รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 8 เมษายน 2559

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 8 เมษายน 2559

1. ม.หอการค้าไทยคาด เทศกาลสงกรานต์จะมีเงินสะพัดกว่า 1.2 แสนล้านบาท

2. ไทยและฮ่องกงจับมือขยายตลาดค้าข้าวในฮ่องกง

3. กสิกรไทยคงประมาณการเศรษฐกิจ ปี 59 ไว้ที่ร้อยละ 3.0

• นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เผยผลสำรวจทัศนและพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยคาดว่าสงกรานต์ปี 59 นี้จะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 1.25 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน นับเป็นการปรับเพิ่มขึ้นดีที่สุดในรอบ 2 ปี โดยผลสำรวจยังพบว่า เงินที่ประชาชนจะนำมาใช้จ่ายส่วนใหญ่มาจากเงินเดือนและเงินออมเป็นหลัก ขณะที่ความกังวลส่วนใหญ่ยังมาจากปัญหาภัยแล้งที่อาจส่งผลต่อปริมาณน้ำที่จำกัด สภาพอากาศร้อนจัด และปัญหาการจราจรระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
• สศค. วิเคราะห์ว่า แม้ว่าเครื่องชี้ด้านการบริโภคของไทยที่สะท้อนได้จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมยังคงชะลอตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยล่าสุดเดือนมี.ค. 59 อยู่ที่ระดับ 62.4 จุด ลดลงจากระดับ 63.5 จุดในเดือนก่อน อย่างไรก็ดี คาดว่าการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 59 นี้จะได้รับปัจจัยบวกจากจำนวนวันหยุดยาวต่อเนื่อง 5 วัน ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศที่อยู่ในระดับต่ำซึ่งเป็นผลดีต่อต้นทุนการเดินทางของประชาชน รวมทั้งมาตรการกระตุ้นการบริโภคของรัฐบาลที่ส่งเสริมให้ประชาชน "กิน เที่ยว นอน" ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยให้สามารถนำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนทางภาษีได้ จะช่วยสร้างบรรยากาศการใช้จ่ายให้มีแนวโน้มขยายตัวได้ ทั้งนี้ สศค. คาดว่า การบริโภคภาคเอกชนที่แท้จริงในปี 59 จะสามารถขยายตัวได้ที่ร้อยละ 2.4 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 1.9 - 2.9 (คาดการณ์

• นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding: MOU) การซื้อขายข้าวไทยระหว่างผู้ส่งออกข้าวไทยและผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงใน 7 บริษัท โดยปัจจุบันมียอดสั่งซื้อข้าวไทยจำนวน 150,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นการยืนยันความร่วมมือระหว่างกัน โดยในปีนี้ พณ. จะขยายส่วนแบ่งตลาดข้าวในฮ่องกงจากร้อยละ 57 เป็นร้อยละ 65 หรือคิดเป็นยอดส่งออกข้าวไม่ต่ำกว่า 2 แสนตัน โดยมีเป้าหมายส่งออกข้าวไทยไปฮ่องกงมากกว่า 3 แสนตันภายในอีก 1-2 ปีข้างหน้า
• สศค. วิเคราะห์ว่า ฮ่องกงเป็นตลาดส่งออกข้าวสำคัญลำดับที่ 9 ของไทย มีสัดส่วนการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 3.8 ของการส่งออกข้าวรวมในปี 2558 โดยร้อยละ 88.4 ของข้าวที่ส่งออกไปฮ่องกงเป็นข้าวหอมมะลิซึ่งมีราคาสูง การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันครั้งนี้จึงจะช่วยขยายตลาดส่งออกข้าวไทย และทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวและ ผู้ส่งออกข้าวไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ภัยแล้งอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณผลผลิตของข้าวให้ลดลง ขณะที่ปัจจัยราคาข้าวในตลาดโลกยังคงหดตัวต่อเนื่อง โดยราคาข้าวขาวร้อยละ 5 (FOB) ล่าสุด ณ เดือน ก.พ. 59 หดตัว ร้อยละ -8.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

• ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคงประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจปี 59 ไว้ที่ร้อยละ 3.0 โดยปรับลดประมาณการการขยายตัวของการส่งออกและการบริโภคภาคเอกชนเหลือร้อยละ 0.0 และร้อยละ 1.9 ตามลำดับ ขณะที่ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของการบริโภคและการลงทุนภาครัฐเป็นร้อยละ 3.0 และร้อยละ 11.5 ตามลำดับ
• สศค. วิเคราะห์ว่า มุมมองของศูนย์วิจัยกสิกรไทยมีความสอดคล้องกับหน่วยงานเศรษฐกิจอื่นๆ รวมถึง สศค. โดยการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออก ขณะที่นโยบายภาครัฐจะเป็นแรงหนุนที่สำคัญ โดยเฉพาะมาตรการสนับสนุนระยะสั้น เช่น มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงสงกรานต์ จะช่วยให้การบริโภคภาคเอกชนมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น ขณะที่การลงทุนภาครัฐที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงครึ่งปีหลัง จะส่งผลดีต่อการจ้างงาน การบริโภค และการลงทุนภาคเอกชนในระยะต่อไป ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตร้อยละ 3.7 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.2-4.2 (ประมาณการ ณ เดือน ม.ค. 59)

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257