Macro Morning Focus ประจำวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559
Summary:
1. ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือน ม.ค. 59 ลดลง
2. EXIM BANK ขยายสินเชื่อส่งเสริมนวัตกรรม ยกระดับส่งออกไทย
3. Fed ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย
1. ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือน ม.ค. 59 ลดลง
- ผู้อำนวยการ สำนักสถิติ ฝ่ายสถิติและข้อสนเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (BSI) ในเดือน ม.ค. ปีนี้ลดลงกว่าเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 48.5 จุด จากเดือนก่อนหน้า 49.9 จุด
- สศค. วิเคราะห์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่ปรับลดลงต่อเนื่องซึ่งอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของผู้ประกอบการที่ลดลง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังชะลอตัวต่อเนื่อง ทั้งด้านการใช้จ่ายซึ่งสะท้อนได้จากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่ยังคงชะลอตัว และด้านการผลิตที่สะท้อนได้จากการผลิตภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรมที่ลดลงเช่นกัน ประกอบกับอุปสงค์ต่างประเทศที่อ่อนแอจากการส่งออกที่ติดลบ ซึ่งเป็นปัจจัยลบที่ทำให้ความเชื่อมั่นทางธรุกิจของผู้ประกอบการลดลง สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมในเดือน ม.ค. 59 อยู่ที่ 64.4 ลดลงจาก 65.1 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวม
2. EXIM BANK ขยายสินเชื่อส่งเสริมนวัตกรรม ยกระดับส่งออกไทย
- รักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ในปี 59 EXIM BANK มีนโยบายมุ่งเน้นการวิจัยพัฒนา ส่งเสริมนวัตกรรม และขยายการส่งออก จึงได้ลงนามกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)ใน MOU "โครงการสนับสนุนเงินทุนเพื่อการวิจัย พัฒนา และวิศวกรรมสำหรับภาคเอกชน" ในการผลิตเชิงอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม
- สศค. วิเคราะห์ว่า ภาคการส่งออกของไทยซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศมีมูลค่าลดลง โดยในปี 58 มูลค่าการส่งออกของไทยหดตัวร้อยละ -5.8 ต่อปี ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่ยังผลิตสินค้าพื้นฐานซึ่งนับวันจะแข่งขันได้ยากขึ้น ภายหลังไทยถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีจากประเทศพัฒนาแล้ว ดังนั้น เพื่อให้สินค้าไทยได้รับการยอมรับในระดับสากลและขยายส่วนแบ่งตลาดได้มากขึ้น ภายใต้ความร่วมมือนี้ EXIM BANK จะให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำในสัดส่วน 1 ใน 3 ของเงินลงทุนโครงการ และ สวทช. จะสนับสนุนอีก 2 ใน 3 โดยมีวงเงินรวมไม่เกินโครงการละ 30 ล้านบาท ระยะเวลาเงินกู้ไม่เกิน 7 ปี (รวมระยะปลอดการชำระคืนเงินต้น 2 ปี) ซึ่งจะคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกินครึ่งหนึ่งของอัตราดอกเบี้ยฝากประจำ 1 ปีบวกร้อยละ 1.125 ต่อปีตลอดระยะเวลากู้ ซึ่งเงื่อนไขดังกล่าวจะกระตุ้นให้ภาคเอกชนเกิดความคิดริเริ่มในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆ อันจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย
3. Fed ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) กล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการบริหารการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ระบุว่ามีหลายปัจจัยที่อาจจะฉุดรั้งการขยายตัวของตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะยังคงมีการขยายตัวปานกลาง โดยรายได้และความมั่นคั่งในภาคครัวเรือนกำลังเพิ่มขึ้น ขณะที่การใช้จ่ายในประเทศยังคงขยายตัว และการลงทุนทางธุรกิจนอกภาคอุตสาหกรรมน้ำมัน ได้เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง นอกจากนี้ คาดว่าตลาดแรงงานจะยังคงปรับตัวดีขึ้น และเงินเฟ้อจะฟื้นตัวขึ้นสู่เป้าหมายของ Fed ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะทำให้ Fed ทำการปรับนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป
- สศค. วิเคราะห์ว่า ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจเป็นการส่งสัญญาณชะลอการปรับอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในเดือน มี.ค. นี้ หลังจากที่ Fed ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบในรอบเกือบ 10 ปี จากการประชุมเมื่อเดือน ธ.ค. 58 ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐฯ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนคาดว่า Fed จะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. 59 ทั้งนี้ สศค. คาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 59 ว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.5 ต่อปี (คาดการณ์ ณ ม.ค. 59)
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257