รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 6 มกราคม 2559

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 6 มกราคม 2559

1. กกร.คาดเศรษฐกิจไทยโตร้อยละ 3-3.5 ขณะที่ส่งออกโตได้ร้อยละ 2.0

2. SCB EIC คาดอัตราเงินเฟ้อปี 59 จะอยู่ที่ร้อยละ 0.8

3. อัตราเงินเฟ้อฟิลิปปินส์เดือนธ.ค.พุ่งแตะร้อยละ 1.5

• นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า กกร.ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2559 จะขยายตัว ในระดับร้อยละ 3-3.5 จากปัจจัยการใช้จ่ายของภาครัฐ รวมถึงการท่องเที่ยวที่จะยังคงเติบโตต่อเนื่องจากปี 2558 ที่มียอดนักท่องเที่ยวเกือบ 30 ล้านคน ส่วนการส่งออกในปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 2.0 จากปีที่ผ่านมาติดลบร้อยละ 5.0
• สศค. วิเคราะห์ว่า 1) เศรษฐกิจไทยมีสัญญาณบ่งชี้การฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยการใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นปัจจัยช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยต่อเนื่อง 2) มูลค่าการส่งออกสินค้า ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2558 อยู่ที่ 197.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือหดตัวร้อยละ -5.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากอุปสงค์ประเทศคู่ค่าไทยที่ยังอ่อนแอ รวมถึง ราคาสินค้าเกษตร และราคาน้ำมันที่ตกต่ำทั่วโลก แม้ว่าการส่งออกรถยนต์ยังสามารถขยายตัวได้ดี 3) การค้าชายแดน โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอินโดจีน หรือ CLMV (โดยเฉพาะเวียดนาม) ซึ่งมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 9.1 ของมูลค่าการส่งออกของไทยไปทั้งโลก จะเป็นตลาดหลักที่ช่วยพยุงการส่งออกของไทยทั้งในปีที่แล้วและในปีนี้ และ 4) สำหรับปี 2559 คาดว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับแนวโน้มการอ่อนค่าของค่าเงินบาทจะมีส่วนช่วยทำให้มูลค่าส่งออกขยายตัวได้ นอกจากนี้ การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2559 จะช่วยหนุนการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนภาคการส่งออกของไทย ทั้งนี้ สศค. คาดว่า เศรษฐกิจไทยในปี 59 มีแนวโน้มขยายตัวเร่งขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 3.8 และมูลค่าการส่งออกในรูปดอลลาร์สหรัฐในปี 2559 จะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 3.2 (คาดการณ์ ณ ต.ค. 58)จับตา: แรงส่งของการใช้จ่ายภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ปี 59 โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน ประเทศคู่ค้าส่งออกอันดับ 1 ของไทย

• ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อในปี 2559 จะขยายตัวที่ระดับร้อยละ 0.8 โดยแรงกดดันเงินเฟ้อในปีนี้มีน้อย เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังอยู่ในระดับต่ำ ในขณะที่อุปสงค์ในประเทศฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงทิศทางค่าเงินบาทที่อ่อนค่ามีส่วนทำให้เงินเฟ้อขยายตัว
• สศค. วิเคราะห์ว่า แนวโน้มแรงกดดันเงินเฟ้อในปี 2559 จะไม่มากนัก ตามการลดลงของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเป็นสำคัญ เนื่องจากอุปทานน้ำมันที่ยังล้นตลาด ขณะที่อุปสงค์การบริโภคน้ำมันยังคงเปราะบาง ตามการฟื้นตัวอย่างอ่อนแอของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่มีแนวโน้มลดลงจะส่งผลไปยังการลดของราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ ซึ่งเป็นสินค้าในตระกร้าเงินเฟ้อ และมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 15.6 นอกจากนี้ ยังช่วยลดแรงกดดันด้านราคาสินค้าในหมวดอื่นๆ โดยเฉพาะหมวดขนส่ง และค่าไฟฟ้า ทั้งนี้ สศค. คาดว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบในปี 2559 จะมีค่าเฉลี่ยที่ 57.8 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (ช่วงคาดการณ์ที่ 47.8-67.8 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล) และเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2559 จะอยู่ที่ร้อยละ 1.8 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 1.3 ถึง -2.3) คาดการณ์ ณ ต.ค. 58 จับตา: ราคาน้ำมันและอัตราเงินเฟ้อในปี 2559

• สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ (PSA) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค.ของฟิลิปปินส์พุ่งขึ้นที่ร้อยละ 1.5 จากเดือนพ.ย.ที่ร้อยละ 1.1 และเป็นระดับสุดในรอบ 7 เดือน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความต้องการอาหารและเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้น
• สศค. วิเคราะห์ว่า 1) อัตราเงินเฟ้อฟิลิปปินส์ในปี 58 อยู่ที่ร้อยละ 1.4 ซึ่งถือได้ว่ายังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับปี 57 ที่อยู่ที่ร้อยละ 4.2 อย่างไรก็ดีอัตราเงินเฟ้อของฟิลิปปินส์มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี เนื่องจากความต้องการอาหารและเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นหนึ่งในปัจจัยกดดันต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ในระยะต่อไป 2) แนวโน้มเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ ยังคงขยายตัวได้ดี สะท้อนจาก GDP ไตรมาส 3 ปี 58 ขยายตัวร้อยละ 6.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน (หรือขยายตัวร้อยละ 1.1 จากไตรมาสก่อน ขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว) โดยเป็นผลมาจากการขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศเป็นสำคัญ และ 3) สศค. คาดว่าเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ ในปี 58 จะขยายตัวที่ร้อยละ 5.9 ประมาณการ ณ เดือน ต.ค. 58 จับตา: อัตราเงินเฟ้อในปี 59 และอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ของ ปี 58 และปี 59

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257