รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 11 กรกฎาคม 2559

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 11 กรกฎาคม 2559

1. พาณิชย์เผยสหรัฐคงสิทธิจีเอสพีสินค้าไทย 12 รายการ เริ่มมีผล 1 ก.ค. 59

2. กรมการจัดหางานชี้เลขว่างงานต่ำ

3. WTO เผยการค้าโลกซบเซา

• นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการทบทวนโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) สหรัฐปี 58 สหรัฐผ่อนผันการระงับสิทธิจีเอสพีตามคำร้องขอผ่อนผันของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตร โดยจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าสหรัฐอย่างน้อยเป็นเวลา 5 ปี โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 59 เป็นต้นไป
• สศค. วิเคราะห์ว่า การคงสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ของสหรัฐ ต่อการนำเข้าสินค้าไทย จะส่งผลดีต่อการส่งออกของสินค้าไทยที่จะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าสหรัฐ โดยเฉพาะสินค้าประเภท ดอกกล้วยไม้สด เมล็ดถั่วหรั่งที่ใช้เพาะปลูก ทุเรียนสด มะละกอตากแห้ง มะขามตากแห้ง ข้าวโพดปรุงแต่ง ผลไม้/ถั่วแช่อิ่ม มะละกอแปรรูป ตระกร้าจับปลาทำจากไม้ไผ่ กระเปาะแก้วหลอดแคโทเรย์ และอุปกรณ์เครื่องไฟฟ้าที่มีมอเตอร์ ซึ่งเป็นสินค้าที่ไทยมีส่วนแบ่งในตลาดสหรัฐเกินกว่าร้อยละ 50 ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ส่งออกไทยสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันด้านราคา และคงส่วนแบ่งตลาดดังกล่าวต่อไปได้จากการได้รับสิทธิจีเอสพีดังกล่าว ทั้งนี้ ไทยจะได้รับการคงสิทธิจีเอสพีอย่างน้อยเป็นเวลาอีก 5 ปี อย่างไรก็ตาม สินค้าไทยที่ได้รับสิทธิส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตร ซึ่งมีลักษณะไม่แตกต่างจากสินค้าจากประเทศอื่นๆ มากนัก ดังนั้นในช่วงเวลาที่ยังได้รับสิทธิพิเศษนี้ผู้ส่งออกไทยควรจะใช้ผลประโยชน์จากสิทธิพิเศษดังกล่าวให้ได้มากที่สุด และเร่งพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของตน รวมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้มีมูลค่าเพิ่ม จึงจะสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ต่อไปโดยไม่ได้รับผลกระทบในกรณีที่ไทยไม่มีสิทธิพิเศษทางภาษีใดๆ เพิ่มเติม

• นายอารักษ์ พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า สถานการณ์การว่างงานของประเทศในขณะนี้ อยู่ในระดับปกติ แม้ภาวะเศรษฐกิจอยู่ช่วงชะลอตัว อีกทั้ง ความต้องการในตลาดแรงงาน ยังสูงถึง 40,000 ตำแหน่ง ส่วนกรณีบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดโครงการสมัครใจลาออกสำหรับพนักงานรับเหมาช่วงของบริษัท โตโยต้าฯ นั้น เชื่อว่าไม่มีผลกระทบด้านแรงงาน เนื่องจากพนักงานที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับเงินชดเชยตามกฎหมาย
• สศค. วิเคราะห์ว่า สถานการณ์ด้านแรงงานในประเทศไทย จากกรณีที่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มีโครงการให้พนักงานลาออกโดยสมัครใจนั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในสาขาการผลิต เนื่องจากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนจากการผลิตแบบเน้นแรงงานไปเป็นการผลิตแบบเน้นทุนหรือเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่เพื่อเตรียมเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 ทั้งนี้ อัตราการว่างงานในเดือน พ.ค. 59 อยู่ที่ร้อยละ 1.2 ของกำลังแรงงานทั้งหมด หรือคิดเป็นจำนวน ผู้ว่างงาน 4.54 แสนคน โดยในภาคการผลิตมีจำนวนผู้ว่างงาน 5.6 หมื่นคน ขยายตัวร้อยละ 39.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

• องค์การการค้าโลก เปิดเผยรายงานการค้าโลกรายไตรมาสเป็นครั้งแรก โดยเปิดเผยว่ามูลค่าการค้าสินค้าโลกลดลงร้อยละ 1.0 ในไตรมาสแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว พร้อมคาดการณ์ในเดือน เม.ย. ว่ามูลค่าการค้าสินค้าโลกจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 ในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ร้อยละ 3.9
• สศค. วิเคราะห์ว่า การที่สถานการณ์การค้าโลกที่ปรับตัวลดลงเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัวอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจของจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีส่วนสำคัญในการค้าของโลก โดยทั้งนี้ประเทศจีนยังได้ดำเนินมาตรการในการพึ่งพาการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากในประเทศจีนเองอีก ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อมูลค่าการค้าโลก อีกทั้งยังมีปัจจัยที่สหราชอาณาจักรได้ลงประชามติออกจากสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันต่อมูลค่าการค้าโลกและมูลค่าการส่งออกของประเทศไทยที่ทำการค้ากับสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรรวมถึงประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้ สศค. ได้ประมาณการณ์ขยายตัวของการส่งออกของประเทศไทยปี 59 ไว้ที่ร้อยละ -0.7 (ณ เดือน เม.ย. 59) โดยจะมีการติดตามสถานการณ์เพื่อพิจารณาปรับประมาณการณ์ในครั้งต่อไปในเดือน ก.ค. 59

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257