Macro Morning Focus ประจำวันที่ 15 กันยายน 2559
Summary:
1. กนง.มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 1.50 ตามตลาดคาด
2. พาณิชย์จัดงาน GI Market 2016 ขานรับ Thailand 4.0
3. จีนเผย FDI ในเดือน ส.ค. 59 ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7
1. กนง.มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 1.50 ตามตลาดคาด
- ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 6/59 ในวันที่ 14 ก.ย.59 มีมติเป็น เอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี ตามที่ตลาดคาดการณ์
- สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และยังเผชิญกับความไม่แน่นอนทั้งในและต่างประเทศ การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี ของ กนง. เพื่อผ่อนคลายมาตรการทางการเงินและเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2/59 ขยายตัวได้สูงกว่าที่คาดการณ์จากการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวดี ส่วนหนึ่งจากปัจจัยชั่วคราวและมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ โดยภาคการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายภาครัฐยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ต่อเนื่อง ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชนอยู่ในระดับต่ำและยังกระจุกตัวอยู่ในเฉพาะบางภาคธุรกิจ การผลิตสินค้าอุตสาหกรรมและการส่งออกสินค้าหดตัวตามเศรษฐกิจเอเชียที่ชะลอลงและปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจไทย ซึ่งอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ส.ค. 59 อยู่ที่ร้อยละ 0.3 โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าประเภทอาหารสดและอาหารสำเร็จรูปเป็นสำคัญ และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.8 ทรงตัวเทียบเท่ากับเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังมีแนวโน้มกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงครึ่งหลังของปี ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามความเสี่ยงต่อเสถียรภาพการเงิน รวมทั้งพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น (Search for yield) จากการที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานาน
2. พาณิชย์จัดงาน GI Market 2016 ขานรับ Thailand 4.0
- นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การผลักดันและเร่งรัดให้มีการขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI รวมทั้งการสร้างความเข้าใจถึงประโยชน์ของการขึ้นทะเบียน GI เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงพาณิชย์ เป็นหนึ่งในนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ในการขับเคลื่อนประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0
- สศค. วิเคราะห์ว่า จากแนวนโยบายดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรและส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ของไทยให้มีศักยภาพในการแข่งขัน และสามารถพัฒนาต่อยอดเพื่อสร้างความแตกต่าง และมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการของไทย และเพื่อเป็นการสร้างโอกาสทางการตลาดและเพิ่มช่องทางการขาย ให้ผู้ประกอบการสินค้า GI ได้นำผลิตภัณฑ์มาแสดงและจำหน่ายในตลาดโมเดิร์นเทรดที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของกลุ่มสินค้าชุมชนระดับ premium อย่างสินค้า GI และเพื่อให้สินค้า GI เป็นที่รู้จักมากขึ้นโดยผลักดันให้สินค้า GI ของไทยได้รับการขึ้นทะเบียนให้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มมูลค่าของสินค้าและเป็นการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ผลิตสินค้าท้องถิ่น ทำให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชน เกิดการถ่ายทอดองค์ความรู้ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ผลิตชาวไทย ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลที่ต้องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม หรือ "Value-Based Economy"
3. จีนเผย FDI ในเดือน ส.ค. 59 ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7
- กระทรวงพาณิชย์ของจีน เปิดเผยว่า เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 ต่อปี ในเดือน ส.ค. 59 โดยรายงานระบุว่าเม็ดเงิน FDI ของจีนแตะที่ 5.732 หมื่นล้านหยวน (8.58 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
- สศค. วิเคราะห์ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจจีนเริ่มมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นสะท้อนจาก GDP ในไตรมาส 2 ปี 59 ที่ขยายตัวร้อยละ 6.7 ต่อปี จากอุปสงค์ภายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนที่ดำเนินนโยบายการเงินการคลังแบบผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลดีต่อนักลงทุนชาวต่างชาติมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจจีนมากขึ้น นอกจากนี้ เครื่องชี้เศรษฐกิจของจีนส่งสัญญาณดีขึ้น สะท้อนจากมูลค่าส่งออกเดือน ส.ค. 59 หดตัวร้อยละ -3.2 ต่อปี หดตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า จากการส่งออกไปยุโรปที่กลับมาขยายตัวได้ดี และสอดคล้องกับดัชนี PMI ภาคอุตสาหกรรมในเดือน ส.ค. 59 โดย NBS อยู่ที่ระดับ 50.4 จุด เพิ่มขึ้นจากระดับ 49.9 จุด ในเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจจีนในปี 59 จะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 6.6 ต่อปี (คาดการณ์ ณ เดือน ก.ค. 59)
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257