Macro Morning Focus ประจำวันที่ 18 มิถุนายน 2558
1. "ม.ร.ว.ปรีดิยาธร" คาด GDP ปี 58 โตมากกว่าร้อยละ 3.0 ต่อปี
2.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคาดเริ่มลงทุนโครงสร้างพื้นฐานได้ภายในปี 59
3. ยูโรสแตทเผย การจ้างงาน Q1/58 ของยูโรโซนขยับขึ้นร้อยละ 0.1 และ EU เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3
- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาเกี่ยวกับ โลจิสติกส์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ปี 58 คาดว่าจะขยายตัวได้มากกว่าร้อยละ 3.0 ต่อปีและหากสามารถปรับปรุงด้านโลจิสติกส์ได้เศรษฐกิจไทยจะกลับมาโตในระดับปกติที่ร้อยละ 5-6 ต่อปี
- สศค. วิเคราะห์ว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยล่าสุด สะท้อนว่า เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก โดยการใช้จ่ายงบประมาณจากช่วง 4 เดือนแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.2 ต่อปี แบ่งเป็นรายจ่ายลงทุนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 73.7 ต่อปี ขณะที่รายจ่ายประจำเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 ต่อปี ประกอบกับภาคการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวต่อเนื่องโดยข้อมูลเบื้องต้น 5 เดือนแรก ที่ขยายตัวร้อยละ 26.3 ต่อปี ทั้งนี้ จากผลการจัดอันดับความสามารถในด้านโลจิสติกส์ของ World Bank พบว่า ไทยอยู่อันดับที่ 35 ของโลก และอันดับ 3 ของอาเซียน เป็นรองสิงคโปร์และมาเลเซีย ซึ่งทั้งสองประเทศมีจุดเด่นที่ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ดี ส่งมอบสินค้ารวดเร็วตรงต่อเวลา มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการจัดการ โลจิสติกส์ แต่หากพิจารณาจากผลิตภาพของภาคอุตสาหกรรมแล้ว ไทยมีอัตราผลิตภาพที่ สูงกว่า ดังนั้น หากไทยเร่งส่งเสริมการประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้าน โลจิสติกส์ และหากพัฒนาคุณภาพการบริการอย่างต่อเนื่อง ในอนาคตไทยจะยกระดับความสามารถในด้านโลจิสติกส์ขึ้นได้ ทั้งนี้ สศค. คาดการณ์ ณ เดือน เม.ย. 58 ว่าในปี 58 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 3.7 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ3.2-4.2 ) และจะมีการปรับประมาณการอีกครั้งในเดือน ก.ค. ปี 58
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประกาศ ปี 59 เริ่มลงทุนโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้านบาท และยอมรับว่าปีนี้การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอาจจะต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนด อย่างไรก็ดี จะเร่งเดินหน้าดำเนินการในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ 58 โดยโครงการแรก ๆ ที่จะเดินหน้า ได้แก่ รถไฟทางคู่ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สายสีเหลือง และสายสีชมพู
- สศค. วิเคราะห์ว่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เศรษฐกิจเจริญเติบโตในระยะสั้น และช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคในระยะปานกลาง ปัจจุบันคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการ
ของแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558-2565 และแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมระยะเร่งด่วน พ.ศ. 2558 โดยในปี 58 มีกรอบวงเงินลงทุนทั้งสิ้น 56.0 พันล้านบาท ประกอบด้วย (1) สาขาการขนส่งทางรางวงเงินรวม 27.0 พันล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 48.2 ของวงเงินโครงการรวม (2) สาขาการขนส่งทางบก วงเงินรวม 21.9 พันล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 39.2 ของวงเงินโครงการรวม (3) สาขาการขนส่งทางอากาศ วงเงินรวม 4.8 พันล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 8.6 ของวงเงินโครงการรวมและ (4) สาขาขนส่งทางน้ำ วงเงินรวม 2.2 พันล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 3.9 ของวงเงิน โครงการรวม และการเชื่อมต่อโครงข่ายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล วงเงินรวม 11.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.0 ของวงเงินโครงการรวม ซึ่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะมีส่วนสนับสนุนและสร้างความมั่นใจให้ภาคเอกชนลงทุนเพิ่มขึ้น (Crowding-in Effect) ทั้งนี้ สศค. คาดว่าในปี 58 การลงทุนของภาครัฐจะขยายตัวที่ร้อยละ 9.5 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ ที่ร้อยละ 7.5-11.5) ซึ่งจะมีส่วนสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ในระยะต่อไป
- สำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า การจ้างงานในยูโรโซน ในช่วงไตรมาสแรก ปี 58 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 ขณะที่การจ้างงานสหภาพยุโรป (EU) เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ทั้งนี้ ลัตเวียและฮังการีมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ส่วนประเทศที่มีการจ้างงานลดลง ได้แก่ กรีซและมอลตา และประเทศที่มีการจ้างงานทรงตัว คือ เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และเนเธอร์แลนด์
- สศค. วิเคราะห์ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจกลุ่มยูโรโซน มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นหลังจากธนาคารกลางยุโรปประกาศมาตรการทางการเงินแบบผ่อนคลายและมาตรการเสริมสภาพคล่องโดยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลในเดือน ม.ค. 58 ซึ่งทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภคปรับตัว ดีขึ้น สะท้อนจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ล่าสุดในไตรมาสที่ 1/58 ขยายตัว ร้อยละ 1.0 ต่อปี หรือคิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 0.4 จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ SA) โดยเป็นผลจากการขยายตัวของการบริโภคภายในยูโรโซนที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้แนวโน้มการจ้างงานปรับตัวดีขึ้นตามทิศทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ดี ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะขยายตัวที่ร้อยละ 1.3 ต่อปีหรือที่ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 0.8 - 1.8 เร่งขึ้นจากปี 57 ที่ขยายตัว ร้อยละ 0.9 (คาดการณ์ ณ เม.ย. 58)
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257