ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2559 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินฝากประเภทสงเคราะห์ชีวิต ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้จ่ายเป็นเงินฝากไว้กับธนาคาร ที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะในปีภาษี ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินหนึ่งแสนบาท ซึ่งการฝากเงินนั้น มีข้อตกลงว่า ธนาคารผู้รับฝากเงินจะจ่ายเงินและผลประโยชน์ตามข้อตกลงโดยอาศัยความทรงชีพหรือมรณะของผู้ฝากเงิน โดยการฝากเงินต้องมีกำหนดเวลาตั้งแต่สิบปีขึ้นไป ทั้งนี้ การยกเว้นภาษีดังกล่าวเมื่อรวมกับเงินได้ที่จ่ายเป็นค่าเบี้ยประกันชีวิตแล้วเป็นจำนวนไม่เกินหนึ่งแสนบาท
2. ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินหรือประโยชน์ใดๆ ที่ได้รับเนื่องจากการฝากเงินกับธนาคารที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะ และการฝากเงินนั้นมีข้อตกลงว่า ธนาคารผู้รับฝากเงินจะจ่ายเงินและผลประโยชน์ตามข้อตกลงโดยอาศัยความทรงชีพหรือมรณะของผู้ฝากเงิน โดยการฝากเงินต้องมีกำหนดเวลาตั้งแต่สิบปีขึ้นไป และได้รับเงินหรือผลประโยชน์เมื่อเป็นไปตามข้อตกลงนั้น ทั้งนี้ เงินฝากดังกล่าวต้องได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตาม 1. มาแล้ว
3. ให้ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินประจำปี พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ มาตรการภาษีข้างต้นเพื่อส่งเสริมให้ผู้มีเงินได้มีการออมเงินกับธนาคารที่มีกฎหมาย จัดตั้งขึ้นเป็นการเฉพาะ ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน และเพื่อเป็นหลักประกันในการคุ้มครองชีวิตให้แก่ผู้มีเงินได้และครอบครัวผู้ฝากเงินดังกล่าวให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับเงินได้เท่าที่จ่ายเป็นเงินฝาก และเงินหรือผลประโยชน์ใดๆ ที่ได้รับจากการฝากเงินดังกล่าว ในลักษณะเช่นเดียวกับการประกันชีวิต
สำนักวิชาการแผนภาษี กรมสรรพากร
โทร. 0 2272 9479
--กระทรวงการคลัง--