รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 15 กรกฎาคม 2558

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 15 กรกฎาคม 2558

1. หอการค้าคาดส่งออกปีนี้หดตัวร้อยละ -1.8 ถึงร้อยละ -5.8

2. ครม.อนุมัติสร้างมอเตอร์เวย์ 3 สายใหม่ วงเงิน 1.6 แสนล้านบาท

3. จีนเผยการลดลงของทุนสำรอง Q2/58 อยู่ที่ 3.69 ล้านล้านดอลลาร์

• นายอัทธ์ พิศาลวานิช คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดส่งอออกปีนี้ติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 อยู่ระหว่างร้อยละ - 1.8 ถึงร้อยละ - 5.8 ซึ่งเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน และหากติดลบในอัตรามากกว่าร้อยละ -3.8 จะเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี
• สศค. วิเคราะห์ว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าในเดือน พ.ค.58 นั้น ยังคงหดตัวในอัตราเร่งขึ้นที่ร้อยละ -5.0 เข้าสู่การหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ส่งผลให้ 5 เดือนแรกของปี หดตัวร้อยละ -4.2 โดยมีปัจจัยลบจาก 1) เศรษฐกิจจีนอ่อนแรงท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว อาจส่งผลให้การส่งออกของไทยลดลงต่อเนื่อง ทั้งนี้ จีนถือเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย มีสัดส่วนถึงร้อยละ 11 ของการส่งออกของไทย 2) ปัญหากรีซอาจฉุดยุโรปอ่อนแอลง ส่งผลกระทบต่อความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและการส่งออกของไทย ซึ่งยูโซน 19 ประเทศ มีสัดส่วนการเป็นตลาดส่งออกร้อยละ 9 ของการส่งออกของไทย3) ภัยแล้งและราคาสินค้าเกษตรที่ยังไม่ดีขึ้น รวมถึงใบเหลือง IUU หรือกฎระเบียบเพื่อต่อต้านการทำประมงที่ผิดกฎหมาย จากสหภาพยุโรป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมเกษตรให้หดตัวต่อเนื่อง ทั้งนี้ ณ เดือนเมษายน สศค. คาดว่าการส่งออกในปี 58 จะขยายตัวในช่วงร้อยละ -1.8 ถึง 2.2 และจะนำปัจจัยลบต่างๆ เข้าสู่การปรับประมาณการอีกครั้งในเดือนกรกฎาคมนี้

• ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ของกรมทางหลวง 3 สาย ได้แก่ 1. สายพัทยา-มาบตาพุด ระยะทาง 32 กม. วงเงิน 20,200 ล้านบาท 2. สายบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กม. วงเงิน 84,600 ล้านบาท และ 3. สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม. วงเงิน 55,620 ล้านบาท ทั้งสายเส้นทาง วงเงินรวม 160,420 ล้านบาท ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 61-62 เป็นต้นไป
• สศค. วิเคราะห์ว่า การก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์) ของกรมทางหลวง 3 สายนั้น จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ ดังนี้ 1) การลงทุนสายที่ 1 เป็นการเชื่อมเมืองเศรษฐกิจใหญ่ด้านท่องเที่ยวและท่าเรือในภาคตะวันออกเข้าด้วยกัน สายที่ 2 เป็นการเชื่อมฐานการผลิตในภาคกลางและภาคอีสานเข้าด้วยกัน และสายที่ 3 เป็นการเชื่อมกับจังหวัดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะช่วยกระจายการลงทุนและความเจริญออกไปยังภูมิภาค 2) ช่วยเพิ่มอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านโครงสร้างพื้นฐานทางถนน (ปัจจุบันไทยอยู่อันดับ 50 ของโลก) และช่วยเพิ่มอันดับ Logistics Performance Index; LPI (ปัจจุบันไทยอยู่อันดับ 35 ของโลก) 3) เกิดการร่วมลงทุนของภาคเอกชน (Crowding-in effect) ทั้งนี้ ผลของ Sensitivity analysis จาก Macroeconomic Model ของ สศค. พบว่า การลงทุนของภาครัฐ 1 แสนล้านบาท จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ (Real GDP) ได้ร้อยละ 0.4 ต่อปี

• ธนาคารกลางจีน เปิดเผยว่าทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีน ในช่วงไตรมาส 2 ปี 58 ลดลง 4.0 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 3.69 ล้านล้านดอลลาร์ หลังจากที่ลดลง 1.13 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 1 ปี 58 บ่งชี้ว่าการสะพัดอออกของเงินทุนได้บรรเทาลง ขณะที่ธนาคารกลางจีนรักษาระดับค่าเงินหยวนให้มีเสถียรภาพเมื่อเทียบกับดอลลาร์
• สศค. วิเคราะห์ว่า ในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีนโดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ มีแนวโน้มชะลอตัว ประกอบกับตลาดการเงินและตลาดเงินของจีนมีความผันผวนค่อนข้างสูง ทำให้มีการไหลออกของเงินทุน และส่งผลให้ทางการจีนเริ่มใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่ปลายปี 57 ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ร้อยละ 4.85 รวมถึงรักษาระดับค่าเงินหยวนให้มีเสถียรภาพมากขึ้น อย่างไรก็ดีจากเครื่องชี้เศรษฐกิจล่าสุดพบว่าเศรษฐกิจยังคงส่งสัญญาณชะลอตัว สะท้อนจาก ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม โดย HSBC เดือน มิ.ย. 58 ที่อยู่ที่ระดับ 49.4 จุด ซึ่งถือเป็นระดับที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้เดิม สศค. คาดว่า GDP ของจีนในปี 58 อยู่ที่ร้อยละ 7.0 แต่จะมีการปรับใหม่ในเดือนกรกฏาคมนี้

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257