Macro Morning Focus ประจำวันที่ 8 ธันวาคม 2558
Summary:
1. ค้าปลีกแห่ลงทุนภูเก็ต คาดส่งผลดีต่อการดึงดูดนักท่องเที่ยว
2. พาณิชย์ตั้งเป้าส่งออกปี 59 คาดโตที่ร้อยละ 5.0
3. โอเปคคงกำลังการผลิต กดราคาน้ำมันร่วงต่อ
1. ค้าปลีกแห่ลงทุนภูเก็ต คาดส่งผลดีต่อการดึงดูดนักท่องเที่ยว
- ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ภูเก็ตสแควร์ จำกัด เปิดเผยว่า จากแนวโน้มการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ประกอบการค้าปลีกได้เข้ามาลงทุนกันหลายราย อย่างเช่น อิเกียและคิงเพาเวอร์ ขณะที่กลุ่มเซ็นทรัล และเดอะมอลล์ กำลังจะเกิดขึ้น โดยมองว่าเป็นปัจจัยบวกที่สร้างความน่าสนใจและดึงดูดนักท่องเที่ยวเดินทางมายังภูเก็ตมากขึ้น
- สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจในปี 58 ที่ผ่านมาได้รับอานิสงส์จากการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยจากข้อมูล 10 เดือนแรก มีจำนวนนักท่องเที่ยวถึง 24.4 ล้านคน คิดเป็นการขยายตัวถึงร้อยละ 24.7 ส่งผลให้ GDP การส่งออกภาคบริการมีการขยายตัวถึงร้อยละ 18.6 ในช่วงสามไตรมาสแรก นอกจากนี้ ในปี 59 สศค. คาดว่าจะยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน โดยมีสมมติฐานอยู่ที่ 34.2 ล้านคน คิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 13.2 (โดยเป็นสมติฐานจำนวนนักท่องเที่ยวปี 58 ทั้งหมด 30.2 ล้านคน) ซึ่งการท่องเที่ยวจะเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้เศรษฐกิจไทยจะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 3.8 ในปีหน้า (ประมาณการ ณ เดือน ต.ค. 58)
2. พาณิชย์ตั้งเป้าส่งออกปี 59 คาดโตที่ร้อยละ 5.0
- นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดการประชุมคณะกรรมการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ (พกค.) เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 58 ซึ่งเป็นการประชุม ครั้งแรกของคณะกรรมการชุดนี้ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เป็นเวทีในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคด้านการค้าระหว่างประเทศทั้งระบบ เพื่อให้ไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก อย่างยั่งยืน ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ได้มีการกำหนดเป้าหมายการส่งออกของไทยในปี 59 อยู่ที่ ร้อยละ 5.0 จากภาวะเศรษฐกิจโลก และความต้องการของตลาดคู่ค้าสำคัญ ตลอดจนได้มีการหารือกับผู้ส่งออกไทย เพื่อประกอบการพิจารณาเป้าหมายดังกล่าว
- สศค. วิเคราะห์ว่า จากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้น จะส่งผลให้การส่งออกในปี 59 ขยายตัวได้ดีกว่าในปี 58 และยุทธศาสตร์การผลักดันการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ 7 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1. การเปิดประตูการค้าและขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ 2. การเร่งรัดขยายตลาดส่งออกเชิงรุก 3. การส่งเสริมการค้าชายแดน 4. การส่งเสริมผู้ประกอบการไทยไปดำเนินธุรกิจและลงทุนในต่างประเทศ 5. การปรับโครงสร้างการค้าสู่การค้าบริการ 6. การส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs และ 7. การสร้างมูลค่าเพิ่มในภาคอุตสาหกรรมการส่งออก จะสามารถส่งผลตามที่ สศค. คาดว่า มูลค่าการส่งออกในปี 59 จะขยายตัวที่ร้อยละ 3.2 (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 1.2 ถึง 5.2) คาดการณ์ ณ เดือน ต.ค. 58
3. โอเปคคงกำลังการผลิต กดราคาน้ำมันร่วงต่อ
- จากการประชุมเพื่อทบทวนเพดานกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ OPEC เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติคงเพดานกำลังการผลิตของกลุ่มไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงร้อยละ 5.9 ลงมาอยู่ที่ 37.6 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่ใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดเมื่อช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 52 เนื่องจาก ตลาดได้คาดว่ามติที่ประชุมจะทำการปรับลดกำลังการผลิตลง
- สศค. วิเคราะห์ว่า การคงเพดานการผลิตเป็นการส่งสัญญาณต่อตลาดน้ำมันโลกว่ากลุ่ม OPEC จะยังคงทำการผลิตในระดับปัจจุบันต่อไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งระดับการผลิตดังกล่าว อยู่สูงกว่าระดับเพดานที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวันอยู่กว่า 1 ล้านบาร์เรลมาเป็นเวลากว่า 1 ปี ประกอบกับในช่วงต้นปีคาดว่าจะมีอุปทานจากอิหร่านเพิ่มเติมอีกกว่า 5 แสนบาร์เรล และส่งผลให้ภาพของสภาวะอุปทานล้นเกินยิ่งมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มราคาน้ำมันดิบโลกทั้งในปีนี้และรวมถึงปีหน้าจะยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ สศค. คาดว่าราคาเฉลี่ย ในปี 58 จะอยูที่ระดับ 53.0 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 59 มาอยู่ที่ระดับ 57.8 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257