Macro Morning Focus ประจำวันที่ 29 กันยายน 2559
Summary:
1. ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือน ก.ย. อยู่ที่ 44.2 ดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2
2. World Economic Forum เผยไทยได้อันดับความสามารถแข่งขันที่ 34 ใกล้เคียงปีก่อน
3. ญี่ปุ่นเตรียมผ่อนคลายมาตรการวีซ่านักท่องเที่ยวจีน
1. ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือน ก.ย. อยู่ที่ 44.2 ดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2
- บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เผยดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน (KR Household Economic Condition Index) หรือ KR-ECI ในเดือน ก.ย. 59 อยู่ที่ระดับ 44.2 ปรับตัวดีขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และขยับขึ้นต่อเนื่องมาอยู่สูงสุดในรอบ 7 เดือน
- สศค. วิเคราะห์ว่า ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือนที่ปรับตัวดีขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจภายในประเทศที่มีสัญญาณการปรับตัวที่ดี สะท้อนได้จากการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งที่ขยายตัวร้อยละ 8.7 ต่อปี และยอดรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ที่ขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 21.0 ต่อปี สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจโดยรวม (จัดทำโดยหอการค้าไทย) ในเดือน ส.ค. 59 ที่ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 62.2 ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ประกอบกับราคาสินค้าที่ปรับลดลง ส่งผลให้ครัวเรือนมีสภาพคล่องเพิ่มมากขึ้น และความกังวลในการชำระหนี้ลดลง อีกทั้ง ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังคงทรงตัวในระดับต่ำ เป็นปัจจัยบวกต่ออุปสงค์ภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี 59 อาจมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดซึ่งยังคงส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย ทั้งนี้ สศค. คาดว่า เศรษฐกิจไทยปี 59 จะสามารถขยายตัวได้ที่ร้อยละ 3.3 (คาดการณ์ ณ เดือน ก.ค. 59)
2. World Economic Forum เผยไทยได้อันดับความสามารถแข่งขันที่ 34 ใกล้เคียงปีก่อน
- คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถลงผลสำรวจรายงานดัชนีความสามารถทางการแข่งขันระดับโลก (Global Competitiveness Index: GCI) ประจำปี 2016 ของ World Economic Forum (WEF) ซึ่งเปรียบเทียบความสามารถการแข่งขันของ 138 ประเทศทั่วโลก โดยปีนี้ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 34
- สศค. วิเคราะห์ว่า การเปรียบเทียบความสามารถทางการแข่งขันของประเทศไทยในปีนี้ พบว่า ด้านที่มีอันดับที่ดีขึ้นและส่งผลบวกต่อดัชนีความสามารถทางการแข่งขันโดยรวม ได้แก่ การพัฒนาด้านเศรษฐกิจมหภาค ซึ่งตัวชี้วัดที่พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ได้แก่ การใช้จ่ายภาครัฐ สัดส่วนการออมของประเทศต่อผลผลิตมวลรวมประชาชาติที่สูงขึ้น และสัดส่วนหนี้รัฐบาลต่อผลผลิตมวลรวมประชาชาติที่ลดต่ำลง อย่างไรก็ตาม สภาพการแข่งขันระหว่างประเทศในช่วงต่อไป จะขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้างนวัตกรรมของภาคธุรกิจมากขึ้น ทั้งนี้ ประเทศไทยควรมุ่งเน้นการพัฒนาด้านการรักษาเสถียรภาพของรัฐบาล ปรับปรุงระบบราชการ และขจัดการคอร์รัปชั่น มุ่งเน้นการส่งเสริมให้ภาคเอกชนเพิ่มการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างนวัตกรรม รวมทั้งพัฒนาบุคลากรให้เป็นมืออาชีพ สร้างบุคลากรที่มีทักษะ มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความเป็นผู้ประกอบการ เพื่อรองรับการพัฒนาในอนาคต
3. ญี่ปุ่นเตรียมผ่อนคลายมาตรการวีซ่านักท่องเที่ยวจีน
- กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นเตรียมใช้แผนผ่อนคลายข้อกำหนดในการออกวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยเฉพาะการเพิ่มจำนวนวีซ่าสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นบ่อยครั้ง โดยแผนดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 17 ต.ค. 59
- สศค. วิเคราะห์ว่า ในปี 58 จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมายังประเทศญี่ปุ่นมีสัดส่วนร้อยละ 25.3 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด ถือได้ว่านักท่องเที่ยวจีนเป็นตลาดหลักของการท่องเที่ยวญี่ปุ่น โดยสถานการณ์ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 59 นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมายังญี่ปุ่นมีจำนวนทั้งสิ้น 4.5 ล้านคน ขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 34.0 ต่อปี ส่วนหนึ่งเป็นผลจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าในระยะที่ผ่านมา ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวคาดว่าจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการดำเนินกิจกรรมด้านธุรกิจระหว่างจีนและญี่ปุ่น อีกทั้งยังเพิ่มจำนวนผู้ที่เดินทางเข้า-ออกญี่ปุ่นบ่อยครั้งขึ้น ซึ่งภายใต้ข้อกำหนดใหม่นี้ จะมีการยืดอายุวีซ่าให้แก่ผู้ที่ต้องเดินทางเข้าญี่ปุ่นบ่อยครั้งเพื่อการทำธุรกิจเป็นระยะเวลาสั้น ๆ หรือให้แก่บุคคลในแวดวงวัฒนธรรม หรือนักวิชาการ มากขึ้นถึง 10 ปี ซึ่งจากเดิมกำหนดไว้เพียง 5 ปี
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257