Macro Morning Focus ประจำวันที่ 15 พฤศจิกายน 2559
Summary:
1. ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คาดจีดีพีปี 60 โตร้อยละ 3.3 ใกล้เคียงปีนี้
2. พาณิชย์ เปิดเจรจาซื้อขายข้าว-มันสำปะหลัง
3. คุโรดะ มั่นใจ BOJ บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อร้อยละ 2 ในปีงบประมาณ 2561
1. ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คาดจีดีพีปี 60 โตร้อยละ 3.3 ใกล้เคียงปีนี้
- นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปี 60 จะมีอัตราการขยายตัว (จีดีพี) ที่ร้อยละ 3.3 ใกล้เคียงกับปีนี้ โดยยังได้รับแรงหนุนจากการลงทุนภาครัฐและการท่องเที่ยว
- สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 60 จะได้รับแรงส่งของการใช้จ่ายภาครัฐที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมใหม่ๆ ที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 อาทิ โครงการรถไฟทางคู่ และรถไฟฟ้าในเขตเมือง ประกอบกับแนวโน้มรายได้เกษตรกรที่ปรับตัวดีขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกคาดว่าจะเป็นแรงสนับสนุนให้การบริโภคภาคเอกชนฟื้นตัว นอกจากนี้ เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่เริ่มมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น ประกอบกับแนวโน้มค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง คาดว่าจะส่งผลดีต่อปริมาณคำสั่งซื้อสินค้าส่งออก ขณะที่การส่งออกบริการคาดว่าจะยังคงขยายตัวต่อเนื่องตามการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ทั้งนี่ สศค. คาดว่า ในปี 60 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ร้อยละ 3.4 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.9 - 3.9 (คาดการณ์ ณ ต.ค. 59)
2. พาณิชย์ เปิดเจรจาซื้อขายข้าว-มันสำปะหลัง
- นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เชื่อมั่นว่าโครงการจับคู่ธุรกิจสินค้าข้าวหอมมะลิ ผลิตภัณฑ์จากข้าว และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 - 16 พ.ย.59 จะช่วยเร่งระบายสินค้าเกษตรของไทยที่จะออกสู่ตลาดในปริมาณมากช่วงปลายปี และที่สำคัญจะช่วยผลักดันราคาในประเทศให้สูงขึ้นได้ โดยคาดว่าจะก่อให้เกิดคำสั่งซื้อปริมาณมากที่มีมูลค่ารวมสูงถึงกว่า 6.3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าการสั่งซื้อข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าวประมาณ 28,200 ล้านบาท และมูลค่าการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังอีกประมาณ 35,180 ล้านบาท
- สศค. วิเคราะห์ว่า จากข้อมูลเชิงประจักษ์พบว่า ดัชนีผลผลิตมันสำปะหลังในเดือน ก.ย. ขยายตัวในระดับสูงถึงร้อยละ 102.7 รวมถึงดัชนีผลผลิตข้าวเปลือกหดตัวร้อยละ -4.4 ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -23.3 และมีแนวโน้มขยายตัวได้ในช่วงที่เหลือของปีซึ่งเป็นฤดูเก็บเกี่ยว ทั้งนี้ผลผลิตข้าวเปลือกและมันสำปะหลังที่ออกสู่ตลาดมากขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ดัชนีราคาข้าวเปลือกและมันสำปะหลังหดตัวร้อยละ -1.8 และ -51.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ ทั้งนี้โครงการตามข่าวน่าจะเป็นส่วนช่วยให้เกิดอุปสงค์ต่อผลิตภัณฑ์ข้าวและมันสำปะหลังมากขึ้น ซึ่งเป็นการช่วยลดปริมาณสินค้าเกษตรส่วนเกินในตลาดได้ และอาจช่วยแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำได้บ้าง ที่สำคัญโครงการนี้ยังเป็นการประชาสัมพันธ์ศักยภาพของสินค้าไทยสู่ตลาดโลก เปิดโอกาสให้เกิดการค้าขายกับอีกหลายประเทศ นำไปสู่การขยายกลุ่มผู้บริโภคในระยะยาวอีกด้วย
3. คุโรดะ มั่นใจ BOJ บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อร้อยละ 2 ในปีงบประมาณ 2561
- นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้กล่าวแสดงความเชื่อมั่นในวันนี้ว่า BOJ จะสามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับร้อยละ 2 ในปีงบประมาณ 2561
- สศค. วิเคราะห์ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจและราคาผู้บริโภคญี่ปุ่นต่างก็มีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งต้องมีการติดตามผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวขึ้นของราคาน้ำมันและความเป็นไปได้ที่อัตราค่าแรงจะสูงขึ้นจะช่วยหนุนราคาผู้บริโภคให้ปรับตัวสูงขึ้นด้วย โดยดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ก.ย. 59 ของญี่ปุ่น ปรับตัวลงร้อยละ 0.5 เทียบรายปี เป็นสถิติที่ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ทั้งนี้ สศค. คาดว่า ในปี 59 เศรษฐกิจของญี่ปุ่น จะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 0.8 (คาดการณ์ ณ เดือน ต.ค. 59)
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257