รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 19 สิงหาคม 2558

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 19, 2015 11:06 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 19 สิงหาคม 2558

Summary:

1. สมาคมธนาคารไทยมองท่องเที่ยว-ลงทุนกระทบระยะสั้นเหตุระเบิดสั่นคลอนเชื่อมั่น

2. กระทรวงพาณิชย์ เผยยอดจดจัดตั้งธุรกิจ ก.ค. 58 หดตัวร้อยละ -4.0

3. แบงก์ชาติจีน อัดฉีดเงินเข้าระบบ 1.20 แสนล้านหยวน หวังคลายความกังวล

1. สมาคมธนาคารไทยมองท่องเที่ยว-ลงทุนกระทบระยะสั้นเหตุระเบิดสั่นคลอนเชื่อมั่น
  • นายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า เหตุการณ์ระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์จะส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวในระยะสั้น แม้เป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงและเกิดในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ แต่คาดว่าจะคลี่คลายเร็ว นอกจากนี้ภาคการลงทุนของนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศจะได้รับผลกระทบในระยะสั้นเช่นกัน เนื่องจากความไม่มั่นใจและกังวลในสถานการณ์ยังคงมีอยู่ ทั้งนี้คาดว่ารัฐบาลจะมีการเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนไทยและนักท่องเที่ยวจากต่างชาติในทุกชุมชน ทุกแหล่งสถานที่ท่องเที่ยว
  • สศค. วิเคราะห์ว่า เหตุระเบิดแยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 58 ที่ผ่านมานั้นมีช่องทางในการส่งผ่านผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งในด้านอุปสงค์และอุปทาน โดยในด้านอุปสงค์จะกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยตรงแม้ตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 7 เดือนแรกของปี 58 ยังขยายตัวดี แต่เหตุระเบิดดังกล่าวอาจส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในครึ่งปีหลังชะลอลงโดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความอ่อนไหวด้านความปลอดภัย อาทิ ญี่ปุ่น จีน และยุโรป ส่งผลให้รายได้จากการท่องเที่ยวและการส่งออกบริการลดลงด้วย ในขณะเดียวกันรายได้ที่ลดลงก็ส่งผลให้ดุลบริการต่อเนื่องไปยังดุลบัญชีเดินสะพัดลดลง ส่วนในด้านอุปทานจะส่งผลกระทบต่อสาขาโรงแรมและภัตตาคาร คมนาคมขนส่ง และค้าส่งค้าปลีก ทั้งนี้ สศค. คาดว่า GDP ปี 58 จะขยายตัวได้ร้อยละ 3.0 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.5 - 3.5 จับตา: จำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงครึ่งหลังของเดือนสิงหาคมและเดือนกันยายน
2. กระทรวงพาณิชย์ เผยยอดจดจัดตั้งธุรกิจ ก.ค. 58 หดตัวร้อยละ -4.0
  • อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนนิติบุคคลเดือนก.ค. 58 พบว่ามีผู้ยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัททั่วประเทศ จำนวน 5,388 ราย หรือหดตัวร้อยละ -4.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียน 2.02 หมื่นล้านบาท หรือขยายตัวร้อยละ 19.0 ส่งผลให้ยอดการจดทะเบียนจัดตั้งในช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) มีจำนวน 3.69 หมื่นราย หรือเฉลี่ยมีการจดจัดตั้งประมาณ 5,278 รายต่อเดือน
  • สศค. วิเคราะห์ว่า สาเหตุที่ทำให้ยอดการทะเบียนจัดตั้งลดลง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากยอดจดทะเบียนลดลงของธุรกิจการท่องเที่ยว เนื่องจากภาครัฐได้ออกนโยบายให้ผู้ที่จะมาจดธุรกิจนำเที่ยวจะต้องได้รับอนุญาตจากกรมการท่องเที่ยวก่อน เพื่อป้องกันปัญหานอมินี อย่างไรก็ดี หากพิจารณาในด้านของเม็ดเงินแล้ว พบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน สะท้อนถึงผู้ประกอบการยังมีความมั่นใจที่จะจัดตั้งธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่น SMEs ในเดือนก.ค. 58 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 44.1 จากเดือนก่อน 39.7 ในเดือน มิ.ย. 58 จับตา: การลงทุนภาคเอกชน โดยเฉพาะการลงทุนในส่วนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในช่วงที่เหลือของปี
3. แบงก์ชาติจีน อัดฉีดเงินเข้าระบบ 1.20 แสนล้านหยวน หวังคลายความกังวล
  • วันที่ 18 ส.ค. 58 ธนาคารกลางจีน ได้อัดฉีดเงินเข้าระบบการเงินสูงสุดในรอบเกือบ 19 เดือน โดยการเสนอสัญญาซื้อคืนพันธบัตรประเภท 7 วัน วงเงิน 1.20 แสนล้านหยวน หรือ 1.87 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากในช่วงที่ผ่านมา ได้เกิดความกังวลจากกระแสเงินทุนไหลออกจากระบบ ภายหลังจากที่ค่าเงินหยวนของจีนอ่อนค่าลง
  • สศค. วิเคราะห์ว่า 1. แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณชะลอตัวจากช่วงครึ่งแรกของปี 58 (ที่ขยายตัวร้อยละ 7.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน) สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจล่าสุดในเดือน ก.ค. 58 ทั้งยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม การลงทุนในสินทรัพย์คงทน และการส่งออกที่หดตัวร้อยละ -8.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ทำให้ในวันที่11-13 ส.ค. 58 ทางการจีน ประกาศปรับลดค่าเงินหยวนต่อดอลลาร์สหรัฐลงกว่าร้อยละ 4.7 เพื่อกระตุ้นการส่งออก ซึ่งในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลจีนได้ดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิอจอย่างต่อเนื่อง ผ่านการผ่อนคลายทางการเงิน โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่ปลายปี 57 ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ร้อยละ 4.85 และ 2. สศค. สศค. คาดว่า GDP ของจีนในปี 58 อยู่ที่ร้อยละ 6.9 ประมาณการ ณ เดือน กรกฎาคม 2558 จับตา: ตัวเลขอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในช่วงครึ่งหลังของปี 58

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ