รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 8, 2016 11:12 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559

Summary:

1. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยกระทรวงพาณิชย์ เดือน ก.ย. 59 อยู่ที่ระดับ 36.4

2. 'ทนง' มอง GDP ปีนี้โตใกล้เคียงร้อยละ 3

3. หนี้เสียจีนเพิ่มขึ้นในระดับที่ยังไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านการเงิน

1. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยกระทรวงพาณิชย์ เดือน ก.ย. 59 อยู่ที่ระดับ 36.4
  • กระทรวงพาณิชย์เผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนตุลาคม 59 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นฯ มีค่า 36.4 ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 59 ที่มีค่า 36.2
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ก.ย. 59 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 36.4 โดยได้รับปัจจัยบวกจากสถานการณ์น้ำกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังเกิดภัยแล้ง และน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ได้คลี่คลายลง กอปรกับทิศทางการส่งออกของไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น รวมถึงราคาสินค้าเกษตรในภาพรวมที่ยังคงขยายตัวได้ อาทิ ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ขณะที่ประชาชนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคตั้งแต่ต้นปี ถึงปัจจุบัน อยู่ที่ระดับ 36.2 ซึ่งอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนยังไม่ค่อยมีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจ
2. 'ทนง' มอง GDP ปีนี้โตใกล้เคียงร้อยละ 3
  • นาย ทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้น่าจะขยายตัวใกล้เคียงที่ร้อยละ 3 ถึงแม้ว่าการลงทุนภาคเอกชนยังคงชะลอตัวแต่ยังคงมีการขับเคลื่อนหลังจากการลงทุนของภาครัฐต่อเนื่อง ขณะที่เรื่องสถานการณ์สำคัญที่อาจทำให้เศรษฐกิจชะลอลงคือรายได้จากภาคเกษตรกรที่ลดลงโดยเฉพาะราคาข้าวตกต่ำจากผลผลิตที่ล้นตลาดทำให้ราคาในตลาดโลกปรับตัวลดลงทันที ซึ่งภาครัฐเองคงต้องเร่งแก้ไขในเรื่องดังกล่าว
  • สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 59 คาดว่าจะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 3.3 (คาดการณ์ ณ เดือน ต.ค. 59) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 2.8 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนภาครัฐที่คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 10.7 ในปีนี้ จากการเร่งรัดการเบิกจ่ายของรัฐบาล ภายใต้โครงการบริหารจัดการน้ำและระบบขนส่งทางถนน และโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภายใต้แผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่งในระยะเร่งด่วน 59 ที่ยังคงมีความต่อเนื่อง ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวจากปีก่อนโดยคาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 1.6 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ และการลงทุนภาครัฐในโครงการสำคัญต่างๆ มีความก้าวหน้าและชัดเจนมากขึ้น สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 60 คาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 3.4 (คาดการณ์ ณ เดือน ต.ค. 59)
3. หนี้เสียจีนเพิ่มขึ้นในระดับที่ยังไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านการเงิน
  • นายหวัง โจวซิง รองผู้อำนวยการคณะกรรมการกำกับดูแลภาคการธนาคารของจีนเปิดเผยว่า อัตราเงินกู้หนี้เสียของภาคธนาคารจีนปรับตัวขึ้นสู่ระดับร้อยละ 1.75 ณ สิ้นเดือน ก.ย. 59 อยู่ที่ 1.4 ล้านล้านหยวน (2.068 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากระดับร้อยละ 0.87 ของช่วงสิ้นปี 55 ซึ่งอัตราหนี้เสียของธนาคารพาณิชย์ไม่ได้อยู่ในระดับที่จะก่อให้เกิดความเสี่ยงทางการเงินเชิงระบบ
  • สศค.วิเคราะห์ว่า อัตราเงินกู้หนี้เสียที่เพิ่มขึ้น จะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านการเงินเชิงระบบ เนื่องจากความเสี่ยงประเภทนี้จะต้องเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม หนี้สินและสภาพคล่องในภาคเอกชน และอัตราส่วนความพอเพียงของเงินทุน อย่างไรก็ตามอัตราเงินกู้หนี้เสียที่เพิ่มขึ้น รัฐบาลจีนควรเริ่มแก้ไขความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดวิกฤติหนี้ ควรควบคุมการขยายตัวของสินเชื่อและงดให้การสนับสนุนรัฐวิสาหกิจที่ไม่มีกำไร และพิจารณาถึงความสามารถของธนาคารพาณิชย์ในการรับมือกับเงินกู้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ผ่านการกันเงินทุนสำรองเพื่อให้ครอบคลุมถึงเงินกู้หนี้เสีย กำไร และเงินทุนสำหรับการประเมินระดับ NPL ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจจีนในปี 59 จะขยายตัวที่ร้อยละ 6.6 และคาดว่าในปี 60 จะขยายตัวร้อยละ 6.5 ( คาดการณ์ ณ เดือน ต.ค.59)

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ