รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 4 สิงหาคม 2559

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 4, 2016 15:26 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 4 สิงหาคม 2559

Summary:

1. กนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี

2. ครม.ไฟเขียวแพคเกจสนับสนุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

3. Fed สาขา Dallas กล่าวว่าจะใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินแบบค่อยเป็นค่อยไป

1. กนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี เนื่องจากประเมินว่าเศรษฐกิจยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้ในระยะข้างหน้าจะมีความเสี่ยงด้านต่ำเพิ่มขึ้นจากการประชุมครั้งก่อน
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี ของ กนง. เพื่อผ่อนคลายมาตรการทางการเงินและเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยได้รับแรงขับเคลื่อนหลักจากการใช้จ่ายภาครัฐและภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดี ทั้งนี้ ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ แต่ยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านต่าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการประชุมครั้งก่อน อาทิ ความไม่แน่นอนภายหลังการลงประชามติในสหราชอาณาจักร (Brexit) ปัญหาภาคการเงินในยุโรปและพัฒนาการทางการเมืองในต่างประเทศ ซึ่งอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นและแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าในระยะต่อไป อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ก.ค. 59 ชะลอลงเล็กน้อยตามราคาอาหารสดเป็นส่าคัญ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงทรงตัว ส่าหรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายและอัตราเงินเฟ้อทั่วไป สศค. คาดว่า จะอยู่ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 1.20 ถึง 1.80) และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.6 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 0.3 ถึง 0.9) ตามล่าดับ (คาดการณ์ ณ เดือน ก.ค. 59 )
2. ครม.ไฟเขียวแพคเกจสนับสนุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
  • การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการสนับสนุนให้มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ ตามนโยบายประเทศไทย 4.0 ในการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมไทยเพื่อรองรับแนวโน้มอุตสาหกรรมในอนาคต ตามมติครม.เห็นชอบแผนส่งเสริมรถไฟฟ้าใน 2 ส่วน คือ ส่วนแรก แผนส่งเสริมลงทุนผลิตรถไฟฟ้าที่เป็นรูปธรรม และส่วนที่สอง แผนการส่งเสริมให้มีรถยนต์ไฟฟ้ามาขับเคลื่อนบนถนนภายในเดือน พ.ย.59
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตรายเดิม เนื่องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในไทยและตลาดโลกยังไม่ใหญ่มากพอ แต่มีลักษณะสอดคล้องกับแนวนโยบายการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจจากภายในโดยอาศัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในระยะต่อไป อีกทั้งการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า (Battery Electric Vehicles : BEV) ยังเป็นการเตรียมความพร้อมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีอนาคตของยานยนต์ ซึ่งมีทิศทางที่ชัดเจนว่า มุ่งไปสู่การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (Motor Driven) เนื่องจาก การท่างานของมอเตอร์ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูงกว่าเครื่องยนต์สันดาปภายใน อีกทั้ง การใช้พลังงานไฟฟ้าในรถยนต์ไม่ก่อให้เกิดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเห็นได้ว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในโลกเริ่มมีการแข่งขันที่สูงขึ้น จนกระทั่งรัฐบาลของบางประเทศเช่น ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปมีการออกมาตรการเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ของตนเอง
3. Fed สาขา Dallas กล่าวว่าจะใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินแบบค่อยเป็นค่อยไป
  • นาย Robert Kaplan ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สาขา Dallas กล่าวย้ำในการประชุม Official Monetary and Financial Institutions Forum ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนว่า Fed ควรใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินแบบค่อยเป็นค่อยไปและด้วยความอดทน (gradual and patient manner) หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี เมื่อเดือน ธ.ค. 58 เนื่องจากการขยายตัวของ GDP สหรัฐฯ ที่ผ่านมาในปี 59 น่าผิดหวัง และปัจจัยความเสี่ยงหลายประการในตลาดโลกที่อาจกระทบเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงมีอยู่
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ข้อมูลล่าสุดเศรษฐกิจของสหรัฐในไตรมาส 2 ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 1.2 ต่อปี ต่ากว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ เนื่องจากราคาน่ามันที่ถูกลง และเงินดอลลาร์ที่แข็งขึ้น ประกอบกับการลงทุนของภาคธุรกิจซบเซาลง อย่างไรก็ดี จากตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสที่ 2 ที่ออกมาต่ากว่าการคาดการณ์ ท่าให้นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่า Fed อาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป ทั้งนี้ สศค. คาดการณ์ ณ เดือน ก.ค.59 ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐจะขยายตัวที่ร้อยละ 2.2 ต่อปี

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ