นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 (ตุลาคม 2558 – กรกฎาคม 2559) จัดเก็บได้ 1,969,729 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 91,684 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.9 และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 11.1 โดยสาเหตุหลักมาจากการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 และ 1800 MHz (4G) ประมาณ 56,273 ล้านบาท นอกจากนี้ การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีสรรพสามิตน้ำมัน สูงกว่าประมาณการ 7,735 7,249 และ 6,407 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.9 2.7 และ 4.6 ตามลำดับ สำหรับการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการ 6,128 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.6
นายกฤษฎาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวเป็นไปตามที่กระทรวงการคลังคาดการณ์ไว้ รวมทั้งการนำส่งรายได้พิเศษและการบริหารเร่งรัดการจัดเก็บรายได้รัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ทำให้การจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วงที่ผ่านมาเป็นไปตามที่กระทรวงการคลังประเมินไว้ สำหรับในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ กระทรวงการคลังคาดว่า จะสามารถจัดเก็บรายได้รัฐบาลได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้”
ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิเดือนกรกฎาคม 2559
และในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 (ตุลาคม 2558 – กรกฎาคม 2559)
ในเดือนกรกฎาคม 2559 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 174,024 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ11,112 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.8 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 22.2) ส่งผลให้ในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1,969,729 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 91,684 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.9 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 11.1)
รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 174,024 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 11,112 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.8 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 22.2) โดยเป็นการจัดเก็บรายได้ของส่วนราชการอื่นสูงกว่าประมาณการจำนวน 23,003 ล้านบาท หรือร้อยละ 330.7 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 202.8) เป็นผลจากการนำส่งค่าภาคหลวงปิโตรเลียมสูงกว่าประมาณการ 8,375 ล้านบาท เนื่องจากการนำส่งค่าภาคหลวงปิโตรเลียมรอบไตรมาสเร็วกว่าที่กำหนดไว้ว่าจะนำส่งในเดือนสิงหาคม 2559 ประกอบกับการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 MHz (4G) ในส่วนที่เหลือ 8,031 ล้านบาท และมีการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรทัศน์ในระบบดิจิทัล งวดที่ 3 จำนวน 6,061 ล้านบาท เป็นสำคัญ นอกจากนี้ การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์สูงกว่าประมาณการ 1,644 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.9 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 51.7) และการจัดเก็บภาษีน้ำมันสูงกว่าประมาณการ 1,505 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.4 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 27.2)
ในขณะที่ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 7,692 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.8 (แต่สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 0.4) เป็นผลจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการนำเข้าต่ำกว่าประมาณการ 5,511 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.5 (ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 2.2) สำหรับภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคในประเทศจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 2,181 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.9 (แต่สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 2.2) สะท้อนถึงการบริโภคในประเทศที่ยังคงขยายตัว
รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1,969,729 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 91,684 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.9 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 11.1) เนื่องจากมีรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 และ 1800 MHz (4G) เป็นสำคัญ
2.1 กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวม 1,377,919 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 102,084 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.9 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 1.2) โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ ที่สำคัญ ได้แก่
- ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 48,197 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.5 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 1.0) โดยภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 38,736 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.7 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.7) เนื่องจากมูลค่าการนำเข้าที่หดตัวอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง ขณะที่ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการบริโภคภายในประเทศจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 9,460 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.5 (แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 4.1)
- ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 40,385 ล้านบาท หรือร้อยละ 47.9 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 44.8) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ (เหลว) ลดลง ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีกำไรเพื่อชำระภาษีลดลง
อย่างไรก็ดี ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 7,249 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.7 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 5.7) โดยภาษีหัก ณ ที่จ่ายภาคเอกชนจากเงินเดือน (ภ.ง.ด. 1) และอสังหาริมทรัพย์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ เนื่องจากการขยายตัวของฐานเงินเดือนที่สูงกว่าประมาณการและผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา
2.2 กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 432,337 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 18,029 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.4 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 17.8) โดยภาษีสรรพสามิตรถยนต์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 7,735 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.9 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 26.1) เนื่องจากการปรับโครงสร้างอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป ได้ส่งผลให้รถยนต์บางประเภทมีภาษีสรรพสามิตรถยนต์เฉลี่ยต่อคันเพิ่มขึ้น ภาษีน้ำมันจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 6,407 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.6 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 39.7) เป็นผลจากการปรับขึ้นอัตราภาษีน้ำมันดีเซลและเบนซินจากลิตรละ 5.35 และ 6.0 บาท เป็นลิตรละ 5.65 และ 6.30 บาท ตามลำดับ ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2559 ส่วนภาษีเบียร์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 5,228 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.7 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 7.8)
2.3 กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 93,982 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 6,018 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.0 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 1.3) เนื่องจากได้รับผลกระทบของการปรับโครงสร้างอัตราภาษีศุลกากรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และมูลค่าการนำเข้าที่ยังคงหดตัว โดยมูลค่าการนำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐและเงินบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 หดตัวร้อยละ 11.1 และร้อยละ 3.0 ตามลำดับ ทั้งนี้ สินค้าที่จัดเก็บอากรขาเข้าได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ยานบกและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ประกอบ เครื่องจักรและเครื่องใช้กล ของทำด้วยเหล็กหรือเหล็กกล้า และพลาสติก
2.4 รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้รวม 116,032 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 6,128 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.6 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 1.7) ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ธนาคารออมสินกองทุนรวมวายุภักษ์ และการประปานครหลวง
2.5 หน่วยงานอื่น จัดเก็บรายได้รวม 273,488 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 150,775 ล้านบาท หรือร้อยละ 122.9 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 83.3) เนื่องจากการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 และ 1800 MHz (4G) จำนวน 56,273 ล้านบาท การรับรู้เงินส่วนเกินจากการจำหน่ายพันธบัตรเป็นรายได้จำนวน 42,734 ล้านบาท การชำระภาษีการพนันในส่วนของสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัวของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวน 11,982 ล้านบาท และการนำส่งเงินสภาพคล่องส่วนเกินของกองทุนหมุนเวียน 10,634 ล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับกรมธนารักษ์จัดเก็บรายได้รวม 5,619 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 513 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.0 (สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 9.6)
2.6 การคืนภาษีของกรมสรรพากร จำนวน 229,381 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 19,207 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.7 ประกอบด้วยการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 170,962 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 28,838 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.4 และการคืนภาษีอื่น ๆ (ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์) จำนวน 58,419 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 9,631 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 19.7
2.7 อากรถอนคืนกรมศุลกากร จำนวน 8,786 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1,071 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.9
2.8 การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน 11,957 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 2,291 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.1
2.9 เงินกันชดเชยภาษีสำหรับสินค้าส่งออก จำนวน 13,748 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 1,054 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.1
2.10 การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตาม พ.ร.บ. กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจฯ จำนวน 7 งวด เป็นเงิน 60,157 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 3,373 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.3
สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร. 0 2273 9020 ต่อ 3543
--กระทรวงการคลัง--