Macro Morning Focus ประจำวันที่ 14 กันยายน 2558
Summary:
1. เบิกจ่ายงบลงทุนรัฐปีนี้ต่ำเป้า
2. พาณิชย์ ตรึงเป้าส่งออกหดตัวร้อยละ 3.0
3. โกลด์แมนแซคส์มองราคาน้ำมันมีโอกาสร่วงแตะ 20 เหรียญ
1. เบิกจ่ายงบลงทุนรัฐปีนี้ต่ำเป้า
- อธิบดีกรมบัญชีกลางเปิดเผยว่า การเบิกจ่ายปีงบประมาณปี 58 คาดว่าจะเบิกจ่ายภาพรวมได้ตามเป้าหมายที่ร้อยละ 96.0 โดยที่ผ่านมาเบิกจ่ายได้แล้วร้อยละ 85.5 แบ่งเป็นงบรายจ่ายประจำร้อยละ 91.2 ขณะที่งบลงทุนเบิกจ่ายแล้วร้อยละ 58.6 ซึ่งคาดว่าทั้งปีงบประมาณจะเบิกจ่ายได้เพียงร้อยละ 65 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ร้อยละ 87 ทั้งนี้ สาเหตุที่การเบิกจ่ายงบลงทุนต่ำกว่าเป้าหมายเกิดจากการปรับลดราคาน้ำมัน ส่งผลให้ต้องมีการปรับคำนวณราคากลางน้ำมันใหม่ที่ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน รวมทั้งจากรัฐบาลออก พ.ร.บ.การโอนงบประมาณรายจ่าย ซึ่งหากหน่วยงานใดไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันก่อนวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา จะต้องโอนเงินเข้างบกลาง
- สศค. วิเคราะห์ว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน เห็นได้ชัดว่าเศรษฐกิจของไทยกำลังประสบปัญหาทั้งจากปัจจัยภาคนอก และปัจจัยภายใน ซึ่งสะท้อนได้จากภาคการส่งออกซึ่งเป็นภาคเศรษฐกิจหลักของไทยยังคงมีการติดลบอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดในช่วง 7 เดือนแรก การส่งออกรวมติดลบถึงร้อยละ 4.7 ส่งผลต่ออุตสาหกรรมที่พึ่งพิงการส่งออกหลายประเภท นอกจากนี้ การที่ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำที่ส่งผลต่อรายได้เกษตรกรซึ่งเป็นแรงงานส่วนใหญ่ของประเทศ ทำให้การบริโภคภาคเอกชนมีการชะลอตัวอย่างชัดเจน ส่วนสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวก็ยังได้รับผลจากระเบิดที่ราชประสงค์ที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ ภาครัฐจึงเป็นเสมือนเครื่องยนต์ตัวสุดท้ายของเศรษฐกิจไทย โดยที่ผ่านมาภาครัฐสามารถเบิกจ่ายได้ดีในรายจ่ายประจำ อย่างไรก็ดี สำหรับการเบิกจ่ายงบลงทุนที่มีปัญหาตามเนื้อหาข่าวย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยที่ต้องการการลงทุนระยะยาวเพื่อสร้างอุปสงค์ในประเทศในช่วงที่อุปสงค์นอกประเทศซบเซา โดยตัวเลขการเบิกจ่ายงบลงทุนที่ ร้อยละ 65 นับว่าเป็นเลขที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงเวลาปกติที่ร้อยละ 70 ซึ่งหากในปีงบประมาณหน้าสามารถเบิกจ่ายได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นย่อมมีส่วนช่วยเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้น และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจไทยในระยะยาวได้อีกด้วย
2. พาณิชย์ ตรึงเป้าส่งออกหดตัวร้อยละ 3.0
- นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เรียกประชุมสำนักงานพาณิชย์ทั่วโลก ยืนยันคงเป้าหมายการส่งออกของไทยทั้งปี 58 ไว้ที่ร้อยละ -3.0 โดยเชื่อว่า การส่งออกจะไม่ลดลงไปมากกว่านี้อีกแล้ว และทางกระทรวงมียุทธศาสตร์ที่จะผลักดันการค้าการส่งออกอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการส่งออกด้านบริการ ที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการ
- สศค. วิเคราะห์ว่า จากข้อมูลการส่งออกในช่วง 7 เดือนแรกของปี 58 ยังคงหดตัวที่ร้อยละ -4.7 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การส่งออกของไทยไปยังตลาดสำคัญๆ หดตัว โดยเฉพาะจีนที่หดตัวที่ร้อยละ -6.2 ญี่ปุ่นหดตัวที่ร้อยละ -7.0 และยูโรโซนหดตัวเช่นกันที่ ร้อยละ -5.5 อย่างไรก็ตาม การส่งออกไปยังสหรัฐฯ ขยายตัวดีที่ร้อยละ 3.7 และ CLMV ขยายตัวดีเช่นกันที่ร้อยละ 8.5 รวมถึงออสเตรเลียยังคงขยายตัวดีที่ร้อยละ 10.8 ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อการส่งออกในช่วง 5 เดือนหลัง ให้ขยายตัวกระเตื้องขึ้นบ้าง ทั้งนี้ สินค้าสำคัญที่ยังขยายตัวดีและคาดว่าจะทำให้การส่งออกขยายตัวได้เพิ่มขึ้น ได้แก่ ยานยนต์ อัญมณี และแฟชั่น โดยสศค. คาดว่าการส่งออกทั้งปีจะหดตัวที่ร้อยละ -4.0 (ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ -6.0 ถึง -2.0) คาดการณ์ ณ ก.ค. 58
3. โกลด์แมนแซคส์มองราคาน้ำมันมีโอกาสร่วงแตะ 20 เหรียญ
- โกลด์แมนแซคส์วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐฯ ประเมินสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกล่าสุดมีโอกาสปรับลดลงต่ำสุดถึงระดับ 20 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล สาเหตุจากการผลิตน้ำมันดิบโลกลดลงในระดับที่ช้ากว่าที่เคยคาดการณ์ ทำให้ราคาอาจปรับลดได้ถึงระดับดังกล่าวเพื่อลดปริมาณส่วนเกินด้านอุปทานลงโกลด์แมนแซคส์ยังคาดว่าอุปทานส่วนเกินดังกล่าวจะยังคงอยู่ไปจนถึงปีหน้าโดยจะเริ่มปรับลดลงในช่วงครึ่งหลังของปี ทั้งนี้ โกลด์แมนแซคส์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปี 2559 ไว้เฉลี่ยอยู่ที่ 45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลปรับลดลงจากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 57เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลณ เดือน พ.ค. ที่ผ่านมา
- สศค. วิเคราะห์ว่า ภาพอุปทานล้นเกินของตลาดน้ำมันโลกมีความชัดเจนมาเป็นระยะเวลานานจากการเร่งผลิตจากผู้ผลิตสำคัญทั่วโลกในช่วงปีที่ผ่านมาขณะที่ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาสถานการณ์ในฝั่งอุปสงค์ที่มีการชะลอตัวก็มีความชัดเจนสูงขึ้นจากการที่เครื่องชี้เศรษฐกิจจีนลดต่ำลงสถานการณ์ทั้งสองส่วนจะทำให้ส่วนเกินด้านอุปทานจะยังคงอยู่และมีโอกาสทำให้ราคาปรับลดลงต่ำเป็นระยะเวลานานได้ อย่างไรก็ตาม การประเมินถึงจุดต่ำสุดของราคาน้ำมันดิบเป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ การปรับลดลงถึงระดับ 20 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลที่ทางโกลด์แมนแซคส์คาดการณ์หมายถึงการปรับลดลงของราคาจากระดับในปัจจุบันไปอีกกว่าร้อยละ 50 ซึ่งน่าจะมีความเป็นไปได้น้อย เนื่องจากเป็นระดับที่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตของผู้ผลิตส่วนใหญ่ของโลกทั้งนี้ สศค. ประเมิน ณ เดือน ก.ค. ที่ผ่านมาว่า ราคาน้ำมันดิบในปีหน้าจะเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเพิ่มขึ้นจากระดับ 60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ความชัดเจนของส่วนเกินด้านอุปทานอาจทำให้ต้องมีการปรับลดประมาณการราคาน้ำมันดังกล่าวลงทั้งในปีนี้และปีหน้า
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257