมูลหลักๆ ที่ควรติดตามในการวิเคราะห์ทิศทางราคาน้ำมัน ได้แก่ ปริมาณการผลิตจากสหรัฐฯ และกลุ่มโอเปก net position ของผู้ผลิตในสหรัฐฯ ในตลาดล่วงหน้า สัญญาณการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ผลิตในสหรัฐฯ และยอดการผลิตของสหรัฐฯ จีนและญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมัน 3 อันดับแรกของโลก

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ