รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 22 กันยายน 2558

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 22 กันยายน 2558

Summary: 1. ส.อ.ท.เผยดัชนีเชื่อมั่นฯ ส.ค.58 ปรับลงต่อเนื่อง

2. ส.อ.ท.เผยยอดส่งออกรถยนต์ ส.ค.58 เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.9

3. ผลสำรวจ China Beige Book ชี้แนวโน้มเศรษฐกิจจีนซบเซาในไตรมาส 3/58

• นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมในเดือน ส.ค.58 อยู่ที่ระดับ 82.4 ปรับตัวลดลงจากระดับ 83.0 ในเดือน ก.ค. ซึ่งค่าดัชนีที่ลดลงเกิดจากองค์ประกอบ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 102.0 เพิ่มขึ้นจากระดับ 101.2 ในเดือนก.ค.
• สศค. วิเคราะห์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความกังวลของผู้ประกอบการต่อภาวะซบเซาทางเศรษฐกิจ ประกอบกับการชะลอของการบริโภคในประเทศ โดยเฉพาะกำลังซื้อจากเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับการซ้ำเติมจากปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลให้ทำการเพาะปลูกไม่ได้และปัญหาราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ ทำให้การใช้จ่ายของประชากรกลุ่มนี้จึงเป็นไปอย่างระมัดระวัง สอดคล้องกับเครื่องชี้เศรษฐกิจภายในประเทศล่าสุดที่ส่งสัญญาณชะลอตัวเช่นกัน อาทิ รายได้จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ เดือน ส.ค.58 ที่หดตัวร้อยละ -2.4 และยอดขายรถยนต์นั่งเดือน ก.ค.58 ที่หดตัวในระดับสูงที่ร้อยละ -25.1 นอกจากนี้ เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักของไทยก็ยังคงซบเซา ทำให้ธรุกิจที่ผลิตเพื่อการส่งออกได้รับผลกระทบโดยตรง และเป็นปัจจัยฉุดให้ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการส่งออกลดลง อย่างไรก็ดี ภาครัฐได้ออกมาตรการการเงินการคลังเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ระยะเร่งด่วน 5 มาตรการ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในระยะถัดไปได้

• นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เผยว่า ในเดือนส.ค. 58 ส่งออกรถยนต์ได้ 101,982 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.9 จากเดือน ส.ค.57 เนื่องจากมีการส่งออกรถกระบะรุ่นใหม่และการส่งออกรถอีโคคาร์ยังเติบโตดี โดยมีมูลค่าการส่งออก 52,859.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
• สศค. วิเคราะห์ว่า การส่งออกรถยนต์ในเดือน ส.ค. 58 ที่ขยายตัวได้ร้อยละ 13.9 เป็นผลจากการส่งออกรถกระบะ และรถอีโคคาร์เป็นสำคัญ โดยเฉพาะรถกระบะรุ่นใหม่ไฮลักซ์รีโว ขณะที่ จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนส.ค.58 นั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 159,470 คัน หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ภายในประเทศยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่ง ซึ่งข้อมูล 7 เดือนแรกของปี 58 (ม.ค. - ก.ค.) พบว่า ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งภายในประเทศหดตัวในระดับสูงที่ร้อยละ -20.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากผลของมาตรการรถคันแรกในช่วงก่อนหน้านี้ กอปรกับราคาสินค้าเกษตรที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง จากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ทำให้ผู้บริโภคยังขาดกำลังซื้อ และยังคงชะลอการบริโภคสินค้าคงทน โดยเฉพาะรถยนต์ออกไปก่อน

• ผลการสำรวจความคิดเห็นของบริษัทเอกชนกว่า 2,100 แห่งในประเทศจีนซึ่งจัดทำโดย China Beige Book International ระบุว่า ภาคการผลิตของจีนในไตรมาส 3 ขยายตัวย่ำแย่ที่สุดในรอบ 2 ปี เมื่อเทียบทั้งเป็นรายไตรมาสและรายปี ขณะที่ภาคบริการยังคงแข็งแกร่ง ส่วนการส่งออกของจีนก็อ่อนแอลงด้วย ซึ่งทำให้อุตสาหกรรมการส่งออกมีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจน้อยลง
• สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่ 2 ปี 2558 ขยายตัวร้อยละ 7.0 ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า และอยู่ในระดับเดียวกับเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจของทางการจีนปี 2558 ที่ร้อยละ 7.0 แต่จากเครื่องชี้ทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3/58 พบว่า เศรษฐกิจส่งสัญญาณชะลอลง สำหรับภาคการผลิต สะท้อนจากผลผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวชะลอลงที่ร้อยละ 6.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ก็ยังไม่ฟื้นตัวจากราคาบ้าน ในเดือน ส.ค. 58 ที่ลดลงร้อยละ -2.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน แม้ว่าราคาบ้านในเมืองใหญ่ปรับตัวสูงขึ้นบ้าง แต่ราคาบ้านในเมืองเล็กยังคงลดลงต่อเนื่อง นอกจากนี้ ในด้านการค้าระหว่างประเทศก็ยังคงหดตัวต่อเนื่อง จากมูลค่าการส่งออก เดือน ส.ค. 58 หดตัวในอัตราชะลอลงร้อยละ -5.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่มูลค่าการนำเข้าหดตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ -13.9 ซึ่งจากภาวะการชะลอลงของเศรษฐกิจดังกล่าวที่เกิดขึ้น อาจส่งผลให้ทางการของจีนมีการออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะต่อไป

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257