Macro Morning Focus ประจำวันที่ 6 มิถุนายน 2559
Summary:
1. แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เดินหน้าโครงการปรับปรุงพัฒนาการให้บริการ และพื้นที่เชิงพาณิชย์
2. สมอ.เผย 6 เดือนประกาศมาตรฐานอุตฯ แล้ว 98 เรื่อง
3. จีนเตรียมแก้กฎหมาย ยกระดับบริการภาครัฐ มุ่งฟื้นการลงทุนภาคเอกชน
1. แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เดินหน้าโครงการปรับปรุงพัฒนาการให้บริการ และพื้นที่เชิงพาณิชย์
- นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่กลุ่มสายงานปฏิบัติการ และซ่อมบำรุง บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เร่งดำเนินการโครงการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการเดินรถไฟฟ้า และการให้เช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ โดยขณะนี้โครงการปรับปรุงภายในขบวนรถไฟฟ้า Express เป็น City เพื่อให้สามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารที่ต้องการใช้บริการได้เพิ่มมากขึ้น
- สศค. วิเคราะห์ว่า การพัฒนาปรับปรุงระบบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ นั้น จะส่งผลดีต่อการรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้สอดคล้องกับโครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ที่จะทำให้ปริมาณความต้องการโดยสารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ในการเดินทางเข้ามาในตัวเมืองกรุงเทพฯ เพิ่มมากขึ้นไปอีก กอปรกับเป็นการบำรุงรักษาระบบรถไฟฟ้าเพื่อป้องกันเหตุสุดวิสัยและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว และผู้ใช้บริการให้มากขึ้น ทั้งนี้ ในด้านเศรษฐกิจมหภาค การพัฒนาปรับปรุงระบบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นด้านความสะดวกสบายในการเดินทางแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งอาจส่งผลให้มีการเดินทางเข้ามายังประเทศไทยมากขึ้น และหากมีการขยายการให้บริการ อาทิ การเพิ่มขบวนรถไฟฟ้า ก็ยังเป็นการช่วยให้เกิดการจ้างงานเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ เงินลงทุนของโครงการยังจะช่วยสร้างเม็ดเงินไหลเวียนให้แก่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น รวมไปถึงช่วยให้เกิดการลงทุนแก่เอกชนรายย่อยในการเข้ามาเช่าพื้นที่เพื่อการพาณิชย์ต่อไปได้อีกด้วย
2. สมอ.เผย 6 เดือนประกาศมาตรฐานอุตฯ แล้ว 98 เรื่อง
- นายธวัช ผลความดี เลขาธิการสานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า ในรอบ 6 เดือนของปี 2559 สมอ. กาหนดมาตรฐานและประกาศไปแล้วจานวน 98 เรื่อง อยู่ระหว่างรอประกาศอีก 20 เรื่อง ส่วนที่กาลังดาเนินการอยู่ ขณะนี้ได้ถึงขั้นตอนที่คณะกรรมกาลังการกลั่นกรองอีกจานวน 122 มาตรฐานอุตสาหกรรม คาดการณ์ว่าในปี 2559 นี้ สมอ. จะประกาศมาตรฐานได้ถึง 300 มอก. รวมทั้งมาตรฐานเร่งด่วน ได้แก่ มาตรฐานกลุ่มยางพารา มาตรฐานนวัตกรรม ยานยนต์ ไฟฟ้าและระบบราง ทั้งหมดนี้เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2558 พบว่า สมอ. สามารถกาหนดมาตรฐานได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าแล้ว
- สศค. วิเคราะห์ว่า การกำหนดมาตรฐานทางด้านอุตสาหกรรมของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) นี้ย่อมส่งผลดีต่อภาคอุตสาหกรรมการผลิต โดยสินค้าหลายประเภทที่มีการกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมนี้ มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของไทย อาทิ เช่น ยางพารา นวัตกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต เป็นต้น ทั้งนี้ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ประจำเดือน เม.ย. 59 อยู่ที่ระดับ 99.6 ขยายตัวร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการผลิตในหมวดยานยนต์ เครื่องปรับอากาศ และยาสูบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 1.62 ร้อยละ 0.27 และร้อยละ 0.54 ตามลำดับ โดยหาก สมอ. มีการนำมาตรฐานอุตสาหกรรมมาบังคับใช้กับผู้ประกอบการสินค้าเหล่านี้อย่างเข้มงวดแล้ว ย่อมส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นในคุณภาพตัวสินค้าเมื่อออกสู่ท้องตลาด รวมถึงความเชื่อมั่นในสายตาของผู้บริโภค จนทำให้ยอดขายสินค้าเหล่านี้เพิ่มขึ้นและยังส่งผลดีต่อภาคอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศไทยในท้ายที่สุดด้วย
3. จีนเตรียมแก้กฎหมาย ยกระดับบริการภาครัฐ มุ่งฟื้นการลงทุนภาคเอกชน
- สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จีนจะปรับปรุงกฎหมาย ยกระดับบริการภาครัฐ และสร้างบรรยากาศแวดล้อมในด้านธุรกิจให้มีความแข็งแกร่ง เพื่อสนับสนุนนักลงทุนเอกชน ภายหลังจากที่จีนได้สำรวจความเห็นของบริษัทเอกชนทั่วประเทศหลายร้อยแห่งเป็นเวลา 1 เดือน ผลการสำรวจพบว่า การลงทุนในภาคเอกชนนั้น มีอุปสรรคในเรื่องดีมานด์ตลาดที่หดตัวลง การผลิตที่สูงจนเกินไป การใช้นโยบายที่ไม่มีประสิทธิภาพ และต้นทุนด้านการเงินและแรงงานที่อยู่ในระดับสูง
- สศค. วิเคราะห์ว่า การลงทุนภาคเอกชนของประเทศจีนตั้งแต่เดือน ม.ค.- มี.ค. 59 เพิ่มขึ้นในอัตราที่ร้อยละ 5.2 เทื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งชะลอลงจากอัตราการขยายตัวที่ร้อยละ 10.1 ในปีที่แล้ว และอาจส่งผลต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลจีนตั้งเป้าหมายไว้ที่ร้อยละ 6.5 ทั้งนี้การแก้กฎหมายดังกล่าวจะช่วยทำให้นโยบายมีประสิทธิภาพ อีกทั้งสามารถกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน โดยสามารถลดต้นทุนในการดำเนินการของภาคเอกชนได้อีกด้วย ซึ่งการแก้กฎหมายดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่เน้นการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจจีน ทั้งนี้ สศค.ได้ประมาณการการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีนไว้ที่ ร้อยละ 6.6 ( ณ เม.ย. 59 )
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257