Macro Morning Focus ประจำวันที่ 12 ตุลาคม 2558
Summary:
1. กระทรวงการคลังหวังใช้ยาแรงกระตุ้นอสังหาฯ
2. คาดการส่งออกอัญมณีปีนี้โตร้อยละ 3.0
3. โกลด์แมนแซคส์คาดน้ำมันยังไม่ฟื้น
1. กระทรวงการคลังหวังใช้ยาแรงกระตุ้นอสังหาฯ
- รมว. คลัง เปิดเผยว่า ภาษีที่ดินไม่ใช่เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการในช่วงนี้ เพราะยังได้ให้โจทย์ ไปศึกษาเพิ่มพอสมควร โดยเฉพาะประเด็นเรื่องความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยพยายามจะให้มีความชัดเจนภายในปีนี้ ส่วนกรณีมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์นั้นอยู่ระหว่างปรับปรุง เนื่องจากระดับนโยบายต้องการให้เกิดการจูงใจมีผลกระทบมากกว่าที่ให้ผ่อนปรนเกณฑ์สินเชื่อและปรับลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง ซึ่งระดับนโยบายต้องการให้ลดภาษีธุรกิจเฉพาะร้อยละ 3.3 และต้องการให้ภาคเอกชนลดราคาบ้านลงมาด้วย รวมถึงอยากให้เพิ่มวงเงินสินเชื่อผ่อนปรนที่ ธอส. ให้มากกว่า 1 หมื่นล้านบาท เพื่อให้สร้างแรงกระตุ้นเศรษฐกิจ
- สศค. วิเคราะห์ว่า จากเครื่องชี้เศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ในส่วนของค่าโอนกรรมสิทธ์ และมูลค่า ซื้อขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพบว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปี มีการหดตัวในระดับที่ใกล้เคียงกันที่ร้อยละ 9.2 ซึ่งสอดคล้องกับภาวะการชะลอตัวของอุปสงค์ในประเทศและนอกประเทศ ตามราคาสินค้าเกษตรอยู่ในระดับต่ำ และภาคการส่งออกยังคงติดลบต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ส่งผลให้กำลังซื้อของภาคประชาชนที่ลดลง อย่างไรก็ดี มาตรการจากภาครัฐที่คาดว่าจะกระตุ้นภาคอสังหาฯ ได้พอสมควรนั้น รัฐควรเร่งศึกษาจัดทำนโยบายดังกล่าวให้มีความชัดเจน เนื่องจากผู้บริโภคอาจชะลอการซื้อขายเพื่อรอมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ จากภาครัฐดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้ภาคอสังหาฯ ซบเซาเพิ่มขึ้นในระยะสั้น
2. คาดการส่งออกอัญมณีปีนี้โตร้อยละ 3.0
- นายสมชาย พรจินดารักษ์ ประธานสมาพันธ์อัญมณีเครื่องประดับและโลหะมีค่าแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับเปิดเผยว่า การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับในปี 58 คาดว่าน่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.0 จากปี 57 ที่มีมูลค่า 324,000 ล้านบาท โดยภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ชะลอตัว ไม่ส่งผลกระทบกับตลาดอัญมณีและเครื่องประดับมากนักเพราะมีสัดส่วนการส่งออกถึงร้อยละ 95 และขายภายในประเทศเพียงร้อยละ 5 เนื่องจากคนไทยนิยมทองคำมากกว่าอัญมณี
- สศค. วิเคราะห์ว่า อัญมณีและเครื่องประดับนับเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของไทยอันดับต้นๆ ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดในช่วง 8 เดือนแรกของปี 58 อัญมณีและเครื่องประดับเป็นสินค้าส่งออกอันดับที่ 3 มีมูลค่าการส่งออกในรูปเงินบาทที่ 239,341 ล้านบาท คิดเป็นการขยายตัวที่ร้อยละ 10.8 และคิดเป็นสัดส่วนที่ร้อยละ 5.1 ของมูลค่าการส่งออกสินค้ารวม โดยส่งออกไปยังตลาดหลัก 5 อันดับแรก ได้แก่ ฮ่องกง สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐฯ กัมพูชา และสิงคโปร์ ตามลำดับ ทั้งนี้ คาดว่า ในช่วง 4 เดือนหลังของปี 58 ที่เป็นช่วง high season ซึ่งมีเทศกาลต่างๆ ที่คนนิยมซื้อเครื่องประดับให้เป็นของขวัญจะส่งผลให้บรรยากาศของการซื้อขายอัญมณีและเครื่องประดับกลับมาคึกคักอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอน อาจส่งผลต่อการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับให้ยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร
3. โกลด์แมนแซคส์คาดน้ำมันยังไม่ฟื้น
- ราคาน้ำมันเวสท์เท็กซัสในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 1 เดือน ปรับตัวขึ้นมากกว่าร้อยละ 10 ภายในเวลา 4 วันมาอยู่เหนือระดับ 50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม โกลด์แมนแซคส์ วาณิชธนกิจรายใหญ่ของโลกได้ออกมาให้มุมมองต่อราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวต่อเนื่องตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าเป็นลักษณะการฟื้นตัวเพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น โดยนายเจฟฟรีย์ เคอรรี่ หัวหน้าทีมสินค้าโภคภัณฑ์ของโกลด์แมนแซคส์ยังมองว่าขาขึ้นรอบนี้ไม่ยั่งยืน รูปแบบการซื้อขายที่เกิดขึ้นคล้ายคลึงกับในช่วงปลายเดือน ส.ค. ที่ผ่านมาที่มีการปรับตัวขึ้นของราคาที่รวดเร็วตามด้วยการเทขายขนานใหญ่ ความไม่ยั่งยืนของการฟื้นตัวของราคามีสาเหตุจากปัจจัยพื้นฐานของตลาดที่ยังคงอยู่ในสภาวะอุปทานล้นเกินอย่างต่อเนื่อง โกลด์แมนแซคส์ ยังมองว่าราคาน้ำมันสามารถลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 20 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันอาจอยู่ในระดับต่ำเป็นเวลาถึงกว่า 15 ปี
- สศค. วิเคราะห์ว่า ปัจจัยระยะสั้นที่มีผลต่อการเร่งตัวของราคาน้ำมันประกอบไปด้วย การคาดการณ์ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเลื่อนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นปีหน้า และ ความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้นระหว่างรัสเซียและซีเรีย ทั้งนี้ ทั้งสองปัจจัยมีแนวโน้ม จะเป็นปัจจัยกำหนดเพียงในระยะสั้นและไม่ได้กระทบกับปัจจัยพื้นฐานของตลาดน้ำมัน คือ อุปสงค์และอุปทานโลกอย่างมีนัยยะสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานในปัจจุบันยังบ่งชี้ถึงความซบเซาของราคาน้ำมันทั้งในปีนี้และปีหน้าเป็นอย่างน้อย จากอุปสงค์ที่ยังอ่อนแอและยังไม่มีความแน่ชัดว่าจะกลับมาแข็งแกร่งในเร็ววัน ขณะที่ด้านอุปทานยังถูกเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องโดยกลุ่มผู้ผลิต นอกสหรัฐฯ สศค. คาดว่าราคาน้ำมันเฉลี่ยในปี 58 นี้มีแนวโน้มสูงที่จะต่ำกว่า 60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ในปีหน้า ราคาน้ำมันอาจมีการปรับเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับปีนี้
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257