Macro Morning Focus ประจำวันที่ 14 มกราคม 2559
Summary:
1. รองนายกรัฐมนตรี เผย 5 มาตรการที่ภาครัฐจะใช้ผลักดันเศรษฐกิจฐานราก
2. สถานการณ์ท่องเที่ยวไทยเดือน ม.ค. 59 ดีต่อเนื่อง
3. จีนเผยยอดส่งออกปี2558 ลดลงร้อยละ1.8 ขณะยอดนำเข้าร่วงร้อยละ 13.2
1. รองนายกรัฐมนตรี เผย 5 มาตรการที่ภาครัฐจะใช้ผลักดันเศรษฐกิจฐานราก
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภาครัฐจะผลักดันในเศรษฐกิจฐานราก ผ่าน 5 มาตรการใหญ่ คือ 1) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานชนบท ในสิ่งที่จำเป็นต่อการผลิตต่อชีวิตคนในท้องถิ่น 2) การสร้างเอสเอ็มอีเกษตรอุตสาหกรรม เพิ่มแรงจูงใจในการพัฒนาสร้าง 1 เอสเอ็มอี เกษตรอุตสากรรมให้เกิดขึ้นในหนึ่งตำบล 3) การสร้างตลาดให้ภาคการเกษตร 4) การผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ รักษาแหล่งท่องเที่ยวให้ยั่งยืน และ 5) มาตรการสุดท้ายภาครัฐจะลงทุนอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในทุกตำบล เพื่อเปิดช่องทางการจำหน่ายสินค้าอีคอมเมิร์ซ ซึ่งล่าสุด ครม. อนุมัติในหลักการแล้ว โดยจะเริ่มลงทุนเดินหน้าให้เกิดขึ้นในทันที
- สศค. วิเคราะห์มาตรการที่ภาครัฐจะใช้ผลักดันเศรษฐกิจฐานรากจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 59 ในภาวะที่ยังมีความท้าทายจากเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวโดยเฉพาะการชะลอลงของเศรษฐกิจจีน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์โลกที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะทำให้กระทบต่อมูลค่าการส่งออกของไทยลดลงได้ ทั้งนี้ สศค. คาดว่า เศรษฐกิจไทยในปี 59 มีแนวโน้มขยายตัวเร่งขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 3.8 และมูลค่าการส่งออกในรูปดอลลาร์สหรัฐในปี 59 จะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 3.2 (คาดการณ์ ณ ต.ค. 58)
2. สถานการณ์ท่องเที่ยวไทยเดือน ม.ค. 59 ดีต่อเนื่อง
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยสถานการณ์ในประเทศช่วงวันที่ 1-12 ม.ค. 59 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางมาประเทศไทยจำนวน จำนวน 1,108,188 คน ขยายตัวร้อยละ 10.78 ต่อปี สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยว 55,321.02 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 9.76 ต่อปี ส่วนปีนี้ตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างปรระเทศไม่ต่ำกว่า 2.3 ล้านล้านบาท
- สศค. วิเคราะห์ว่า ภาคการท่องเที่ยวนับเป็นตัวสำคัญที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ภาคการส่งออกและเศรษฐกิจในประเทศอ่อนแอ โดยมีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมทางตรงของการท่องเที่ยว (Tourism Direct GDP: TDGDP) ประมาณร้อยละ 5.5 ของ GDP รวมทั้งประเทศ และมีแนวโน้มความสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสร้างรายได้ให้กับประเทศเฉลี่ยแล้วไม่ต่ำกว่า 1.12 ล้านล้านบาทต่อปี ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งก่อให้เกิดการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถึง 4.1 ล้านคน โดยประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมากเป็นอันดับที่ 13 ของโลก และมีรายได้จากการท่องเที่ยวมากเป็นอันดับที่ 9 ของโลก ทั้งนี้ คาดว่าในปี 59 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศจะเข้ามาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยขยายตัวที่ร้อยละ 12.2 ต่อปี และรายได้จากการท่องเที่ยวต่างประเทศขยายตัวที่ร้อยละ 16.6 ต่อปี
3. จีนเผยยอดส่งออกปี 58 ลดลงร้อยละ 1.8 ขณะยอดนำเข้าร่วงร้อยละ 13.2
- สำนักงานศุลกากรของจีนรายงานยอดเกินดุลการค้าระหว่างประเทศของจีนในปี 58 อยู่ที่ระดับ 3.69 ล้านล้านหยวน (5.62 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) พุ่งขึ้นร้อยละ 56.7 จากปีก่อนหน้ารายงานระบุว่า ยอดส่งออกของจีนในปี 58 ลดลงร้อยละ 1.8 ต่อปี อยู่ที่ระดับ 14.14 ล้านล้านหยวน ขณะที่ยอดการนำเข้าร่วงลงร้อยละ 13.2 อยู่ที่ระดับ 10.45 ล้านล้านหยวน
- สศค. วิเคราะห์ว่า การส่งออกของจีนในปี 58 ที่ลดลงเป็นผลมาจากปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศและราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาคการผลิตของจีนชะลอตัว ในขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอลง สะท้อนได้จากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม Caixin ในเดือน ธ.ค. 58 อยู่ที่ระดับ 48.2 จุด ต่ำกว่าระดับ 50.0 จุด ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 นอกจากนี้ สถานการณ์เศรษฐกิจจีนล่าสุดที่เกิดจากความผันผวนของตลาดหุ้นและค่าเงินหยวนของจีน ธนาคารกลางจีนได้ดำเนินนโยบายการเงินที่ยืดหยุ่นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน รวมทั้งการเพิ่มมาตรการผ่อนคลายทางการเงินอื่นๆเพิ่มเติมเพื่อเป็นการกระตุ้นภาคการส่งออกและแก้ปัญหาเงินทุนไหลออก ซึ่งจะข่วยให้จีนปรับเข้าสู่สภาวะปกติในระยะต่อไป ทั้งนี้ สศค. คาดว่า เศรษฐกิจจีนจะเติบโตได้ที่ร้อยละ 6.8 ในปี 59 และมูลค่าการส่งออกรวมในรูปดอลลาร์สหรัฐในปี 59 จะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 3.2 (คาดการณ์ ณ ต.ค. 58)
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257