Macro Morning Focus ประจำวันที่ 2 สิงหาคม 2559
Summary:
1. แก้แรงงานรับมือนโยบาย 4.0
2. อาหารสดดึงเงินเฟ้อ ก.ค. บวกได้ร้อยละ 0.1
3. GDP สหรัฐไตรมาส 2 โตร้อยละ 1.2 ต่ำเกินคาด
1. แก้แรงงานรับมือนโยบาย 4.0
- นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมภาครัฐภาคเอกชน เพื่อทำแผนรับมือการผลักดันนโยบายประเทศไทย 4.0 ซึ่งมีหลายส่วนที่ได้รับผลกระทบทั้งผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งแรงงานซึ่งเป็นส่วนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากประเทศไทย 4.0 คือ การนำเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตทำให้ใช้แรงงานน้อยลง
- สศค. วิเคราะห์ว่า นโยบายอุตสาหกรรม 4.0 คือ การผลิตในรูปแบบใหม่ที่เน้นการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีเข้มข้น กล่าวคือ มีการนำเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม ซึ่งภาคส่วนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือ ภาคแรงงาน ดังนั้น ภาครัฐจึงควรมีการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการเพิ่มทักษะและความรู้ของแรงงานให้เพียงพอต่อการใช้เทคโนโลยีในอนาคต ในส่วนของการปรับลดแรงงาน คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อแรงงานไทยไม่มากนัก เนื่องจากในอนาคตกำลังแรงงานของไทยมีแนวโน้มลดลงอยู่แล้ว จากการที่ไทยจะได้เข้าสู่สังคมชราภาพ (Ageing Society) อย่างเต็มตัว ทั้งนี้ จากข้อมูลล่าสุดในเดือน มิ.ย. 59 พบว่าการจ้างงานโดยรวมลดลงเล็กน้อยที่ร้อยละ -0.2 คิดเป็นอัตราว่างงานร้อยละ 1.0
2. อาหารสดดึงเงินเฟ้อ ก.ค. บวกได้ร้อยละ 0.1
- นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค. กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรืออัตราเงินเฟ้อของประเทศ ในเดือนกรกฎาคม 2559 พบว่าอัตราเงินเฟ้อขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อในช่วง 7 เดือนแรกของปี ยังคงติดลบที่ ร้อยละ 0.07
- สศค. วิเคราะห์ว่า การที่อัตราเงินเฟ้อในเดือน ก.ค. 59 ยังคงเป็นบวก เป็นผลมาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าในหมวดอาหาร และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เช่น เนื้อสัตว์ สัตว์น้ำ ไข่ ผลิตภัณฑ์นม น้ำอัดลม เป็นต้น ซึ่งมีการขยายตัวร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่สินค้าในหมวดยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขยายตัวร้อยละ 13.0 จากการปรับเพิ่มภาษียาสูบเมื่อต้นปี ทั้งนี้ สศค. คาดว่า ยังไม่น่าจะมีปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อปรับตัวลดลงเนื่องจากราคาสินค้าในหมวดอาหารสดที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้น กอปรกับราคาน้ำมันขายปลีกที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อปี 59 จะอยู่ที่ร้อยละ 0.6 (ประมาณการ ณ เดือน ก.ค. 59)
3. GDP สหรัฐไตรมาส 2 โตร้อยละ 1.2 ต่ำเกินคาด
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยว่า GDP ไตรมาส 2 ขยายตัวในอัตราเพียงร้อยละ 1.2 ต่อปี หลังจากที่ได้โตในอัตราที่เพิ่งปรับลดลงเหลือร้อยละ 0.8 ในไตรมาสแรก นอกจากนั้นตัวเลข GDP ของไตรมาส 4 ของปี58 ก็ถูกปรับลดลงอีกร้อยละ 0.5 เหลือเป็นร้อยละ 0.9
- สศค. วิเคราะห์ว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐในไตรมาส 2 นั้น แม้จะสูงขึ้นกว่าไตรมาสที่ผ่านมา แต่ก็ยังต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ปัจจัยฉุดการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสที่ผ่านมา คือ ราคาน้ำมันที่ถูกลง และเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้น แม้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นในครึ่งหลังของปี 59 แต่ตัวเลขการขยายตัวโดยรวมของ GDP น่าจะไม่ถึงร้อยละ 2 ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากปริมาณสินค้าคงคลังลดลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปี ประกอบกับการลงทุนของภาคธุรกิจซบเซาลง แม้ว่าตัวเลขสินค้าคงคลังที่ลดลงจะเป็นปัจจัยถ่วง GDP ของไตรมาส 2 ทั้งนี้สศค.ได้ประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐไว้ที่ ร้อยละ 2.2 (คาดการณ์ ณ เดือน ก.ค.59)
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257