Macro Morning Focus ประจำวันที่ 21 มิถุนายน 2559
1. สมคิด เร่งเอกชนลงทุนมากขึ้นกระตุ้นศก. หลังมองช่วงที่เหลือมีหลายปัจจัยอยู่เหนือการควบคุม
2. ออมสินเผยดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานรากลดลง ประชาชนกังวลเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า
3. CICC ปรับลดคาดการณ์ GDP จีนปี 59 คาดขยายตัวเพียงร้อยละ 6.7
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถา เรื่อง "อนาคตเศรษฐกิจไทยในยุค 4.0" จัดโดยหอการค้าไทย-จีน เรียกร้องให้ภาคธุรกิจเอกชนเพิ่มการลงทุนภายในประเทศไทยให้มากขึ้น อาศัยอานิสงส์ของรัฐบาลชุดนี้ภายใต้การบริหารโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมองว่าในช่วง 2-3 ปีจากนี้จะเป็นจุดพลิกผันที่สำคัญของประเทศ
สศค. วิเคราะห์ว่า การเข้ามาลงทุนของนักลงทุนในประเทศไทยส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก โดยในช่วงเดือน ม.ค.ตก.พ. 59 มีการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนมูลค่า 32.4 พันล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น ร้อยละ 96.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ 12.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 5.5 เท่า จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสนับสนุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยเศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปี 59 ขยายตัวที่ร้อยละ 3.2 ซึ่งเกินกว่าที่ สศค. ได้คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2559 จะขยายตัวร้อยละ 3.3 (คาดการณ์ ณ เดือนเมษายน 2559) เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการส่งออกบริการ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การใช้จ่ายภาครัฐยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากโครงการลงทุนยกระดับโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ด้านการคมนาคมขนส่ง โครงการบริหารจัดการน้ำและพัฒนาระบบขนส่งทางถนน และกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนในปี 2559 ที่เพิ่มขึ้น สำหรับการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มฟื้นตัวตามแนวโน้มการจ้างงาน และรายได้นอกภาคเกษตรยังอยู่ในเกณฑ์ดี รวมทั้งแนวโน้มราคาน้ำมันที่ลดลงและอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำจะช่วยให้ต้นทุนการดำเนินธุรกิจอยู่ในระดับที่เอื้อต่อการลงทุนภาคเอกชน
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเปิดเผยผลการสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานราก หรือ GSI ประจำเดือน พ.ค. 59 ว่าได้ดำเนินการสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาท ทั่วประเทศ จำนวน 1,530 ตัวอย่าง ผลที่ได้พบว่า GSI เดือน พ.ค. 59 อยู่ที่ระดับ 43.6 ปรับลดลงจากเดือน เม.ย. ที่อยู่ระดับประมาณ 44.9 แสดงให้เห็นว่าประชาชนระดับฐานรากผู้บริโภคยังคงเห็นว่าภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันฟื้นตัวค่อนข้างล่าช้า
สศค. วิเคราะห์ว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานรากปรับตัวลดลงนั้นเกิดจาก ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันที่ฟื้นตัวค่อนข้างช้า ปัญหาภัยแล้งและราคาพืชผลทางการเกษตรที่ยังมีราคาต่ำ ส่งผลให้กำลังซื้อภายในประเทศยังไม่ค่อยฟื้นตัว อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานรากต่อสถานการณ์ในอนาคตก็ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน จากระดับ 46.2 ในเดือน เม.ย. มาอยู่ที่ 44.2 ในเดือน พ.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนฐานรากนั้นยังกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในอนาคต ทั้งนี้ การที่ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานรากปรับตัวลดลงนั้นสอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมันผู้บริโภค เดือน พ.ค. 59 ที่ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 61.1 เป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 และต่ำสุดในรอบ 24 เดือน
ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล แคปิตอล คอร์ปอเรชั่น (CICC) ปรับลดคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนปี 59 สู่ระดับขยายตัวร้อยละ 6.7 จากเดิมร้อยละ 6.9 สำหรับอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคปีนี้ ทาง CICC คาดการณ์ในระดับเดิมที่ร้อยละ 1.9 พร้อมกับระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนจะอยู่ในช่วงขาลงไปอีก 2-3 เดือนก่อนที่กระเตื้องขึ้นในระดับปานกลางไปจนถึงสิ้นปี
สศค. วิเคราะห์ว่า จากการคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนปี 59 ที่จะขยายตัวลดลง เนื่องจากอุปสงค์ทั่วโลกชะลอตัว ซึ่งความต้องการด้านการอุปโภคบริโภคในจีนจะค่อนข้างมีเสถียรภาพ ขณะที่การลงทุนของรัฐบาลมีแนวโน้มที่จะขยายตัวในอัตราที่มากกว่าภาคเอกชน และความต้องการส่งออกอาจจะซบเซาในช่วงครึ่งหลังของปี ประกอบกับผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน พ.ค. 59 ขยายตัว ร้อยละ 6.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทรงตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ยอดค้าปลีกเดือน พ.ค. 59 ขยายตัวร้อยละ 10.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้าเช่นเดียวกัน และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร เดือน พ.ค. 59 ขยายตัวร้อยละ 9.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งชะลอลงต่ำสุดในรอบ 15 ปี ทั้งนี้ สศค.ได้ประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศจีนไว้ที่ร้อยละ 6.6 (คาดการณ์ ณ เม.ย. 59)
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257