รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนเมษายน 2558 และผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐที่ดำเนินการโดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ประจำเดือนเมษายน 2558

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 17, 2015 14:55 —กระทรวงการคลัง

นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะในฐานะโฆษกสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ได้แถลงข่าวการดำเนินงานของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ดังนี้

1. รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนเมษายน 2558

ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ 30 เมษายน 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 5,775,710.53 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 43.46 ของ GDP เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นสุทธิ 45,191.30 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้

หนี้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น 43,306.28 ล้านบาท ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจาก

  • การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น จำนวน 42,000 ล้านบาท
  • การกู้เงินเพื่อการลงทุนจากแหล่งเงินกู้ในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 1,437.26 ล้านบาท ประกอบด้วย การให้กู้ต่อแก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยและการรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 1,274.73 ล้านบาท สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง รถไฟสายสีแดง และโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย การเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) จำนวน 40.21 ล้านบาท และการเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณถนนนนทบุรี 1 จำนวน 122.32 ล้านบาท
  • การเบิกจ่ายเงินกู้ภายใต้ พ.ร.ก. บริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ จำนวน 130 ล้านบาท
  • การชำระหนี้ที่กู้มาเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน จำนวน 516.67 ล้านบาท

หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินมียอดหนี้คงค้างเพิ่มขึ้น 6,828.53 ล้านบาท เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนและการเบิกจ่ายเงินกู้มากกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ ซึ่งในเดือนเมษายน 2558 มีการกู้เงินที่สำคัญ ได้แก่ การเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และการออกหุ้นกู้ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและไถ่ถอนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนพฤษภาคม 2558

หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) มียอดหนี้คงค้างลดลง 3,777.27 ล้านบาท เนื่องจากการชำระหนี้เงินต้นของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หนี้หน่วยงานของรัฐ มียอดหนี้คงค้างลดลง 1,166.24 ล้านบาท เนื่องจากการชำระหนี้เงินต้นของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย และสำนักงานธนานุเคราะห์

หนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนเมษายน 2558 เท่ากับ 5,775,710.53 ล้านบาท แบ่งเป็น หนี้ในประเทศ 5,430,695.42 ล้านบาท หรือเท่ากับร้อยละ 94.03 และหนี้ต่างประเทศ 345,015.11 ล้านบาท (ประมาณ 10,421.92 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือเท่ากับร้อยละ 5.97 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และหากเปรียบเทียบกับ เงินสำรองระหว่างประเทศ จำนวน 161,103.29 ล้านเหรียญสหรัฐ (ข้อมูล ณ 30 เมษายน 2558) หนี้ต่างประเทศจะคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 6.46 ของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเสถียรภาพและความมั่นคงในด้านการเงินของประเทศ

โดยหนี้สาธารณะแบ่งออกเป็นหนี้ระยะยาวถึง 5,610,347.45 ล้านบาท หรือร้อยละ 97.14 และมีหนี้ระยะสั้นเพียง 165,363.08 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.86

2. รายงานผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐที่ดำเนินการโดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะประจำเดือนเมษายน 2558

สบน. มีการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ วงเงินรวม 78,044.78 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ของรัฐบาล จำนวน 63,280.84 ล้านบาท และหนี้รัฐวิสาหกิจ จำนวน 14,763.94 ล้านบาท

การบริหารจัดการหนี้ของรัฐบาล วงเงิน 63,280.84 ล้านบาท ประกอบด้วย

ผลการกู้เงินในประเทศของรัฐบาล จำนวน 43,373.66 ล้านบาท

  • การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ โดยการออกพันธบัตรรัฐบาล 3 รุ่น อายุ 5 ปี 15 ปี และ 25 ปี จำนวน 42,000 ล้านบาท
  • การเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำ จำนวน 130 ล้านบาท จากสัญญาเงินกู้วงเงิน 15,393 ล้านบาท ที่ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2556 ภายใต้ พ.ร.ก. บริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศฯ
  • การเบิกจ่ายเงินกู้ให้กู้ต่อ จำนวน 1,243.66 ล้านบาท

การเบิกจ่ายเงินกู้จากต่างประเทศของรัฐบาล จำนวน 193.60 ล้านบาท ประกอบด้วยการเบิกจ่ายเงินกู้จากธนาคารพัฒนาเอเชีย จำนวน 122.32 ล้านบาท สำหรับโครงการก่อสร้างทางสายหลักให้เป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) ของกรมทางหลวง และการเบิกจ่ายเงินกู้จากองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น จำนวน 71.28 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินกู้สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณถนน

นนทบุรี 1 ของกรมทางหลวงชนบท จำนวน 40.21 ล้านบาท และโครงการรถไฟสายสีแดงของการรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 31.07 ล้านบาท

การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาล จำนวน 14,440 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงิน ที่ออกภายใต้ พ.ร.ก ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ (FIDF 1) โดยการกู้เงินระยะสั้น

การชำระหนี้ของรัฐบาล จำนวน 5,273.58 ล้านบาท แบ่งเป็น

  • การชำระหนี้โดยใช้เงินจากงบประมาณ จำนวน 2,207.17 ล้านบาท แบ่งเป็น ชำระต้นเงิน 327.78 ล้านบาท และชำระดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม 1,879.39 ล้านบาท
  • การชำระดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อชดเชยความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ จำนวน 2,549.74 ล้านบาท โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหาย ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ
  • การชำระต้นเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน จำนวน 516.67 ล้านบาท โดยใช้เงินงบประมาณของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
การบริหารจัดการหนี้รัฐวิสาหกิจ วงเงิน 14,763.94 ล้านบาท ประกอบด้วย

การกู้เงินในประเทศของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 619 ล้านบาท โดยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพกู้เงินในประเทศ เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนและดำเนินกิจการอื่นๆ

การเบิกจ่ายเงินกู้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 8.94 ล้านบาท โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เบิกจ่ายเงินกู้เพื่อจัดทำโครงการรถไฟสายสีม่วง

การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 14,136 ล้านบาท ประกอบด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ 5,181 ล้านบาท และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 8,955 ล้านบาท

คณะโฆษกสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ

โทร. 02 265 8050 ต่อ 5505, 5522, 5903

เอกสารแนบ

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ขอแถลงสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนเมษายน 2558 ดังนี้

ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 เมษายน 2558 มีจำนวน 5,775,710.53 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 43.46 ของ GDP เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นสุทธิ 45,191.30 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. หนี้ของรัฐบาล 4,137,314.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43,306.28 ล้านบาท

2. หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,058,379.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,828.53 ล้านบาท

3. หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 572,985.75 ล้านบาท ลดลง 3,777.27 ล้านบาท

4. หนี้หน่วยงานของรัฐ 7,030.41 ล้านบาท ลดลง 1,166.24 ล้านบาท

ทั้งนี้ รายละเอียดและสัดส่วนของหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนเมษายน 2558

1. หนี้ของรัฐบาล

1. หนี้ของรัฐบาล

1.1 หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้นสุทธิ 43,306.28 ล้านบาท เนื่องจาก

1.1.1 หนี้ต่างประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 449.29 ล้านบาท โดยผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้น 583.47 ล้านบาท ในขณะที่การเบิกจ่ายและชำระคืนเงินกู้สกุลเงินต่างๆ ทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลงสุทธิ 134.18 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาในรูปเงินบาท หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงจำแนกเป็นสกุลเงินต่างๆ หลังจากที่ทำการป้องกัน ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว

1.1.2 หนี้ในประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 42,856.99 ล้านบาท โดยมีรายการสำคัญเกิดจาก

  • การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 42,000 ล้านบาท
  • การเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำ จำนวน 130 ล้านบาท จากสัญญาเงินกู้วงเงิน 15,393 ล้านบาท ที่ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2556 ภายใต้ พ.ร.ก. บริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ
  • การเบิกจ่ายเงินให้กู้ต่อ เพิ่มขึ้น 1,243.66 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย จำนวน 675.01 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน วงเงิน 301.97 ล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว วงเงิน 275.64 ล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง วงเงิน 97.40 ล้านบาท

การรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 568.65 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย 8 สายทาง

  • การชำระต้นเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน จำนวน 516.67 ล้านบาท

1.2 หนี้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า 1.3 หนี้เงินกู้ล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า

2. หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน

2.1 หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน

2.1.1 หนี้ต่างประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 419.22 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้น 776.05 ล้านบาท ประกอบกับการเบิกจ่ายและชำระคืนหนี้สกุลเงินต่างๆ ทำให้ยอดหนี้คงค้างในสกุลเงินบาทลดลง 356.83 ล้านบาท 2.1.2 หนี้ในประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง จำนวน 2,895.25 ล้านบาท เนื่องจาก

  • การรถไฟแห่งประเทศไทยไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด 1,000 ล้านบาท และชำระคืนต้นเงินตามสัญญาเงินกู้ 1,355.25 ล้านบาท
  • การทางพิเศษแห่งประเทศไทยไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด 1,000 ล้านบาท
  • องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้มากกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ จำนวน 460 ล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายเงินกู้ 2,085 ล้านบาท และชำระคืนต้นเงินกู้ 1,625 ล้านบาท

2.2 หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน

2.2.1 หนี้ต่างประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 2,421.95 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้น 3,426.81 ล้านบาท ประกอบกับการเบิกจ่ายเงินและชำระคืนหนี้สกุลเงินต่างๆ ทำให้ยอดหนี้คงค้างในสกุลเงินบาทลดลง 1,004.86 ล้านบาท

2.2.2 หนี้ในประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 6,882.61 ล้านบาท เนื่องจาก

  • บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ออกหุ้นกู้ 7,000 ล้านบาท และชำระคืนต้นเงินตามสัญญาเงินกู้ 438 ล้านบาท
  • การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไถ่ถอนพันธบัตร 93 ล้านบาท
  • รัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ มากกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ จำนวน 413.61 ล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายเงินกู้ 1,903.94 ล้านบาท และชำระคืนต้นเงินกู้ 1,490.33 ล้านบาท
3. หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน)

3.1 หนี้ต่างประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 8.73 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน

3.2 หนี้ในประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง 3,786 ล้านบาท เนื่องจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้น้อยกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ โดยเป็นการเบิกจ่ายเงินกู้ 4,462 ล้านบาท และชำระคืนต้นเงินกู้ 8,248 ล้านบาท

ทั้งนี้ หากพิจารณาในรูปเงินบาท หนี้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) หลังทำการป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน จำแนกเป็นสกุลเงินต่างๆ

4. หนี้หน่วยงานของรัฐ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง จำนวน 1,166.24 ล้านบาท เนื่องจาก

  • กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้น้อยกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ จำนวน 1,109.99 ล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายเงินกู้ 37.28 ล้านบาท และชำระคืนต้นเงินกู้ 1,147.27 ล้านบาท
  • สำนักงานธนานุเคราะห์ชำระคืนต้นเงินตามสัญญาเงินกู้ จำนวน 56.25 ล้านบาท

หนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 เมษายน 2558 มีจำนวน 5,775,710.53 ล้านบาท ซึ่งหากแบ่งประเภทหนี้สาธารณะคงค้างเป็นหนี้ต่างประเทศ-หนี้ในประเทศ และหนี้ระยะยาว-หนี้ระยะสั้น มีรายละเอียด ดังนี้

หนี้ต่างประเทศและหนี้ในประเทศ หนี้สาธารณะคงค้าง จำนวน 5,775,710.53 ล้านบาท แบ่งออกเป็น หนี้ต่างประเทศ 345,015.11 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.97 และหนี้ในประเทศ 5,430,695.42 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 94.03 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง

หนี้ระยะยาวและหนี้ระยะสั้น แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
  • หนี้ระยะยาวและหนี้ระยะสั้น (แบ่งตามอายุของเครื่องมือการกู้เงิน) หนี้สาธารณะคงค้าง จำนวน 5,775,710.53 ล้านบาท แบ่งออกเป็น หนี้ระยะยาว 5,610,347.45 ล้านบาท หรือร้อยละ 97.14 และ หนี้ระยะสั้น 165,363.08 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.86 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
  • หนี้ระยะยาวและหนี้ระยะสั้น (แบ่งตามอายุคงเหลือ) หนี้สาธารณะคงค้าง จำนวน 5,775,710.53 ล้านบาท แบ่งออกเป็น หนี้ระยะยาว 5,027,257.68 ล้านบาท หรือร้อยละ 87.04 และหนี้ระยะสั้น 748,452.85 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.96 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง

ส่วนวิจัยนโยบายหนี้สาธารณะ สำนักนโยบายและแผน

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โทร. 0 2265 8050 ต่อ 5512, 5522

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะขอสรุปผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐที่ดำเนินการโดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ประจำเดือนเมษายน 2558 วงเงินรวม 78,044.78 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นหนี้รัฐบาล 63,280.84 ล้านบาท และหนี้รัฐวิสาหกิจ 14,763.94 ล้านบาท

1. การบริหารจัดการหนี้รัฐบาล วงเงินรวม 63,280.84 ล้านบาท

1.1 ผลการกู้เงินในประเทศของรัฐบาล กระทรวงการคลังกู้เงินและเบิกจ่ายเงินกู้ จำนวน 43,373.66 ล้านบาท รายละเอียด ดังนี้

1.1.1 การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 42,000 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรรัฐบาลทั้งจำนวน

1.1.2 การเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำ จำนวน 130 ล้านบาท จากสัญญาเงินกู้วงเงิน 15,393 ล้านบาท ที่ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2556 ภายใต้ พ.ร.ก. บริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศฯ

1.1.3 การเบิกจ่ายเงินกู้ให้กู้ต่อ จำนวน 1,243.66 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น (1) การให้กู้ต่อแก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเพื่อจัดทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง จำนวน 97.40 ล้านบาท สายสีน้ำเงิน จำนวน 301.97 ล้านบาท และสายสีเขียว จำนวน 275.64 ล้านบาท และ (2) การให้กู้ต่อแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อจัดทำโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย 8 สายทาง จำนวน 568.65 ล้านบาท

1.2 ผลการกู้เงินและเบิกจ่ายเงินกู้ต่างประเทศของรัฐบาล

ในเดือนเมษายน 2558 กระทรวงการคลังได้มีการเบิกจ่ายเงินกู้จากต่างประเทศ จำนวน 193.60 ล้านบาทรายละเอียดดังนี้

1.2.1 เบิกจ่ายเงินกู้จากธนาคารพัฒนาเอเชีย สำหรับโครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) ของกรมทางหลวง จำนวน 3.71 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 122.32 ล้านบาท

1.2.2 เบิกจ่ายเงินกู้จากองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) จำนวน 254.98 ล้านเยน หรือคิดเป็น 71.28 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินกู้สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณถนนนนทบุรี 1 ของกรมทางหลวงชนบท จำนวน 143.84 ล้านเยน หรือคิดเป็น 40.21 ล้านบาท และเงินกู้เพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย สำหรับโครงการรถไฟสายสีแดง จำนวน 111.14 ล้านเยน หรือคิดเป็น 31.07 ล้านบาท

1.3 การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาล จำนวน 14,440 ล้านบาท

1.3.1 การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาล จำนวน 14,440 ล้านบาท

ในเดือนเมษายน 2558 กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศโดยการปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงิน ที่ออกภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ (FIDF 1) จำนวน 14,440 ล้านบาท โดยการทำสัญญาเงินกู้ระยะสั้นทั้งจำนวน

1.3.2 การกู้เงินล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาล

ในเดือนเมษายน 2558 ไม่มีการกู้เงินล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้

1.4 การชำระหนี้ของรัฐบาล กระทรวงการคลังได้ชำระหนี้ จำนวน 5,273.58 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น

1.4.1 การชำระหนี้ของรัฐบาลจากงบประมาณ เป็นจำนวน 2,207.17 ล้านบาท รายละเอียด ดังนี้

  • ชำระหนี้ในประเทศ 1,760.46 ล้านบาท แบ่งเป็น ดอกเบี้ย 1,759.37 ล้านบาท และค่าธรรมเนียม 1.09 ล้านบาท
  • ชำระหนี้ต่างประเทศ 446.71 ล้านบาท แบ่งเป็น ต้นเงิน 327.78 ล้านบาท และดอกเบี้ย 118.93 ล้านบาท

1.4.2 การชำระหนี้ของรัฐบาลจากแหล่งอื่น เป็นจำนวน 3,066.41 ล้านบาท รายละเอียด ดังนี้

(1) การชำระดอกเบี้ยภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ (FIDF 1) จำนวน 1,466.60 ล้านบาท และดอกเบี้ยภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ (FIDF 3) จำนวน 1,083.14 ล้านบาท โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ

(2) การชำระต้นเงินกู้ภายใต้ พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2551 จำนวน 516.67 ล้านบาท โดยใช้เงินที่สำนักงบประมาณจัดสรรให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เพื่อชำระหนี้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้แทนหน่วยงาน ซึ่งหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้ต่างประเทศที่กระทรวงการคลังค้ำประกันและรัฐบาลรับภาระ

2. การบริหารจัดการหนี้รัฐวิสาหกิจ ในเดือนเมษายน 2558 วงเงินรวม 14,763.94 ล้านบาท

2.1 ผลการกู้เงินในประเทศของรัฐวิสาหกิจ

องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพกู้เงินในประเทศเป็นเงิน 619 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนและดำเนินกิจการอื่นๆ

2.2 ผลการเบิกจ่ายเงินกู้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจ

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเบิกจ่ายเงินกู้จากธนาคารเพี่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC) สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง จำนวน 31.97 ล้านเยน หรือคิดเป็น 8.94 ล้านบาท

2.3 ผลการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจ

ในเดือนเมษายน 2558 รัฐวิสาหกิจได้มีการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศเป็นเงิน 14,136 ล้านบาท

--กระทรวงการคลัง--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ