รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 10 พฤศจิกายน 2558

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 10, 2015 13:28 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 10 พฤศจิกายน 2558

Summary:

1. ส.อ.ท.จัดเสวนาเพิ่มศักยภาพทางด้านดำเนินการเชิงรุกเพื่อการลงทุนในรัสเซีย

2. ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ในเดือน ต.ค. 58 หดตัว

3. IEA คาดการผลิตน้ำมันหยุดโตในอีก 5 ปี

1. ส.อ.ท.จัดเสวนาเพิ่มศักยภาพทางด้านดำเนินการเชิงรุกเพื่อการลงทุนในรัสเซีย
  • ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงความร่วมมือกับสภาธุรกิจไทย-รัสเซีย ว่าในปัจจุบันมีนักลงทุนของไทยที่เข้าไปลงทุนในรัสเซียทั้งหมด 3 กิจการคือบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ (CP) บริษัทwarehouse ซึ่งผลิตเครื่องสำอางและบริษัท Thai Pattara Spa ดำเนินธุรกิจสปาที่ผ่านมามีบริษัทไทยให้ความสนใจเข้าไปลงทุนโครงการในรัสเซียหลายแห่ง แต่ยังอยู่ในขั้นตอนศึกษาและพิจารณาความเป็นไปได้ โดยในปัจจุบันระดับการลงทุนระหว่างกันยังไม่สูงมากนักเนื่องมาจากการขาดความรู้เรื่องโอกาสลงทุนของทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะมีการส่งเสริมความรู้ด้านการลงทุนระหว่างกันต่อไปในอนาคต
  • สศค. วิเคราะห์ว่า จากข้อมูลด้านการค้าระหว่างประเทศพบว่าสินค้าหลักที่ส่งออกไปยังรัสเซียคือ สินค้ายานยนต์เครื่องประดับและเม็ดพลาสติก ขณะที่การนำเข้ามีน้ำมันดิบเหล็กและปุ๋ย เป็นสินค้าหลัก อย่างไรก็ดี มูลค่าการส่งออกของไทยไปยังรัสเซียมีมูลค่าเพียง 1,205.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อยโดยคิดเป็นเพียงร้อยละ 0.5 ของการส่งออกทั้งหมด ดังนั้นการเข้าไปลงทุนโดยตรงในประเทศรัสเซียจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากรัสเซีย เป็นประเทศที่มีตลาดใหญ่มีประชากรมากกว่า 140 ล้านคนทางด้านภูมิศาสตร์ก็มีความสำคัญโดยมีพื้นที่เชื่อมต่อทั้งสองทวีประหว่างเอเชียและยุโรป อีกทั้งยังอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติอีกมากมาย ซึ่งจากศักยภาพที่มีในระดับสูงของรัสเซียภาคเอกชน รวมถึงภาครัฐจึงควรรีบหาช่องทางในการลงทุนเพื่อสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ โดยในเบื้องต้นคาดว่าสินค้าและบริการของไทยน่าจะเป็นที่นิยมในตลาดรัสเซีย เนื่องจากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การที่มีนักท่องเที่ยวรัสเซียจำนวนมากเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยย่อมบ่งบอกได้ถึงความชอบสินค้าและบริการของไทยได้ระดับหนึ่ง จึงไม่น่าเป็นการยากในการเข้าไปเจาะตลาดรัสเซียด้วยสินค้าและบริการของไทยในอนาคต
2. ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ในเดือน ต.ค. 58 หดตัว
  • กรมการขนส่งทางบก เผย ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ เดือน ต.ค. 58 มีจำนวน 137,040 คัน คิดเป็นการหดตัวร้อยละ -6.5 สะท้อนกำลังซื้อของประชาชนยังอยู่ในระดับต่ำ สศค. วิเคราะห์ว่า ปริมาณการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในเดือน ต.ค. 58 มีจำนวน 137,040 คัน คิดเป็นการหดตัวร้อยละ -6.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หดตัวเร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -0.7 หรือคิดเป็นการหดตัวร้อยละ -5.7 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลัง ปรับผลทางฤดูกาลแล้ว ผลมาจากการหดตัวของปริมาณการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในเขตภูมิภาค ซึ่งยังคงหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -8.5 จากปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำตามราคาน้ำมันดิบ และปริมาณอุปสงค์ในตลาดโลกที่ซบเซา ทำให้กำลังซื้อของประชาชนยังคงตกต่ำ โดยเฉพาะในภาคเกษตร ในขณะที่ปริมาณการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในกรุงเทพฯ และปริมาณฑล ขยายตัวได้เล็กน้อยที่ร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่คิดเป็นสัดส่วนที่ต่ำเมื่อเทียบกับปริมาณการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ทั้งประเทศ ทั้งนี้ ข้อมูล 10 เดือนแรกของปี 58 (ม.ค. - ต.ค.) ปริมาณการจำหน่ายรถจักรยานยนต์หดตัวร้อยละ -1.5
3. IEA คาดการผลิตน้ำมันหยุดโตในอีก 5 ปี
  • หน่วยงานข้อมูลสารสนเทศด้านพลังงานระหว่างประเทศ หรือ IEA ออกมาคาดการณ์ว่าการผลิตน้ำมันจากประเทศนอกกลุ่มโอเปคจะหยุดการขยายตัวในปี ค.ศ. 2020 จากการที่ผู้ผลิตพลังงานทั่วโลกลดขนาดการลงทุนใหม่ลงเป็นจำนวนมากในปีนี้ IEA ให้ความเห็นว่า กำลังการผลิตในปัจจุบันยังคงสามารถขยายตัวได้จากแหล่งผลิตน้ำมันของเดิมที่ยังคงมีศักยภาพสูง แต่ศักยภาพดังกล่าวจะมีการเสื่อมถอยลง ประกอบกับการลงทุนใหม่ที่น้อยจะทำให้การผลิตไม่มีการเติบโต จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ IEA คาดว่าราคาน้ำมันจะกลับสู่ระดับ 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในปี ค.ศ. 2020 และปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องหลังจากนั้น
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การชะลอตัวลงด้านการผลิตเริ่มมีความชัดเจนตั้งแต่ต้นปี และมีแนวโน้มของการลงทุนใหม่ที่น้อย เนื่องจากมีโครงการเพียงจำนวนน้อยที่มีความคุ้มทุน ณ ราคาปัจจุบัน และปริมาณน้ำมันสำรองยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้กำลังการผลิตเกิดใหม่มีจำกัด สภาวะดังกล่าวจากที่ IEA คาดการณ์เป็นการบ่งชี้ทิศทางขาขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปของราคาน้ำมันในอนาคต และอาจเป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมันในตลาดโลกในระยะสั้นได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยสำคัญในช่วงที่เหลือของปีนี้ ราคาน้ำมันน่าจะยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้มาก สศค. คาดว่าช่วงที่เหลือของปีนี้ ราคาน้ำมันมีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวเฉลี่ยอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 50.0 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้ราคาเฉลี่ยทั้งปีนี้อยู่ที่ระดับ 53.0 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ