Executive Summary
- ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรในเดือน ก.ย. 58 หดตัว ร้อยละ -6.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- ดัชนีราคาสินค้าเกษตรที่เกษตรกรขายได้ในเดือน ก.ย. 58 หดตัว ร้อยละ -4.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือน ก.ย. 58 หดตัวต่อเนื่อง ร้อยละ -25.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเดือน ก.ย. 58 ขยายตัว ร้อยละ 1.2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- GDP จีน ไตรมาสที่ 3 ปี 58 ขยายตัว ร้อยละ 6.9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- ยอดสร้างบ้านใหม่ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. 58 กลับมาขยายตัว ร้อยละ 6.5 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลัง ขจัดผลทางฤดูกาลออกแล้ว
- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน เดือน ก.ย. 58 ขยายตัวชะลอลงต่อเนื่องโดยอยู่ที่ ร้อยละ 5.7 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- มูลค่าส่งออกของยูโรโซน เดือน ส.ค.58 ขยายตัว ร้อยละ 5.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ มูลค่านำเข้าขยายตัว ร้อยละ 3.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- อัตราการว่างงานของฮ่องกง เดือน ก.ย. 58 อยู่ที่ ร้อยละ 3.5 ของกำลังแรงงานรวม
- อัตราการว่างงานของไต้หวัน เดือน ก.ย. 58 อยู่ที่ ร้อยละ 3.8 ของกำลังแรงงานรวม
Indicator next week
Indicators Forecast Previous Sep : MPI (%YOY) -6.6 -8.3
- ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากดัชนี ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบ 9 เดือน มาอยู่ที่ระดับ 82.8 นอกจากนี้ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐฯ และ CLMV อาจมีส่วนช่วยกระตุ้นคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ผลจากรายได้เกษตรกรที่มีการหดตัว อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการหดตัวของผลผลิตอุตสาหกรรม
- ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรในเดือน ก.ย. 58 หดตัวร้อยละ -6.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หดตัวชะลอลงจากเดือนก่อนที่หดตัว ร้อยละ -11.3 หรือคิดเป็นการขยายตัว ร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หลังขจัดผลทางฤดูกาล (%mom_sa) ตามการหดตัวของผลผลิตในหมวดพืชผลสำคัญ โดยเฉพาะข้าวเปลือก ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง โดยในเดือน ก.ย. ผลผลิตข้าวเปลือกหดตัว ร้อยละ -39.3 ขณะที่ ผลผลิตยางพารา และมันสำปะหลังยังขยายตัวได้ดี กอปรกับผลผลิตในหมวดปศุสัตว์ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง เนื่องจากไม่มีสถานการณ์โรคระบาด ทั้งนี้ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรในไตรมาสที่ 3 ปี 58 หดตัว ร้อยละ -9.3 และตั้งแต่ต้นปี 58 ดัชนีฯ หดตัว ร้อยละ -7.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
- ดัชนีราคาสินค้าเกษตรที่เกษตรกรขายได้ในเดือน ก.ย. 58 หดตัวร้อยละ -4.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าทีหดตัว ร้อยละ -3.3 หรือคิดเป็นการหดตัว ร้อยละ -3.1 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล (%mom_sa) โดยสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรยังคง หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 20 ติดต่อกัน โดยในเดือน ก.ย. ดัชนีราคาฯ หดตัวจากราคาข้าวเปลือก ยางพารา และปาล์มน้ำมัน เป็นสำคัญ ตามราคาน้ำมันดิบ ในตลาดโลก และเศรษฐกิจโลกที่ยังคงฟื้นตัว อย่างเปราะบาง ขณะที่ราคาผลผลิตมันสำปะหลังยังคงขยายตัวได้ดี จากอุปสงค์จากจีนต่อมันสำปะหลังที่เพิ่มขึ้นเพื่อการผลิตเอธานอล ทั้งนี้ ดัชนีราคาผลผลิตสินค้าเกษตรในไตรมาสที่ 3 ปี 58 หดตัว ร้อยละ -4.8 และตั้งแต่ต้นปี 58 ดัชนีฯ หดตัว ร้อยละ -5.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
- ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือน ก.ย. 58 มีจำนวน 22,581 คัน คิดเป็นการหดตัวต่อเนื่อง ร้อยละ -25.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากเดือนก่อนที่หดตัว ร้อยละ -24.0 หรือคิดเป็นการหดตัวร้อยละ -1.8 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผล ทางฤดูกาล ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศยังคงเปราะบาง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ครัวเรือน และราคาสินค้าเกษตรที่หดตัวต่อเนื่อง ที่ส่งผลให้รายได้ของประชาชน กอปรกับการเร่งการบริโภคไปก่อนหน้านี้จากนโยบายรถคันแรก ทำให้ปริมาณการบริโภคสินค้าคงทน โดยเฉพาะรถยนต์นั่งยังคงหดตัวในระดับสูง ทั้งนี้ ไตรมาส 3 ปี 58 ปริมาณ การจำหน่ายรถยนต์นั่งหดตัว ร้อยละ -24.9 หรือคิดเป็นการหดตัว ร้อยละ -7.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า หลังขจัดผลทางฤดูกาล
- ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเดือน ก.ย. 58 อยู่ที่ 39,288คัน หรือขยายตัว ร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และถือเป็นการขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากมีการเร่งซื้อรถยนต์เชิงพาณิชย์จากการที่จะมีการปรับอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ในวันที่ 1 มกราคม 2559 และ เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ออกแล้ว พบว่าขยายตัว ร้อยละ 2.4 ทั้งนี้ ในไตรมาส 3 ปี 58 ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์หดตัว ร้อยละ -0.3 แต่ขยายตัว ร้อยละ 14.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ก.ย. 58 คาดว่าจะหดตัวในอัตราชะลอลงที่ร้อยละ -6.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากดัชนี ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบ 9 เดือน มาอยู่ที่ระดับ 82.8 นอกจากนี้ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐฯ และ CLMV อาจมีส่วนช่วยกระตุ้น คำสั่งซื้อจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ผลจากรายได้เกษตรกรที่มีการหดตัวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการหดตัวของผลผลิตอุตสาหกรรม
Global Economic Indicators: This Week
ยอดสร้างบ้านใหม่เดือน ก.ย. 58 กลับมาขยายตัวร้อยละ 6.5 จากเดือนก่อน (ขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว) หลังจากหดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน จากการสร้างบ้านเดี่ยวและอาคารชุดที่กลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง ด้านยอดใบอนุญาตก่อสร้างบ้านใหม่เดือน ก.ย. 58 หดตัวร้อยละ -5.0 จากเดือนก่อน (ขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว) จากที่ขยายตัวร้อยละ 2.7 ในเดือนก่อน จากยอดใบอนุญาตสร้างบ้านใหม่ ขนาด 1 หน่วยและมากกว่า 5 หน่วยที่กลับมาหดตัว
GDP ไตรมาสที่ 3 ปี 58 ขยายตัว ร้อยละ 6.9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ชะลอลงจากร้อยละ 7.0 ในไตรมาสที่ 1 และ 2 ของปี 58 แต่ยังคงอยู่ในระดับเดียวกับเป้าหมายอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของทางการจีนที่ "ประมาณ" ร้อยละ 7.0 สำหรับทั้งปี 58 โดยการชะลอลงของเศรษฐกิจจีน เป็นผลจาก การส่งออกที่หดตัวในอัตราสูง ประกอบกับการลงทุนและภาคอุตสาหกรรม ที่ชะลอลงอย่างต่อเนือง โดยในช่วงที่ผ่านมาทางการจีนได้ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเข้มข้น ทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 5 ครั้ง และปรับลดสัดส่วนการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่อง 4 ครั้ง นับตั้งแต่ปลายปี 57 โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ย. 58 ขยายตัวชะลอลงต่อเนื่องโดยอยู่ที่ร้อยละ 5.7 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ด้านการลงทุนในสินทรัพย์คงทนในช่วง 9 เดือนแรกของปี 58 ขยายตัวร้อยละ 10.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ชะลอลงต่อเนื่องและขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบ 15 ปี ด้านยอดค้าปลีกเดือน ก.ย. 58 ยังคงขยายตัวที่ร้อยละ 10.9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน เร่งขึ้นสงสดใน 7 เดือน
มูลค่าส่งออก เดือน ส.ค.58 ขยายตัว ร้อยละ 5.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าจะหดตัวร้อยละ -1.3 (ขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว) โดยภาคการส่งออกชะลอตัวจากการหดตัวของการส่งออกน้ำมันและการชะลอตัวของการส่งออก เคมีภัณฑ์ ขณะที่อาหาร เครื่องดืม และยาสูบขยายตัวได้ดี มูลค่านำเข้าขยายตัว ร้อยละ 3.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือขยายตัว ร้อยละ 0.2 จากเดือนก่อนหน้า ขยายตัว เร่งขึ้นจากการนำเข้าอาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบ และสินค้าอุตสาหกรรม ขณะที่มูลค่าการนำเข้าน้ำมันยังคงหดตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 11.2 พันล้านยูโรอัตราเงินเฟ้อ เดือน ก.ย. 58 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า โดยอยู่ที่ร้อยละ -0.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเป็นผลจากการหดตัวต่อเนื่องของราคาพลังงาน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัวอยู่ที่ร้อยละ 0.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
อัตราการว่างงานเดือน ก.ย. 58 อยู่ที่ ร้อยละ 3.5 ของกำลังแรงงานรวม ทรงตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า โดยในทรรศนะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังฮ่องกง อัตราการว่างงานที่ทรงตัวในระดับต่ำนี้ นับเป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 65.9 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของฮ่องกง
อัตราการว่างงานเดือน ก.ย. 58 อยู่ที่ร้อยละ 3.8 ของกำลังแรงงานรวม ทรงตัวในระดับต่ำต่อเนื่องเมื่อเปรียบเทียบกับปี 57 ที่เฉลี่ยที่ร้อยละ 4.0 โดยแม้อัตราการว่างงานในเดือน ก.ย. 58 จะเป็นอัตราว่างงานที่สูงที่สุดตั้งแต่ต้นปี 58 แต่อัตราการว่างงานเฉลี่ยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 58 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 3.7 ของกำลังแรงงานรวม ยังถือว่าเป็นอัตราต่ำที่สุดในรอบ 15 ปี โดยในเดือน ก.ย. 58 อัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงานอยู่ที่ร้อยละ 58.7 ลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 58.9 ในเดือนก่อนหน้า และมีจำนวนผู้มีงานทำ 11.7 ล้านคน คิดเป็นการจ้างงานที่ลดลง 19,000 ตำแหน่ง
มูลค่าการส่งออก เดือน ก.ย. 58 ขยายตัวเพียงเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ผลจากการส่งออกไปยังตลาดกลุ่มอาเซียนและจีน ที่หดตัวลงอย่างต่อเนื่องร้อยละ -0.6 และ -3.5 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ตามลำดับส่งผลให้การส่งออกในไตรมาส 3 ปี 58 ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 3.7 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ลดลงมากจากร้อยละ 6.7 ในไตรมาสก่อน โดยค่าเฉลี่ยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 58 อยู่ที่ร้อยละ 6.5 ส่วนมูลค่า การนำเข้า เดือน ก.ย. 58 หดตัว ร้อยละ -11.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการนำเข้าสินค้าจากกลุ่มประเทศในอาเซียนและยุโรปที่หดตัว ร้อยละ -4.2 และ -3.5 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ตามลำดับ ทั้งนี้ในแง่มิติของสินค้าพบว่าเป็นการนำเข้าสินค้าหมวดเชื้อเพลิงธรรมชาติ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลทางด้านราคาที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปลายปี 57 เป็นต้นมา ส่งผลให้ดุลการค้าในเดือนดังกล่าว ขาดดุลลดลงอยู่ที่มูลค่า -1.1 แสนล้านเยน จากที่ขาดดุล -5.7 แสนล้านเยนในเดือนก่อนหน้า
- ดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบแคบตลอดทั้งสัปดาห์และปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยดัชนีฯ ณวันที่ 21 ต.ค. 58 ปิดที่ระดับ 1,415.8 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน ทั้งสัปดาห์เบาบางเพียง 30,697 ล้านบาท ด้วยแรงซื้อของบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ นักลงทุนรายย่อยในประเทศ และนักลงทุนต่างชาติโดยนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการซื้อขายหลังจาก 1) ตัวเลข GDP ของจีนที่ออกมาเมื่อต้นสัปดาห์ขยายตัวต่ำเพียงร้อยละ 6.9 2) ผลประกอบการหลักทรัพย์กลุ่มธนาคารออกมาไม่ค่อยดีนักอีกทั้งนักลงทุนยังรอผลการประชุม ECB ในคืนวันนี้ ว่าจะมีมาตรการทางการเงินเพิ่มเติม หรือไม่ ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 19 - 21 ต.ค. 58 นักลงทุนต่างชาติซื้อหลักทรัพย์สุทธิ 239 ล้านบาท
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลค่อนข้างนิ่ง โดยอัตราฯ พันธบัตรอายุเกิน 10 ปีปรับลดลงเล็กน้อย จากการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่น Benchmark 5 และ 30 ปีที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน 3.23 และ 3.41 เท่าของวงเงินประมูลโดยนักลงทุนติดตามผลการประชุม ECB ดังกล่าว อีกทั้งรอคอยผลการประชุม FOMC ในสัปดาห์หน้า ซึ่ง Fed อาจส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 19 - 21 ต.ค. 58 นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรสุทธิ 5,089 ล้านบาท (ไม่รวมพันธบัตร ธปท.)
- เงินบาทแข็งค่าขึ้นจากสัปดาห์ก่อนโดย ณ วันที่ 21 ต.ค 58 เงินบาทปิดที่ระดับ 35.41บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นร้อยละ 0.52 จากสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับเงินวอนเกาหลีและสิงคโปร์ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม เงินเยน ยูโร ริงกิตมาเลเซีย และหยวนอ่อนค่าลง ส่งผลให้ ดัชนีค่าเงินบาท (NEER) ในสัปดาห์นี้แข็งค่าขึ้นร้อยละ 0.78 จากสัปดาห์ก่อน
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3253 : www.fpo.go.th